🎎#รู้ไหมญี่ปุ่นมีกระเช้าให้ขึ้นโคตรสวย พาตะลุยเมืองเก่า #แจกแพลนเที่ยว One Day Trip in Gifu EP.3 : ทริป 1 วันไปกับกิฟุ พาแวะย่านซันมาจิ โดโอริ Little Kyoto พร้อมท้าสัมผัสความงดงามจากกระเช้าลอยฟ้า ชมวิวสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,156 เมตร 😍
 
ใครเคยมีสถานที่ที่มาแล้วจะต้องมองย้อนกลับมาไหมว่า “โห ชีวิตนี้เราเคยมาแล้วสินะ” ซึ่งสำหรับการเที่ยวในครั้งนี้เรากำลังรู้สึกแบบนั้นเลย โดยคราวนี้พวกเรา Lifesara ก็ได้ตัดสินใจมาต่อที่เมือง Gifu อีกหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความเก่าแก่ แต่กลับเต็มไปด้วยความงดงาม ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่น สภาพแวดล้อม วิวธรรมชาติ ตำนานความดั้งเดิมที่เหนือความคาดคิด รวมถึงอาหารในเมืองนี้ ทุกอย่างลงตัวมาก มากขนาดที่ว่ายิ่งมากับคนสำคัญ ยิ่งทำให้การมาเที่ยวในครั้งนี้ฝังลึกลงในใจไปไม่น้อยเลย
 
สำหรับใครที่กำลังมองหาแพลนเที่ยวญี่ปุ่น และไม่รู้ว่าในแต่ละวันควรไปเที่ยวจุดไหนบ้างถึงจะดี พวกเราก็ได้เตรียมแพลนสุดพิเศษมาให้อีกตามเคย ซึ่งคราวนี้เป็น Ep.3 ที่ทำต่อมาจาก Nagano และ Toyama สำหรับใครที่สนใจก็สามารถย้อนไปดูโพสอื่นๆ ได้เลยจ้า ฉะนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ไปดูกันว่าที่ Gifu มีอะไรน่าสนใจบ้าง ติดตามอ่านกันได้เลยยย~ 
 
นอกจากนี้เรายังมี One day trip Ep. อื่น ๆ ให้อ่านต่ออีกนะ เชิญทางนี้ได้เลยยยยยยย
📍Nagano : Facebook | Website
📍Toyama : Facebook | Website
  1  

แนะนำ Gifu เมืองกระเช้าลอยฟ้าที่วิวสวยจนลืมหายใจ

จากโพสต์ Ep.2 ที่เราได้ไปยัง Toyama คราวนี้เราจะเดินทางออกจากเมือง Toyama และมุ่งหน้าสู่เมือง Gifu ซึ่งงวดนี้เรานั่งรถยาวเลยจากหมู่บ้าน ไปที่ ‘ซันมาจิ ซูจิ’ sanmachi-suji) 三町筋 ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ของที่ทาคายาม่า และได้รับการขนานนามว่าเป็น Little Kyoto ของเมืองนี้

แถมความพิเศษที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับ Ep.3 นี้ นั่นก็คือการนั่งกระเช้าลอยฟ้า ที่วิวสวยจนลืมไปว่าสูงมากขนาดไหน😂

พร้อมพาตะลุยของกินอีกตามเคย บอกเลยว่าร้านนี้เด็ดมาก ใครสายกินห้ามพลาดเลยนะ สปอยแค่นี้ละกัน เราไปเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

ในส่วนของการเดินทางคราวนี้ จริงๆ ค่อนข้างจะหลากหลายมากๆ หนึ่งในวิธีที่ชัวร์ๆ เลยคือ

1. การนั่งรถบัส
ซึ่งเราสามารถนั่งบัสย้อนกลับไปที่สถานที่หลัก เพื่อไปต่อชินคันเซ็นมาลงที่สถานีกลางของ Gifu ได้ ซึ่งย่าน ‘ซันมาจิ ซูจิ’ อยู่ใกล้กับสถานีนี้มากๆ สามารถเดินเท้าไปได้ ใช้เวลาประมาณ 10-12 นาทีเท่านั้น

2. เช่ารถ
วิธีนี้คือเราต้องขับตรงมาที่ Gifu เลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งในการขับ แต่จะค่อนข้างสะดวกเพราะถ้าเรามีแพลนจะไปขึ้น “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮะทากะ” กระเช้ากอนโดล่าสองชั้นหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นต่อ เราจะเดินทางได้สะดวกมากๆ

พอได้แพลนกันไปคร่าวๆ คราวนี้เราจะพามาย่านซันมาจิ ซูจิกัน ซึ่งย่านนี้จะมีของกินและของฝากขายเยอะมาก หันซ้ายหันขวา ทั้งสองข้างทางก็จะเป็นร้านค้าทั้งหมด ตัวร้านค้าจะตกแต่งคล้ายๆ กัน มีความคุมตีมเมืองเก่ามากๆ ถ่ายรูปกลางซอยค่อนข้างสวยเลย

ใครที่อยากชมรอบๆ ตัวเมือง แต่ว่าขี้เกียจเดินก็สามารถใช้บริการรถลากได้ เพราะเขาจะพาเราเดินวนย่านนั้น และจะพาตัดเข้ากลางซอยซันมาจิ ซูจิเลย

ช่วงเที่ยงเราแวะมาหาของกิน โดยที่นี่จะเป็นย่านของร้านอร่อยเยอะมาก ซึ่งจะขึ้นชื่อเรื่อง สเต็กเนื้อฮิดะ ซูชิเนื้อฮิดะ โซบะ ซุปมิโสะชิรุ สำหรับของกินเล่นก็มี ซอฟต์ครีม ซาลาเปา และดังโงะ อาจจะจัดมาไม่ได้ครบทุกเมนูนะ แต่ก็เก็บมาได้ค่อนข้างหลากหลายเลยล่ะ เพราะงั้นตามไปดูกัน

📌อันแรกขอยกความปังยืนหนึ่งให้ร้านนี้เลย ถ้าเดินเข้ามาช่วงกลางซอยจะเห็นเลยว่าร้านมีคนต่อแถวเยอะมาก แถวยาวตลอด ไม่แปลกเลยเพราะซูชิที่นี่เนื้อโคตรดี อร่อยทุกคำ ตัวแผ่นแป้งสีขาวๆ คือข้าวเกรียบกุ้งซึ่งอร่อยมาก มาถึงแล้วไม่ได้จัดเมนูนี้คือพลาดมากจริงๆ

📌พอกินเสร็จเราเดินเลยมาอีกคือร้าน roll เนื้อ (ภาพซ้าย) ร้านนี้สังเกตป้ายเมนูที่เป็นสาหร่ายห่อเนื้อเอาได้เลย ส่วนตัวเราว่าเนื้ออร่อย แต่เสียดายที่แอบทำมาสุกไปนิส แต่เพื่อนเราบอกว่าอร่อยนะ

ต่อด้วยไอติมตุ๊กตาซารุโบะโบะ หรือบางคนอาจจะเรียกว่าตุ๊กตาไร้หน้า ซึ่งตัวซารุโบะโบะนั้นก็คือเครื่องรางประจำจังหวัดกิฟุ เราจะเห็นของฝากหลายๆ ร้านจะใช้ซารุโบะโบะบน package ซึ่งเป็นการสื่อถึงเมืองกิฟุไปทางอ้อม สมัยก่อนเจ้าซารุโบะโบะจะมีแค่สีแดง แต่เดี๋ยวนี้ก็มีให้เห็นมากขึ้นในหลากหลายสีเพื่อสื่อถึงความหมายที่แตกต่างกัน

เดินไปอีกหน่อยจะเจอร้านไอติมซอฟต์ครีม ร้านจะมีขายรสชาติที่ทำมาจากลูกพีชของจังหวัดนี้ด้วย แต่เราอยากกินไอติมชาเขียวมากกว่า ก็เลยสั่งมาลองทั้งสองแบบเลยละกัน

ดังโงะของที่นี่อร่อยเลยล่ะ ย่างมานุ่มกำลังดี คิดถึงเพลงดังโงะ ดังโงะเลยย~

ดูดีมาก อย่าลืมแวะมาชิมนะทุกคนน~

  2  

ถ่ายรูปสวยๆ หน้าศาลเจ้าซากุระ ยามะ ฮาจิมังกู

หลังจากที่หาของกินเรียบร้อย เราก็เดินต่อไปอีกนิดเพื่อไปชม ศาลเจ้าซากุระ ยามะ ฮาจิมังกู เพื่อถ่ายรูปกันต่อ

มุมหน้าวัด หากมองด้วยตาเปล่าคือสวยจริงๆ

  3  

แวะชมน้ำใสๆ บนสะพานนะกะบะชิ (Nakabashi Bridge) 

ส่วนนี้จะไม่ไกลจากทางเดินเลียบแม่น้ำมิยะ (Miyagawa) ซึ่งจะพาเราย้อนกลับไปที่ สะพานนะกะบะชิ (Nakabashi Bridge) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าสะพานแดง ซึ่งเป็นอีกหนึงจุดเช็คกินยอดนิยมที่กิฟุ

สะพานแดงสวยจริงทุกคนนนน เหมือนหลุดมาจากในอนิเมะเลยย~

น้ำในแม่น้ำที่นี่ใสแจ๋วแบบชนิดที่เห็นปลาว่ายชัดมาก ประทับใจสุดๆ

  4  

ชมวิวธรรมชาติบนกระเช้าลอยฟ้าชินโฮะทากะ (Shinhotaka Ropeway)

หมดจากการเดินย่อย เราก็เตรียมนั่งรถต่อไปขึ้นกระเช้าลอย ฟ้าชินโฮะทากะ (Shinhotaka Ropeway) ในส่วนนี้ถ้าใครไม่ได้เช่ารถขับก็สามารถ นั่งรถไฟ JR ไปต่อรถบัสโนฮิใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงกระเช้าได้เช่นกัน

สำหรับราคาตั๋วตอนนี้ สำหรับขึ้นกระเช้าสองต่อ แบบไปกลับ จะอยู่ที่ 2,900 เยน สำหรับผู้ใหญ่

วิวดีไม่ไหววว~

สำหรับเด็ก ราคาจะประมาณ 1,450 เยน สามารถไปซื้อที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วที่สถานีก่อนขึ้นกระเช้าได้เลย หรือจะซื้อบัตรผ่าน klook ไปก่อนก็ได้เช่นกัน บอกเลยว่าระหว่างทาง วิวสวยแบบตื่นตาตื่นใจเลยล่ะ

ก่อนที่เราจะไปต่อกระเช้าที่ 2 ของอีกสถานีที่เชื่อมกัน แต่จะอยู่ชั้นที่สอง เราก็ขอมาแวะถ่ายรูปกับธรรมชาติบริเวณรอบๆ ตรงนี้ก่อนซะหน่อย ช่วงที่เราไปถึงใบไม้กำลังสีส้มๆ แดงๆ สวยมากเลยล่ะ

เตรียมเดินขึ้นไปอีกชั้น พร้อมมองใบไม้เปลี่ยนสีไปด้วย สวยมากๆ

มาถึงมุมเดอะเบสของเรา นี่คือความสูงของจุดชมวิวจะอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,156 เมตร ทำให้เราสามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือได้ด้วย ตอนที่เราขึ้นมาถึงมีหิมะตกแล้ว ตื่นเต้นมากกกก

พอลงมาก็ขอแวะปั้นตุ๊กตาหิมะสักหน่อย น่ารักไม่ไหวแล้วแม่

อย่าลืมแวะถ่ายรูปเช็คอินกับตู้ไปรษณีย์ล่ะ เราซื้อชูโรสที่ร้านขายขนมข้างล่างก่อนขึ้นมาที่จุดชมวิว เอามาถ่ายรูปคู่ด้วย อากาศตอนที่มาถึงอยู่ที่ประมาณ 4 องศา

  5  

จบทริปสุดประทับใจแบบ 300%

จบจากกระเช้าลอยฟ้า เราก็นั่งรถกลับมาที่โรงแรม Takayama Ouan ที่พักของเราในคืนนี้นั่นเอง เพื่อเตรียมตัวไปทานข้าวเย็นแถวๆ นั้น ซึ่งที่พักของเราคือโรงแรมใกล้สถานีรถไฟเพื่อความสะดวกในการเดินทางกลับไปโตเกียว

จุดที่ทำให้ชอบโรงแรมนี้การตกแต่งที่ให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ๊นนนญี่ปุ่น ปูเสื่อทาทามิทั้งโรงแรม ตอนเดินเข้าต้องถอดรองเท้าเอาไว้ชั้นล่าง และเดินเท้าเปล่าขึ้นลิฟต์ไปจนถึงบนห้อง โรงแรมนี้เราเห็นคนญี่ปุ่นใส่สูทมาพักเยอะมาก และแน่นอนว่าโรงแรมมีออนเซ็นรวม และส่วนตัวให้เราใช้บริการด้วยนะ งวดนี้เราไปแบบ Private เพราะไม่มีคนต่อคิวใช้เลย ดีสุดๆ

แช่ออนเซ็นเสร็จ เรามามาปิดท้ายวันเดย์ทริปกิฟุ ด้วยการทานข้าวเย็นที่ร้าน Matsukiushi

ดูสิทุกคนนน สายซาชิมิแบบเราจะพลาดได้ไง 

จบจากมื้อเมื่อวาน เราก็ตื่นมาช่วงเช้าวันใหม่กันบ้าง บอกเลยว่าไลน์อาหารของโรงแรมคืออะไรที่เราประทับใจมากกกกกก ตัวเลือกเยอะลายตา ที่เราตักมาคือแค่ส่วนนึงเท่านั้นเอง 

และก่อนกลับไปโตเกียว เราแวะมาตลาดเช้าที่ชาวบ้านจะมาตั้งแผงขายของตรงทางเดินเลียบแม่น้ำมิยะ (Miyagawa) เพื่อความชัวร์ว่าเพื่อนๆ ที่ตามมาจะไม่หลงแน่นอน เรามีแปะลิงก์เป๊ะๆ ของสถานที่ไว้ให้ด้วย ตามรอยมาเลยจ้า
Location : Shimosannomachi, Takayama, Gifu 506-0841 ญี่ปุ่น

ปล.​ มีน้องตุ๊กตาซารุโบะโบะ เวอร์ชั่นพวงกุญแจขายด้วยนะ ของขายพื้นเมืองหลากหลายมากๆ น่ารักสุดๆ 

มาช่วงสุดท้ายกันแล้ว ทีนี้จบจากตลาด เราก็นั่งรถ JR กลับไปโตเกียวเลย ซึ่งราคาบัตรทั้งหมดโดยประมาณ จะอยู่ที่ 8 พันกว่าเยน เพราะมีบวกสายที่เป็น express ด้วย ถ้าตั๋วมีหลายใบก็หยอดทุกใบได้เลยยย 

กลับไปต้องคิดถึงบรรยากาศแบบนี้แน่ๆ TT 

วิวระหว่างทางกลับสวยมาก เห็นทั้งธรรมชาติและตัวเมืองเลย 

บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่ชอบมากๆ เป็นการมาญี่ปุ่นที่คุ้มและดีต่อใจสุดๆ สำหรับใครที่สนใจแพลนของเราก็บอกเลยว่า ทริปนี้มีความหมายมากเลยล่ะ เราก็อยากให้คนที่ได้อ่านได้รู้สึก และได้สัมผัสความพิเศษแบบนี้เหมือนกับพวกเราบ้างนะ สำหรับใครที่ไม่รู้จะมาเที่ยวที่ไหนดี ก็สามารถดูแพลนต่างๆ ที่เราเคยไปใน Ep1 Nagano และ Ep2 Toyama ได้เลยยย ขอให้เที่ยวกันอย่างสนุกสนานจ้า🫶🏻