“เทศกาล Colorful Bangkok นี้จัดเพื่ออะไร ช่วยอุตสาหกรรมศิลปะจริงหรือ?”
 
ถ้าเราเคยเห็นเฟสบุ๊กที่มีคุณครูสอนศิลปะถ่ายรูปเด็กนักเรียนแต่ละคนถือกระดาษ 100 ปอนด์ พร้อมกับโชว์ผลงานการวาด ระบายสี จนมีคนกดไลก์เป็นหมื่นๆ ก็แสดงให้เห็นว่ายังมีคนไทยอีกหลายคนที่ยังมีฝีมือและความสามารถอยู่อีกมาก เพียงแต่ไม่มีโอกาสและพื้นที่ในการแสดงมากพอ สังคมจึงต้องผลักดันวงการศิลปะด้วยตัวเองมาแต่ไหนแต่ไร
 
แต่ก็น่าเสียดายเพราะศิลปะในประเทศไทยหลายๆ ไม่ว่ารูปวาด รูปปั้น หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์แห่งศิลปะก็มักจะถูกลดทอนคุณค่าในหลายๆ ครั้ง เพราะหลายคนมองว่างานศิลปะเป็นงานที่ดูฟรี ไร้สาระ และดูไม่อิน อย่างบางคนจะไปจ้างนักคนวาดรูป แต่เรทแพงมากไป ก็มีการดราม่า จึงเกิดคำถามว่าทำไมอุตสาหกรรมศิลปะไทยถึงไปไม่ถึงไหน แล้วทำไมที่ศิลปะมีราคาแพงถึงกลายเป็นเรื่องที่คนไทยมองว่ามันไม่ปกติ…
 

1

ปัจจุบันอัตราการเติบโตของงานศิลปะมีมูลค่าสูงขึ้นถึง 2200%

นับว่าเป็นเรื่องดีที่หลายคนอาจยังไม่รู้ เมื่องานศิลปะที่คนไทยหลายๆ คนลดทอนคุณค่า เริ่มกลับมามีค่ามากขึ้นในปัจจุบันแล้ว เพราะว่าศิลปะก็เป็นเหมือนสมบัติของผู้คนที่สามารถส่งต่อไปเรื่อยๆ
 
แม้ว่าผู้วาดจะเสียชีวิตไปก็ตาม แต่ว่าตัวตนของผู้วาดจะยังอยู่ในศิลปะแม้ว่าจะดำเนินต่อไปเป็น ร้อยๆ พันๆ ปี เพราะงั้นศิลปะมันไม่ใช่เพียงแค่ผลงานเท่านั้น แต่มันคือเรื่องราวการถ่ายทอด และยังสามารถเยียวยาใจของคนที่พบเห็นได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้การลงทุนงานศิลปะในปัจจุบัน กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากขึ้น จากการรายงานของ อาร์ตไพรซ์ Art Market ได้มีการรายงานว่าตลาดศิลปะร่วมสมัยของโลกประจำปี 2566 กำลังโตขึ้นสูงถึง 2200% นับตั้งแต่ปี 2543
 
แทบไม่น่าเชื่อว่าในเวลา 20 ปี จะสามารถทำให้มูลค่างานศิลปะสามารถเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนี้ เพราะแบบนี้ยิ่งแสดงให้เห็นเลยว่า คุณค่างานศิลปะยังมีอีกหลายคนมากที่ยังมองเห็นคุณค่า และคาดว่าจะเติบโตขึ้นในทุกปี
 
ดังนั้นกรุงเทพมหานครจึงเห็นความสำคัญที่จะนำศิลปะ และวัฒนธรรมมาสร้างพื้นที่ร่วมกันเพื่อเป็นการยกระดับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนไทย และต่างชาติได้รู้จักมุมมองใหม่ๆ ของกรุงเทพฯ ผ่านศิลปะมากขึ้น พร้อมการนำเสนอว่ากรุงเทพมหานครนั้นไม่ใช่สิ่งปลูกสร้าง แต่เป็นเมืองที่หมายถึงคนนั่นเอง

  2  

เมื่อรู้ว่าคนรักศิลปะ การเปิดตัวของเทศกาล Colorful Bangkok จึงเกิดขึ้น

ด้วยเหตุผลนี้เองที่กรุงเทพฯ ได้จับมือร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมพัฒนางานเทศกาลให้ยิ่งใหญ่ เพื่อให้เพื่อนๆ อิ่มเอมไปกับบรรยากาศ กิจกรรม ความสนุก แสงสีเสียงที่ทั้งแฝงความรู้ วัฒนธรรม ที่ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จะรู้สึกอินตามกันได้อย่างแน่นอนกับ
 
หากใครเคยได้ยินหรือผ่านตางาน Colorful Bangkok ว่าเทศกาลนี้เขาคืออะไร ทำอะไรบ้างและจัดในช่วงไหน ไปดูกันเลย
 
———————-
 
Colorful Bangkok คืออะไร?
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ทางกรุงเทพได้มีการเปิดตัวเทศกาล Colorful of Bangkok ครั้งแรก พร้อมกับปรับตัวเว็บไซต์ Bangkok Art City ซึ่งเป็นเว็บที่ กทม. ได้ทำร่วมกับหอศิลป์ ในการคอยอัปเดตข้อมูลข่าวสารกิจกรรมเกี่ยวกับงานวัฒนธรรมทั่วกรุงเทพ ในรูปแบบน่ารัก สดใหม่ ถูกใจวัยรุ่นมากขึ้น
 
โดยที่เว็บนี้ดีตรงที่ว่าจะช่วยอัปเดตงานนิทรรศการต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ พร้อมกับช่วยให้เราได้รู้ว่าเทศกาล Colorful Bangkok เขามีแพลนจัดงานที่ไหน และภายในงานมีอะไรน่าสนใจบ้างนั่นเอง
 
แล้วงานนี้คืออะไรแน่? คำตอบคือ Colorful of Bangkok เป็นหนึ่งในงานเทศกาลศิลปะของจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่เป็นการร่วมมือระหว่าง กรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายอย่างภาครัฐ เอกชน รวมถึงภาคประชาสังคมกว่า 250 องค์กร
 
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อประสานพลัง และจัดกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่สาธารณะ เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนที่มีความสามารถ ได้โชว์ทักษะ พลังของตัวเองให้กับผู้คน และนักท่องเที่ยวต่างๆ มาสร้างสีสันร่วมกัน
 
———————-
 
จุดเด่นคือเทศกาลนี้
ความน่าสนใจคือ ทางงานจะมีการจัดแสดงกว่า 120 งานในตลอดระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งในแต่ละเดือนก็จะมีความแตกต่างกัน ประกอบไปด้วย
 
  • เดือนพฤศจิกายน : เทศกาลแห่งศิลปะสร้างสรรค์
  • เดือนธันวาคม : เทศกาลแสงสี
  • เดือนมกราคม : เทศกาลดนตรี
บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในเทศกาลที่เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย พร้อมกับช่วยส่งเสริมให้เด็กรุ่นใหม่ ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น ผ่านการร้อยเรียงไปทางภาพวาด ความคิด สีสัน เสียงดนตรี และกิจกรรมที่เต็มไปคุณค่าทางจิตใจ
 
และความหมายของการทำโปรเจกต์นี้เอง ที่จะทำให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองแห่งชีวิต ที่มีความน่าอยู่มากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลปลายปี ต้นปี ที่จะทำให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกัน และชวนฮีลหัวใจกันและกันได้อย่างมาก

  3  

เทศกาล Colorful Bangkok ในปี 2022 มีผลตอบรับเป็นยังไงบ้าง?

จริงๆ แล้วเทศกาลนี้จัดหลากหลายอย่างมาก ทั้งงานนิทรรศการจากศิลปินต่างๆ งานแสดงแสงไฟอลังการ แต่ถ้าจะเอาเด่นๆ เราขอยกตัวอย่างานนี้ละกัน
 
หากจำกันได้งานนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเทศกาลนี้ได้มีการจัดดนตรีในสวน ทั่วสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น สวนสันติชัยปราการ หรือสวนลุมพินีที่มีการเล่นดนตรี พร้อมกับผู้คนปูเสื่อนั่งฟังกันอย่างจดจ่อ
 
ภาพที่เห็นจึงกลายเป็นกระแสโซเชียลที่หลายคนพูดถึงกันบ่อยมาก จนคนบอกต่อและพากันไปนั่งจนกลายเป็นดนตรีในสวยฟีเวอร์ได้เลย
 
เหตุผลหลักๆ ก็น่าจะเป็นผู้คน ไวป์ต่างๆ เพลงที่บรรเลง รวมถึงท้องฟ้ายามเย็นที่ค่อยๆ พลบลงจนมืด องค์รวมทุกอย่างดูเข้ากันอย่างน่าตกใจ อาจเป็นเพราะบรรยากาศแบบนี้หายาก จึงช่วยให้หลายคนหันมาสนใจกันมากขึ้น
 
หรือจะเป็นงานไฟที่ฉายตามริมแม่น้ำ หรือจะเป็นการแสดงพลุก็สวยงามมากจนไม่คิดว่าที่ประเทศไทยจะส่งเสริมอะไรแบบนี้ด้วย หลายคนไปงานเหล่านี้ ก็คงไม่ทราบว่าส่วนหนึ่งก็มาจากกรุงเทพมหานครที่ร่วมมือกับหลายๆ ภาคนั่นเอง

  4  

มีเทศกาลแล้ว ก็ต้องมีงานอีเวนต์ใหญ่อย่าง Colorful Bangkok Expo 2024

แน่นอนว่าปี 2566 ก็ต้องทำให้ดีและเจ๋งกว่าเดิม เพราะกทม. ก็ไม่รีรอที่จะสร้างงานอีเวนท์ใหญ่อย่าง Colorful Bangkok Expo 2024 ที่ตอบโจทย์เอาใจให้กับคนรักศิลปะ
 
โดยครั้งนี้เขาหยิบมาครบทั้ง แสง สี เสียง งานศิลปะ ตลาด ดนตรี ละครเวที เสวนา และภาพยนต์กลางแปลง ณ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. แบบที่มีแสงสีเสียงคือจัดเต็ม และอะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น !!
 
ซึ่งอีเว้นต์ Colorful Bangkok Expo 2024 ครั้งนี้ก็มีหลากหลายอย่าง อาทิ
 
  • ดู
    • การพากย์สดของหนังดังจากคนเล็กหมัดเทวดา การันตีเสียงโดยทีมพันธมิตรตัวจริงเสียงจริง
    • การฉายแสงบนตึกว่าการกรุงเทพมหานคร
    • การที่ได้เห็นรถรางกลางเมืองครั้งสุดท้าย ที่เป็นวิดีโอจากปี 2511 ฉายให้ชม ซึ่งทำให้เด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นภายในงานนี้
  • ฟัง
    • การนั่งฟังผู้มีความรู้เสวนาแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ มุมมองศิลปะใหม่ๆ ในหลายๆ แบบ ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ซอฟต์พาวเวอร์ วงการศิลปะตลอด 4 วัน
    • คอนเสิร์ตจากวงใหม่ไฟแรง อีกมากมายที่มาโชว์ศักยภาพให้รับชม
  • ซื้อ
    • บูธโชว์จากหน่วยงานและองค์กรด้านศิลปะ การออกแบบ หรือบูธจากศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลป์ รวมถึงบูธสินค้างานดีไซน์หรืองานคราฟต์ รวมกว่า 90 บูทให้คนกรุงได้ชมและเลือกซื้อกันมากมาย
โดยงานนี้ก็เพิ่งจบไปสดๆ ร้อนๆ ในวันที่ 18-21 เดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมา ก็มีผู้เข้าร่วมสนุกกันมากมาย เป็นอีกหนึ่งงานสีสันที่หลายคนต่างบอกว่าอยากให้จัดนานมากกว่านี้
 
—————————
 
โดยก่อนหน้านี้เทศกาล Colorful Bangkok ก็ได้มีการจัดงานอีเวนท์แสงสีเสียงสุดยิ่งใหญ่ที่ย่านเมืองเก่าเขตพระนคร อย่าง Awakening Bangkok งานฉายแสงไฟสุดอลังในเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา หรือวิจิตรเจ้าพระยา ปรากฎการณ์แสงสีที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงงานกาชาด 100 ปี ที่จัดเต็มของกิน และแสงไฟในสวยลุมพินี เรียกได้ว่างานรอบนี้เขาไม่ธรรมดาจริงๆ
 
เชื่อว่าในตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เทศกาล Colorful Bangkok นี้ ได้ช่วยให้มีคนเริ่มมองกรุงเทพฯ ในภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ นี่ยังเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและศิลปินเท่านั้นนะ แต่ในความจริงแล้ว กรุงเทพฯ อาจจะมีอีกหลายๆ อย่างในการสร้างขวัญกำลังใจอีกมากมาย แต่จะมีอะไรใหม่และเป็นยังไงก็ต้องดูกันต่อไป

  5  

สรุป

เพื่อนๆ คิดว่าเทศกาลนี้เป็นยังไงบ้าง คิดว่ากรุงเทพมหานครสามารถตอบโจทย์คนที่รักศิลปะในใจของทุกคนได้มากน้อยแค่ไหนกันนะ?
 
และถึงแม้ว่าอีเว้นต์ Colorful Bangkok Expo 2024 จะจบลงไปแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเทศกาล Color Bangkok จะจบลงไป เพราะเดือนมกราคมถือว่าเป็นเดือนสุดท้ายแห่งเทศกาลดนตรีในสวน ที่ทุกคนจะยังได้ฟังเพลงเพราะๆ ตามสถานที่สวนสาธารณะต่างๆ ได้อย่างสบายใจอยู่เรื่อยๆ
 
และสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับเทศกาล Colorful Bangkok เลย คือการที่เขาทำให้เห็นได้เลยว่า ยังมีคนไทยอีกหลายคนมากๆ ที่ชื่นชอบงานศิลปะ และทำให้รู้ว่ายังมีคนอีกมากที่สนใจในงานนี้
 
นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จเลยก็คือ เทศกาลนี้ช่วยเป็นส่วนหนึ่งและเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการที่ทำให้ศิลปิน, นักวาด ที่ไม่เคยมีคนรู้จักหรือมีชื่อเสียงมาก่อน ได้มีพื้นที่ในการออกมาโชว์ผลงานและสร้างการรับรู้ได้มากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก
 
ไม่แน่ว่า นี่อาจจะเป็นใบเบิกทางที่ทำให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนงานศิลปะประเทศไทยให้ไปไกลถึงระดับโลกต่อไป และส่งเสริมวงการอุตสาหกรรมด้านศิลปะไทยมากยิ่งขึ้นในอนาคต และที่สำคัญเลย คืออาจช่วยให้คนที่ไม่เคยเห็นค่าในศิลปะได้มีโอกาสทำความเข้าใจ และเปิดใจมากขึ้นก็เป็นได้
 
หากใครอยากร่วมเทศกาลศิลปะและเทศกาลแสงสีเสียง อาจจะต้องรอเดือนพฤศจิกายน และธันวาคมปี 2024 อีกครั้ง เพราะคาดว่าน่าจะกลับมาทุกปีอย่างแน่นอน!