ข้อดีสำหรับสวนสิงคโปร์——————————————-
สำหรับสายเที่ยวสิงคโปร์ อยากไปเที่ยวโซนไหน หรือหาอะไรกินต่อ ลองดูบทความอื่นๆ เพิ่มเติมจากข้างล่างได้เลยยย
Part I : มาเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวสิงคโปร์กัน
– เช็คลิสต์ 11 ของต้องเตรียมก่อนออกไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง!
– รีวิว 2 ซิมสิงคโปร์แบบละเอียดยิบ พร้อมวิธีซื้อง่ายๆจาก Klook
Part II : กิน/เที่ยวสิงคโปร์หลากสไตล์
– แจกแพลนปั่นจักรยานสิงคโปร์รอบเมอรีน่า เบย์ ด้วยงบ 100 บาท!
– 25 ที่เที่ยวสิงคโปร์ ฉบับอัปเดตครบทุกสไตล์ ใครไม่ไปคือพลาด!
– เปิดพิกัด 25 ร้านมิชลินสิงคโปร์ที่จัดว่าเด็ด แบบต้องตามมากิน
– พาทัวร์ 17 เครื่องเล่น Universal Studio Singapore แบบจุใจ เล่นยังไงให้ทันภายใน 6 ชั่วโมง!
– จัดทริปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน ครบทั้งที่กินดีๆ ที่เที่ยวเด็ดๆ แบบห้ามพลาด
1
Alexandra Arch
มาเริ่มเที่ยวสิงคโปร์ที่แรกกัน ที่นี่วิวดีแบบตะโกน ใครชอบความธรรมชาติแต่มีความทันสมัยปนอยู่ ต้องมาเยี่ยมชม Alexandra Arch เลย ที่นี่เป็นสะพานคนเดินที่ครอบคลุมถนน Alexandra
ทุกคนเห็นสีขาวๆ โค้งๆ ไหม อันนั้นเขาได้รับการออกแบบโดยบริษัท LOOK Architects ของสิงคโปร์และได้รับแรงบันดาลใจจากใบมะเดื่อ ทำให้ซุ้มประตูของสะพานเหล็กโน้มตัวอย่างสวยงาม เป็นจุดที่บอกเลยว่ามองวิวธรรมชาติสวยมากๆ ที่นี่จะอยู่ระแวกเดียวกับ Southern Ridges ใครสายเดินป่า กว่าจะมาถึงนี้บอกเลยว่าใช้เวลาประมาณนึงเลย เพราะฉะนั้นถ้าขี่จักรยานน่าจะช่วยลดแรงได้เยอะนะ
Location (เปิด 24 ชั่วโมง)
2
Southern Ridges
สำหรับที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสวนสิงคโปร์ที่มีแหล่งเดินป่ามุมถ่ายรูปสวยๆ กระจายตัวออกมาหลากหลายให้เราเลือกถ่ายเลยก็ว่าได้ Southern Ridges เป็นพื้นที่ที่เชื่อมระหว่าง Mount Faber Park, Telok Blangah Hill Park, HortPark, Kent Ridge Park และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Labrador ทั้งหมดนี้จัดว่าเป็นทางเลือกสําหรับคนที่มีเวลาเยอะมาก!!!
ใครอยากเดินชมพันธ์ุไม้ สัมผัสลมธรรมชาติ ดูนกดูไม้ อยากได้มุมถ่ายรูป รวมทั้งออกกำลังกาย แค่เราเดินไปตามทางเดิน บอกเลยว่าจุใจมาก เพราะสะพานเขาทอดยาวมาก แต่จะบอกว่าถ้าเจอจักรยานเช่า ให้เราเอามาด้วยก็ดี เพราะมันไกลมากๆ เรียกได้ว่าวิวสวยจริง แต่ต้องทน!!
อีกอย่างคือที่นี่จะมี Henderson Waves ที่มีลักษณะเหมือนกับหนอนซี่โครงด้วยนะ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นแบบไหนไปดูสถานที่ต่อไปเลย
Location (เปิด 24 ชั่วโมง)
3
Henderson Waves
Henderson Waves เป็นสถานที่ที่จัดว่าเห็นครั้งแรกคือแปลกแต่สวย เพราะมีลักษณะเหมือนกับซี่โครง หนอนตัวยาวๆ เป็นลูกคลื่นเหมือนชื่อเลย นับเป็นสวนที่เชื่อมต่อกับ Mount Faber Park กับ Telok Blangah Hill Park เป็นหนึ่งในสะพานคนเดินที่สูงที่สุดในสิงคโปร์
อีกทั้งยังเป็นสะพานที่ไม่ได้มีดีแค่ชมธรรมชาติสีเขียว แต่เราจะยังได้เจอการออกแบบที่เหมือนกับงานศิลปะ/คลื่น เป็นที่ตั้งของพืชและสัตว์นานาชนิด บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนสำหรับคนที่อยากออกมาสัมผัสชีวิตนอกเมืองเลย
Location (เปิด 24 ชั่วโมง)
4
HortPark
สวน HortPark นับว่าเป็นสวนที่ร่มเย็นแล้วก็สวยงามมากๆ แถมที่นี่เป็นสวนที่รวมกิจกรรมเกี่ยวกับการทำสวน การศึกษาธรรมชาติ ศูนย์ความรู้เรื่องพืช รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ให้น้องหมามาวิ่งเล่น
สำหรับใครที่ชอบดูพืช อยากศึกษาเกี่ยวกับการเพาะปลูก หรืออยากหาแหล่งพักผ่อน ออกกำลังกาย บอกเลยว่าที่นี่ตอบโจทย์ แถมที่นี่ยังเป็นสวนที่ใกล้กับสวนที่อื่นๆ อีกด้วย ใครขี้เกียจเดินก็สามารถปั่นจักรยานเข้ามาได้ด้วยนะ เรียกเหงื่อได้ดีมากจริงๆ
Location
เวลาทําการ : ทุกวัน 06:00-23:00 น.
5
Mount Faber Park
Mount Faber Park อีกหนึ่งสวน(ไม่)ลับ ที่สามารถนั่งไปเกาะ Sentosa ได้! ที่นี่เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ มีกระเช้าลอยฟ้าจาก Mount Fabr เข้าสู่เกาะได้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่เราจะได้อิ่มเอมใจไปกับทิวทัศน์อันตระการตาของขอบฟ้าจากด้านบน
นอกจากนี้ข้างบนยังมีกล้องโทรทรรศน์สำหรับชมวิวด้วยนะ สำหรับใครที่มาแนะนำให้ใส่ชุดง่ายๆ หรือออกกำลังกายมาล่ะ เพราะจะบอกว่ามันเหนื่อยมากกก (ปล. สำหรับใครที่มาสวนสาธารณะ Southern Ridges จะบอกว่าที่นี่ก็อยู่ระแวกเดียวกันเลย)
6
Jurong Central Park
เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะแห่งแรกในสิงคโปร์ที่มีลักษณะคล้ายกับเกมกระดานขนาดเท่าตัวจริง สงสัยล่ะสิ เราหมายถึงมันเป็นเหมือนสวนสำหรับเล่นสนุก เพราะที่นี่เป็นพื้นที่สวนสีเขียวมาพร้อมกับสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กๆ และเป็นพื้นที่พบปะกันของครอบครัวเลยก็ว่าได้
สถานที่ตรงนี้ช่วยให้เราได้รู้สึกถึงความเป็นเด็กเลย แต่ความแปลกใหม่นั่นก็คือ เราจะได้เห็นวิถีการเล่นของเด็กสิงคโปร์ด้วย ได้ปั่นจักรยานดูต้นไม้ต่างๆ นับว่าเป็นอีกสวนที่เหมาะกับมากับครอบครัว และมากับแก๊งเพื่อนมากๆ
7
Jurong Lake
สำหรับที่นี่ต้องบอกเลยว่ากว้างเว่อร์วัง แต่ความกว้างนั้นไม่ได้ทำให้เหนื่อยเลย เพราะตรงนี้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทะเลสาปที่มีชื่อว่า จูร่ง และมากมายไปด้วยต้นไม้สีเขียวธรรมชาติ แถมยังเต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปมากมาย มุมนี้จะมองเห็นตึกไกลๆ เรียงสวยเลย
นอกจากนี้ถ้าใครชอบสัมผัสกับภูมิทัศน์ธรรมชาติ อยากศึกษาพืชพันธุ์ ถ้ามาที่นี่ก็ได้ความรู้กลับไปเยอะมากๆ แล้วหนองน้ําจืดที่เราเห็นอยู่นี่ ก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ธรรมชาติของสิงคโปร์ด้วยนะ
8
OCBC Arboretum
ต่อด้วยสวนรุกขชาติ OCBC ที่นี่ไม่เหมือนกับที่อื่น เพราะที่อื่นๆ จะเต็มไปด้วยต้นไม้ แต่ที่นี่จะเต็มไปด้วย บ้านกัลลอป ที่เคยอยู่ในยุคอาณานิคมที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2441 ซึ่ง ณ ตอนนี้กลายเป็นของ Forest Discovery Centre @ OCBC Arboretum
โดยในบ้านหลังนี้จะคล้ายกับนิทรรศการแสดงระบบนิเวศป่าไม้ของสิงคโปร์ เพื่อให้เน้นย้ำถึงความสําคัญของการอนุรักษ์ไว้ แน่นอนว่าเราไปเย็นเกิน มันจึงปิดแล้ว!! เลยไม่ได้ไปถ่ายด้านใน แต่ก็ไม่ลืมที่จะถ่ายบริเวณระแวกนอกนี้มาแทนนะ ซึ่งตัววิวก็สวยใช้ได้ทีเดียวเลยล่ะ
9
Fort Canning Park
สำหรับ Fort Canning Park เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะของสิงคโปร์ที่ใหญ่มาก นับว่าเป็นสวนที่หลายๆ โรงเรียนของสิงคโปร์ชอบพาน้องๆ มาศึกษาธรรมชาติกันมากทีเดียว ด้วยความที่ใหญ่และกว้างนั่นเอง เลยมีหลายจุดให้เราสามารถเลือกเดินไปชมได้
ซึ่งในสวนนี้จะมีทั้ง Sang Nila Utama Garden, Battle Box, Tree Tunnel ที่ต้องมาเยือนเวลามาสิงคโปร์เลย จะถือว่าเป็นอีกแลนด์มาร์กสำคัญก็ว่าได้ ที่นี่มาง่ายมาก เพราะเป็นสวนที่อยู่ติดกับริมถนนและใกล้กับ MRT North East Line มาลง Clarke Quay หรือนั่ง MRt Downtown line มาลง Fort Canning พอเดินลงมาเดินไปอีก 1 นาทีก็ถึงแล้วจ้า
10
Sang Nila Utama Garden
Sang Nila Utama เป็นสวนที่อยู่ใน Fort Canning Park เดินเข้าไปตามทาง 3 นาทีก็ถึงแล้ว ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งในสวนของ Fort Canning Park ที่ต่างจากสวนอื่นๆ ในสิงคโปร์ เพราะพอเห็นที่นี่ปุ๊บก็ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังอยู่ในยุคโบราณปั๊บ
เพราะการตกแต่งจะให้อารมณ์สมัยที่มีพระราชวังยุคก่อน เมื่อเดินไปรอบๆ เราจะได้เห็นรูปปั้นสิ่งมีชีวิตที่แต่ก่อนมันเคยเดินไปทั่วบริเวณพระราชวัง เช่น กบและเป็ดที่เกลื่อนไปทั่วบริเวณนี้เลย แถมยังมีประตู แยกเหมือนกับอยู่ยุคสมัยโบราณอีกด้วย ถ่ายรูปตรงกลางนี่เท่สุดๆ ใครชอบความเงียบสงบ วิวสวยๆ อากาศสดชื่น บอกเลยว่าที่นี่เยียวยาใจสุดๆ
11
Battlebox
ใครอยากลองมาสัมผัสกับใต้ดินบังเกอร์หรือที่เราเรียกว่า ป้อมปราการสิงคโปร์ ที่เคยเป็นศูนย์บัญชาการสงครามโลกครั้งที่สองบอกเลยว่าต้องมาที่นี่เลย เพราะนอกจากจะเป็นสวนขนาดใหญ่ มีมุมถ่ายรูปมากมาย ข้างในยังมีพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย Battlebox จึงเป็นเหมือนมุมผจญภัยศูนย์บัญชาการลับสงครามโลกครั้งที่สองที่แท้จริง ซึ่งมันสร้างลึกลงไปในใต้ดินถึง 9 เมตรเลยทีเดียว (ปล. ที่นี่จะเป็นสวนที่เดียวที่เสียค่าเข้าชมนะ)
Location
เวลาทำการ : วันศุกร์ – วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09:30 – 17:30 น.
12
Tree Tunnel
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ใครมาสิงคโปร์ห้ามพลาดเลยคือ อุโมงค์รูปหัวใจ ที่นี่นับว่าเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตที่หลายคนชอบมากันจริงๆ แต่เราแนะนำให้มาช่วงเช้าๆ นะ คนจะน้อยกว่า แต่ก็ถือว่ามีคนอยู่ แต่ถ้าหลัง 9 โมงบอกเลยว่าโอโห คนต่อคิวเป็นหางว่าว ที่นี่จะเป็นส่วนหนึ่งของสวน Fort Canning Park ที่เป็นสวนธรรมชาติ ทำกิจกรรมขนาดใหญ่
ถ้าใครลงมาจากสวน Battle Box อุโมงค์นี้จะอยู่ข้างล่าง ให้เราเดินลงไปก็พบอุโมงค์แล้ว แต่หากใครมารถเมล์ แล้วมาลงสถานี Dhoby Ghaut เราจะได้ไปทางข้างล่างที่อยู่ริมถนนเลย มาไดัสองทางเลย
13
War Memorial Park
สำหรับสวนนี้เดินทางค่อนข้างสะดวกเลย เพราะอยู่ใกล้กับ National Gallery เดินมาแปบๆ ก็ถึงแล้ว (แต่อากาศแอบร้อน) ที่นี่จะเป็นอนุสรณ์สถานสงครามที่คล้ายกับตะเกียบ มีเสาทั้งหมดสี่เสาเพื่อเป็นตัวแทนของแต่ละเผ่าพันธุ์ทั้งสี่ เพื่อแสดงถึงความสามัคคีถึงทุกเผ่าพันธุ์ และระลึกถึงผู้ที่สูญเสียไปในสงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับเราชอบมานั่งแถวนี้มาก เพราะบริเวณนี้มีที่นั่งเยอะ ต้นไม้ร่มรื่นและเงียบสงบแม้จะอยู่ริมถนนก็ตาม นับว่าเป็นสวนในเมืองที่มีอากาศบริสุทธิ์ที่หนึ่งที่ต้องมาเลยย
14
MacRitchie Reservoir
ใครอยากมารับลมอ่างเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ที่นี่ก็เป็นอีกสวนน่ามาสุดๆ แต่ว่ามันไม่ได้มีดีแค่อ่างเก็บน้ำนี่สิ แต่ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่หลักที่แตกย่อยหลายโซนไว้มากๆ ที่นี่มีลิงด้วยนะ ขอเตือนเลยว่าอย่าไปแหย่มันเด็ดขาด
สำหรับ MacRitchie เราสามารถเดินทางไกลไปทะลุ Tree Top Walk และ Windsor Nature Park ได้ เหมาะสำหรับคนที่อยากเดินทางไกลไปด้วย และศึกษาธรรมชาติระหว่างทางเดิน ซึ่งคนที่ชอบออกกำลังกายอย่างนักวิ่ง นักปีนเขา รวมถึงคนที่ชอบพายเรือจะนิยมมาสวนแห่งนี้กันเป็นอันดับต้นๆ
เราแนะนำเลยว่าใครที่ไม่อยากเดินไกลกว่า 11 กิโลเมตร ให้อยู่บริเวณสวนด้านหน้าที่มีศาลากลางน้ำดีกว่า เพราะถ้าเราใจไม่ถึงแล้วเดินไปเรื่อยๆ บอกเลยว่าโคตรเหนื่อย! แต่ถ้าเดินไปเรื่อยๆ เราจะได้เจอกับ Treetop Walks สะพานแขนลอยทางอากาศขนาด 250 เมตร! เลยนะ ใครใจถึงก็ไปเลย แต่จะบอกว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการบนบานขอพรสุดๆ เดินไปถึงก็ขอพรกันสักหน่อยดีกว่า!
15
Windsor Nature Park
อุทยานธรรมชาติวินด์เซอร์ที่เพิ่งเปิดในปี 2560 เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะแห่งใหม่ของสิงคโปร์ มีเส้นทางประมาณ 4-5 กม. แต่ความพิเศษของที่นี่คือลําธารจํานวนมากที่ไหลผ่านเจอปลาน้อยๆ ต้นไม้ๆ แปลกๆ ระหว่างทางเดินเสมอ แล้วที่นี่ยังเชื่อมต่อกับทางไป Tree Top walk, MacRitchie Reservoir อีกด้วย ไม่ว่าเราจะเดินมาจากทางไหนเราก็สามารถเดินไปยังปลายทางที่นั่นได้
แต่ก็ต้องแลกมากับความเหนื่อยล้าาา!! ที่ทำขาลากนั่นเอง เพราะถ้าเดินมาจาก MacRitchie Reservoir มาถึงที่นี่น่าจะใช้ระยะทางกว่า 10 โลเลย ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ตามความไวที่เราเดิน
ชอบที่นี่อยู่อย่างนึงคือ มีสัตว์ต่างๆ มากมายที่เราสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าแบบใกล้มากๆ เช่น หมูป่าตัวเล็ก กระรอก กบสายพันธุ์หายาก กระต่าย ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่มักจะเอากล้องโปรตัวใหญ่ แล้วมาตั้งกล้องถ่ายเหมือนเป็นสารคดีกันเยอะมาก เห็นแล้วทำเราอดอยากถ่ายด้วยไม่ได้เลย
16
TreeTop Walk
ขอปิดท้ายด้วย Tree Top Walk สะพานแขวนสูงถึง 25 เมตร เราจะได้เจอกับยอดต้นไม้แสนสวย ระนาบกับท้องฟ้า พร้อมนกหลากหลายชนิดบินออกมาให้เราเห็น แถมเรายังได้รับอากาศก็บริสุทธิ์ แบบสูดแล้วสดชื่นขึ้นสมองเลย นับว่าเป็นอีกไฮไลต์ของเส้นทางเดินป่าจาก MacRitchie เพื่อมาที่แห่งนี้เลย
หรือใครอยากมาเข้ามาทาง Windsor Nature Park ก็เชื่อมกันอยู่นะ แต่ไม่ว่าทางไหนก็แนะนำเผื่อเวลาเดินสัก 1-2 ชั่วโมงสำหรับการเดิน เพราะที่นี่บอกเลยว่าอยู่ลึกมาก ไกลมาก ดู GPS อาจจะไม่ชัวร์ แนะนำให้ดูป้ายที่ชี้ไปตามทางดีกว่า และที่นี่ปิดช่วง 17:30 ดังนั้นรีบมานะทุกคน เดี๋ยวมาถึงแล้วปิดแล้วจะสั่น~
