เปิดประสบการณ์เรียนต่อ Harvard University ของพี่แม็กซ์ ภัคพล กับโอกาสที่ได้รับจากการไม่ปิดกั้นตัวเอง

ใครอยากไปแลกเปลี่ยนหรืออยากเรียนต่อต่างประเทศ แต่ก็ยังมีความกังวล ไม่กล้าสมัคร บอกเลยว่าอย่ามัวลังเลและอย่ากลัว!! เพราะทุกคนสามารถทำได้!!
.
นี่คือเรื่องราวโดยย่อของพี่แม็กซ์ ภัคพล ดีกรีนักเรียนป.โท Harvard MBA, Ex-Management Consultant ที่ Bain & Company และปัจจุบันเป็น Senior Product Manager ที่ Amazon ณ ประเทศอเมริกา ซึ่งพวกเรา #อยากไปแลกเปลี่ยนโว้ยย อยากจะนำมาเล่าให้ฟัง บอกเลยว่าเนื้อหานั้น exclusive และได้สาระแบบจุกๆ!!!
.
.
.
#จุดเริ่มต้นของการไปแลกเปลี่ยน
ตอนอยู่ที่ไทย พี่แม็กซ์เรียน Major Accounting ที่ BBA ธรรมศาสตร์ และคิดอยากไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศเพราะอยากต่อยอดในเรื่องของการศึกษา จึงเลือกจะไปศึกษาที่ University of Texas at Austin เพราะว่าก็ถือเป็นมหาลัยท็อปๆ ในเรื่องของ Accounting และอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญคือ อยากไปเปิดหูเปิดตา ไปพบเจออะไรใหม่ๆ ที่ตนเองไม่เคยได้เห็น
.
.
.
#ShockCultureแรกที่เจอเมื่อไปแลกเปลี่ยน
การเรียนการสอนที่นู่นแตกต่างจากประเทศไทยมาก เพราะว่าในคลาสเรียนนั้นทุกคนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนอย่างมาก เอเนอจี้นักเรียนที่นั่นไม่เหมือนกับนักเรียนไทย อย่างที่ไทย นักเรียนที่จะมีส่วนร่วมกับการเรียนการสอนจะมีเพียงประมาณ 3-4 คน แต่ที่นั่นเกือบจะทุกคนจะยกมือ อยากตอบ อยากเล่าประสบการณ์ อยากแลกเปลี่ยนไอเดียกัน
.
ยิ่งตอนที่ไปเรียนต่อป.โทที่ Harvard ยิ่งเห็นได้ชัดมาก ซึ่งตรงนี้เป็นเพราะว่าคนไทยมักจะมี self-awareness สูง ก่อนจะพูดอะไร เราจะต้องคิดแล้วคิดอีกว่าพูดออกไปดีไหม แต่คนที่นี่จะมีความมั่นใจในตัวเองแล้วก็ไม่ judge ตัวเอง จะมีความกล้าคิดกล้าพูด เพราะเขาปลูกฝังให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างเต็มที่ และทุกคนก็จะไม่ได้มองว่าสิ่งที่เราพูดนั้นถูกหรือผิด ทำให้การเรียนและสังคมนั้นเต็มไปด้วยพลังบวก
.
.
.
#ประสบการณ์เล็กๆที่มีคุณค่ากับเราไม่แพ้ประสบการณ์ใหญ่ๆ
หลายคนอาจจะมองว่าการไปแลกเปลี่ยนจะต้องได้รับประสบการณ์ยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนชีวิตเรา เช่น ได้เจออาจารย์ดีๆ ที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปตลอดกาล แต่สำหรับพี่แม็กซ์ สิ่งที่ทำให้ชีวิตพี่แม็กซ์เปลี่ยนไปกลับเป็นประสบการณ์เล็กๆ ในชีวิต เช่น การทำอาหารกินเอง การได้เจอในสิ่งที่รักหรือค้นพบงานอดิเรกใหม่ๆ ที่น่าสนใจ การที่ได้มีเวลาออกกำลังกาย รวมไปถึงการได้ลองสัมผัสวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่แตกต่างหลากหลายกันไป
ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ยังนำมาใช้ในชีวิตจนถึงทุกวันนี้ได้
.
.
.
#จากเด็กแลกเปลี่ยนสู่เด็กปริญญาโทที่Harvard
หลังกลับจากแลกเปลี่ยน พี่แม็กซ์ก็ได้ทำงานต่อที่บริษัท Consulting ระดับ Top ของประเทศซึ่งก็คือ Bain Consulting แต่เมื่อทำงานไปสักระยะหนึ่งพี่แม็กซ์ก็เริ่มมองหาประสบการณ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากงานสาย Consult ที่ทำอยู่นั้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ประเทศแถบ South East Asia พี่แม็กซ์จึงเริ่มคิดเรื่องการเรียนต่อ
.
ในตอนแรก Harvard คือมหาลัยในฝันที่พี่เค้าอยากเข้ามาตั้งแต่ตอนที่ยังเด็ก และสาขา MBA ที่ Harvard ก็เป็นสาขาที่ทำให้เข้าใจภาพรวมของธุรกิจ รวมถึงการบริหารงานจากมุมของ CEO หรือก็คือประธานของบริษัท ทำให้พี่เค้าเลือกมาทางสาขานี้
.
การสมัครในตอนแรก พี่แม็กซ์รู้อยู่แล้วว่าเรทการรับคนเข้าของมหาลัยนี้ จัดว่าโหดหินสุดๆ แต่พี่แม็กซ์ในตอนนั้นมองว่า ถ้าเราไม่ลองเลย มันก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การตัดสินใจยื่นสมัครในวันนั้น ทำให้พี่แม็กซ์ติดมหาลัยในฝันของตัวเอง และยังได้ทุนเรียนต่ออีกด้วย
.
แอบกระซิบถึงใครที่เป็นกังวลว่า เรียนที่ Harvard แบบไปด้วยตัวเองต้องแพงมากแน่ๆ พี่แม็กซ์แอบบอกมาว่า ที่นี่มีทุนแบบ Need Based หรือก็คือทุนให้เปล่าจากศิษย์เก่า เพราะส่วนใหญ่ศิษย์เก่าของที่นี่ พอจบไปแล้วก็ไปเป็นผู้บริการระดับสูง หรือประสบความสำเร็จในหลากหลายธุรกิจ ทำให้คนเหล่านี้บริจาคเงินกลับมาที่มหาลัย เพื่อเป็นทุนให้กับคนที่อยากมาเรียนที่นี่ แต่กำลังทรัพย์ไม่ถึง เพราะฉะนั้นสำหรับน้องๆ ที่กำลังตัดสินใจเรื่องการสมัครเรียนที่นี่ ก็อย่าเพิ่งถอดใจไปตั้งแต่เริ่ม ลองสมัครมาก่อนดีกว่า
.
.
.
#ติดมหาลัยระดับโลกได้เพราะเป็นคนไม่ปิดโอกาสตัวเองในทุกๆเรื่อง
ต้องเล่าก่อนว่าการจะไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยดังๆ นั้น ถ้าว่ากันตามตรงก็เรียกได้ว่ายากมาก ยิ่งเป็นมหาลัยติดท็อประดับโลกนั้น การแข่งขันก็ยิ่งสูงเข้าไปใหญ่ คนเก่งๆ นั้นก็มีเยอะ แต่จะทำอย่างไรให้ทางมหาวิทยาลัยเลือกเรา?
.
สิ่งหนึ่งที่ถือได้ว่าพี่แม็กซ์ได้เปรียบกว่าคนเก่งคนอื่นๆ หรือคนที่มีพื้นฐานเท่าๆ กับพี่แม็กซ์คือ พี่แม็กซ์เป็นคนชอบ ”หาทำ” พี่แม็กซ์จะลองทำนู่นทำนี่ไปเรื่อยๆ ไม่ปิดโอกาสให้ตัวเอง อย่างเช่น เคยเป็นพิธีกรงานให้กับ Disney เป็นอาจารย์สอนคลาสเกี่ยวกับการ presentation เพราะมีคนมาชวน และก็ได้ไปช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กับ UN ประเทศไทยในการหาที่อยู่ใหม่ให้กับผู้ลี้ภัยเกือบ 60,000 กว่าชีวิต เนื่องจากค่ายลี้ภัยที่นั่นต้องปิดตัวลง
.
จึงเรียกได้ว่า การไม่ปิดโอกาสของตัวเองจากการที่มีคนมาชวนไปทำอะไรใหม่ ประกอบกับความชอบ ‘หาทำ ’เป็นสิ่งที่ทำให้พี่แม็กซ์แตกต่างจากคนเก่งคนอื่นๆ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พี่แม็กซ์มีประสบการณ์การทำงานที่หลากหลายมากกว่าคนอื่น และเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ทางมหาวิทยาลัย Harvard เลือกรับพี่แม็กซ์เข้าเรียนต่อ
.
.
.
#ตั้งโจทย์ให้ชัดถ้าคิดอยากจะไปเรียนต่อ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะต้องคิดเมื่ออยากไปเรียนต่อป.โท ระยะเวลา 2 ปีในชีวิตก็ถือว่าเป็นระยะเวลาที่ไม่น้อย ดังนั้นเราต้องตอบคำถามกับตัวเองให้ได้ก่อนว่าอยากไปเรียนเพื่ออะไร? ถ้าอยากไปเรียนเพราะอยากเปลี่ยนสายงาน หรืออยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การเรียนต่อก็ถือว่าเป็นหนึ่งอย่างที่ตอบโจทย์และเป็นโอกาสที่ดีในชีวิต
.
.
.
#คำแนะนำสำหรับการเตรียมสมัครเรียนต่อ
พี่แม็กซ์แนะนำให้ทุกคนลองสมัครมหาวิทยาลัยดังๆ ไปเลย อย่าเพิ่งคิดไปดูถูกตัวเองว่าทำไม่ได้หรอก เข้าไม่ได้หรอก มีหลายคนมากที่พลาดเพียงเพราะว่าตัดโอกาสตัวเองเพราะคิดว่าทำไม่ได้หรอก แต่พี่แม็กซ์อยากให้ทุกคนคิดว่า ถ้าอยากแล้วก็ขอให้ได้ลอง
.
และสำหรับเรื่องของการยื่นเอกสารต่างๆ อย่าง essay นั้น พี่แม็กซ์ก็แนะนำว่าให้เน้นไปที่ความแตกต่างของตนเองจากคนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่ายิ่งมหาลัยระดับท็อปเท่าไหร่ คู่แข่งก็ยิ่งเยอะ ความเก่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะทำให้เราโดดเด่นออกมาจากคนเก่งทั้งหมดที่สมัครเข้ามาพร้อมกันต่างหาก คือสิ่งที่ทำให้เราน่าสนใจ ซึ่งในจุดนี้เราควรจะโชว์ให้คณะกรรมการคัดเลือกเห็นว่าเรา เราตั้งเป้าหมายอย่างไร การที่เราจบมาเราจะไปทำอะไรต่อ แล้วทำไมถึงต้องเป็นที่นี่ มหาลัยนี้
.
สำหรับ Resume นั้นพยายามอย่ายื่นหว่านมหาลัยโดยใช้ resume เหมือนกันทั้งหมด (อันนี้รวมไปถึง essay ด้วยนะคะ) เพราะแต่ละมหาลัย แต่ละคณะมีจุดเด่นต่างกัน เราควรปรับเนื้อหาให้เข้ากับที่นั้นๆ
.
และในส่วนของ Recommendation Letter จุดนี้ หลายๆ คนมักเข้าใจผิดว่าคนที่จะมาเขียน Recommendation Letter ให้เราต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งใหญ่ๆ บอกเลยว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ พี่แม็กซ์แนะนำว่าควรเลือกคนที่เขาเข้าใจในความเป็นเราและสนิทกับเรามากที่สุด เพราะสิ่งที่มหาวิทยาลัยอยากรู้คือ ‘เราในมุมมองของคนอื่นเป็นอย่างไร’
.
จุดสุดท้ายที่อยากแนะนำคือการสอบสัมภาษณ์ สุดท้ายมันคือเรื่องความเข้ากันในตอนสัมภาษณ์ เราควรทำการบ้านมาก่อนระดับนึงว่าสิ่งที่คนสัมภาษณ์ต้องการหรือสิ่งที่เค้าอยากรู้คืออะไร ตอบคำถามด้วยความมั่นใจ เราต้องทำให้เค้าเชื่อในตัวเรา ทำให้เต็มที่ก็พอ
.
.
.
#พี่แม็กซ์มาอยู่ในจุดนี้ได้เพราะmindsetที่ดี
จริงๆ ตัวพี่แม็กซ์เองไม่ได้มีแพลนว่าจะต้องทำอะไรเป็นพิเศษ แต่เพียงว่าพี่แม็กซ์นั้น เป็นคนไม่ปิดกั้นโอกาสให้ตัวเอง อันนี้พูดในมุมการสมัครเข้ามหาลัยด้วยนะคะ อย่างที่บอก คืออย่ากลัวที่จะสมัคร เพราะจริงๆ สิ่งที่เสียอย่างมาก ก็แค่เสียเวลาตอนกรอก apply กับค่าสมัครนิดหน่อย แต่ถ้าในมุมอื่นๆ ของการใช้ชีวิต เวลามีคนมาชวนไปทำสิ่งใหม่ๆ ส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่ติดอะไร พี่แม็กซ์ก็จะลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำดู
.
ซึ่งพอยิ่งทำสิ่งหลายอย่างมากขึ้น สิ่งที่ได้มาเป็นของแถมก็คือ connection แล้วพอต่อไปจาก connection ใหม่ๆ ตรงนั้น ก็มีคนชวนไปทำนู่นนี่นั่นต่อไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นคือถ้าจะให้แนะนำจริงๆ พี่แม็กซ์ก็อยากให้พวกเราเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองอะไรใหม่ๆ มากขึ้น อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธเพียงเพราะคิดว่าทำไม่ได้ เพราะเราไม่รู้เลยว่าสิ่งนั้นที่เราจะได้ทำ มันจะพาเราไปสู่อะไรใหม่ๆ ได้อีกในอนาคต
.
อย่างของพี่แม็กซ์ ตอนนี้นอกจาก 3 งานที่พูดถึงก็มีเป็นอาจารย์สอนที่ธรรมศาสตร์ มีได้เปิดคอร์สสอนออนไลน์เรื่อง productivity ของตัวเอง แล้วตอนนี้ก็ทำงานประจำอยู่ที่ Amazon บริษัทระดับโลก รวมถึงช่วงเวลาว่างก็มีทำ consult ในเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศ ช่วยให้คนติดมหาลัยดังๆ ได้อีก (พี่แม็กซ์สุดยอดไปเลยคร้าบบบบ//เสียงในใจจากทีมงานอยากไปแลกเปลี่ยนโว้ยย)
.
.
.
#สิ่งที่อยากฝากสำหรับคนที่อยากไปแลกเปลี่ยนและอยากไปเรียนต่อ
อย่าไปกลัว อย่าเพิ่งตัดสินตัวเองว่าทำไม่ได้ เรียนที่นี่ไม่ได้หรอก ยิ่งถ้าเป็นต่างประเทศเนี่ย Mindset ของเขาแตกต่างจากบ้านเรามากๆ เขาไม่ได้สนใจสำเนียงหรือภาษาว่าต้องพูดถูกต้องเป๊ะๆ บางทีเป็นตัวเราเองที่จำกัดตัวเองมากเกินไป ทำให้เราไม่กล้าพูดหรือไม่กล้าทำอะไรอีกหลายๆ อย่างมากๆ ดังนั้นต้องอย่าไปกลัว ต้องกล้าลอง และที่สำคัญที่สุดคือเราอย่าคิดว่าเรายังไม่พร้อม ถ้าหากเรารอให้พร้อมมันอาจจะสายเกินไปแล้ว ให้เราลองกระโดดเข้าหามันเลย เพราะถึงเวลาเราจะหาทางปรับตัวได้เอง!
.
.
.
เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์การไปแลกเปลี่ยนและการเรียนต่อที่ครบและได้สาระอย่างมาก! อย่าลืมที่พี่แม็กซ์บอกนะคะ อย่าไปกลัวและอย่าจำกัดตัวเอง ลองเสี่ยงกันสักตั้ง ซึ่งแอดเชื่อว่าถ้าทุกคนทำได้ตามนี้ ทุกคนจะต้องทำตามความฝันตัวเองได้อย่างแน่นอนนน!
.
#ไปเเลกเปลี่ยนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ #ย้ายประเทศกันเถอะ #เเลกเปลี่ยนต่างประเทศ #เด็กเเลกเปลี่ยน #นักเรียนเเลกเปลี่ยน #เเลกเปลี่ยนเมืองนอก #ทุนต่างประเทศ #เรียนต่อต่างประเทศ #โยกย้ายส่ายสะโพก #อย่าดูถูกตัวเอง #สร้างความแตกต่างของตัวเองจากผู้อื่น #อยากไปเเลกเปลี่ยนโว้ยย