เมื่อพูดถึงที่เที่ยวในญี่ปุ่น หลายคนคงนึกถึง โตเกียว เกียวโต แต่ลืมไปรึเปล่าว่าเรายังมีอีกหนึ่งเมืองที่โดดเด่นมากๆ เมืองนั้นก็คือ โอซาก้านั้นเอง!!

โดยโอซาก้าเป็นเมืองที่มีที่เที่ยวเยอะมากกกกก อาหารอร่อย วัฒนธรรมดี ประวัติศาสตร์ยาวนาน มี street food เริดๆ กระจายอยู่ทั้งเมือง หิวๆก็คือมีให้กินตลอด สำคัญคือที่นี่มีที่เที่ยวหลากหลายมากๆ ทั้ง ศาลเจ้า แหล่งช้อปปิ้ง สวนสนุก สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ จนนักท่องเที่ยวหลายคนถึงกับยกให้เป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับต้นๆ ในการวางแผนเที่ยว!! 

สำหรับใครที่วางแพลนมาญี่ปุ่น อีกหนึ่งทริคที่เราอยากบอกต่อก่อนมาเที่ยวโอซาก้าเลยก็คือ อย่าลืมซื้อ Osaka e-Pass One day trip นะทุกคน! มีแล้วดีมาก เพราะบัตรใบนี้สามารถใช้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในโอซาก้าได้มากกว่า 20 แห่งเลยทีเดียว! แถมยังถูกลงกว่าไปซื้อเข้าหน้าสถานที่ต่างๆ มากด้วย คือพกไปใบเดียวสามารถเข้าสถานที่ต่างๆ ได้เยอะมาก แถมไม่ต้องรอคิวให้เสียเวลาเลย เรียกว่ามีใบเดียวเที่ยวได้คุ้มสุดๆ (ปล. ระหว่างรอรับบัตร Osaka e-Pass จะนานนิดหน่อยนะ เพื่อนๆ ที่วางแพลนเที่ยวไว้แบบแน่นเอี๊ยดอย่าลืมเผื่อเวลากันด้วย)

หรือจะเลือกเป็นบัตร Osaka Amezing-Pass ก็สุดคุ้มมากๆ เพราะเราสามารถใช้บริการการขนส่งฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แบบไม่จำกัดรอบในเมืองโอซาก้าแล้ว ยังสามารถเข้าชมหรือผ่านเข้าประตูแหล่งท่องเที่ยวได้มากกว่า 40 แห่ง!! ถ้าเพื่อนๆสนใจ สามารถตามไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี่เลย!

ดังนั้นวันนี้ พวกเรา LifeSara จึงขออาสาพาทุกคนไปหลงเสน่ห์โอซาก้า กับ 34 ที่เที่ยว ตะลุยรอบเมืองโอซาก้า เริ่มตั้งแต่ตั้งแต่ถนนคนเดินโดทงโบริ ถ่ายภาพคู่กับป้ายไฟกูลิโกะ ขึ้นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ติดอับดับโลก ตะลุยเที่ยวยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studio Japan) ต่อด้วยไหว้พระ ก่อนจะปิดท้ายกับการผจญภัยในปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) มาเท่านี้ก็น่าตื่นเต้นแล้วจริงๆ ซึ่งแต่ละที่เราก็ขอแปะบัตร Osaka e-Pass หรือ Amzaing e-Pass ที่สามารถใช้ในบางสถานที่เข้าไปได้ด้วยนะ ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยยยยยยย

ตะลุยที่เที่ยวโอซาก้าด้วย Osaka Metro

ถ้าอยากเที่ยวให้ครบอย่าลืมถือบัตร Osaka Metro สามารถเที่ยวรอบเมืองโอซาก้าในราคาเริ่มต้น 162 บาท ไม่จำกัดเที่ยว ไม่จำกัดรอบ~

ก่อนอื่นสำหรับใครที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวรอบเมืองโอซาก้า อย่าลืมซื้อบัตรโดยสารรถไฟ Osaka Metro กับทาง Klook ก่อนมากันด้วยนะ เพราะเป็นบัตรที่ทำให้เราเดินทางสะดวกมากๆ ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบ ก็คือบัตรสำหรับ 1 วันแบบเหมาจ่าย 162 บาท และบัตรสำหรับ 2 วัน แบบเหมาจ่าย 299 บาท!!

บอกเลยว่าเป็นบัตรที่ทำให้เราเที่ยวได้อย่างสบายใจ ไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนเกินในการเดินทางมาก เพราะเราสามารถโดยสารด้วยรถไฟใต้ดิน(Osaka Metro) มากถึง 9 สาย ฉบับรอบเมืองโอซาก้า และ Osaka City bus สาย Imazato เรียกว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสะบายในการเดินทางสุดๆ

แล้วเป็นบัตรที่คุ้มมากกกก เพราะบัตรเดียวสามารถใช้เป็นส่วนลดการเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย เช่น ส่วนลดเข้าชม Osaka Castle, Umeda Sky Building, Tempozan Giant, Spa World onsen และอื่น ๆ อีกมาก! แล้วเราไม่ต้องกลัวจะใช้บัตรไม่คุ้มเลย เพราะที่โอซาก้ารถไฟฟ้าใต้ดินเขามีเส้นทางครอบคลุมในเมืองโอซาก้าอย่างทั่วถึง อีกทั้งยังใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวตอนเราไปโอซาก้า เราจิ้มเป็นบัตร 2 วันมา  เสียไปประมาณ 301 บาท แต่ชิวมากเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าในการตะลุยทั่วรอบเมืองขนาดใหญ่ 

ใครสนใจอย่าลืมดูน้าาา ซื้อตามเว็บที่เราแปะไว้เลยยย  

ข้อมูลเพิ่มเติม : พอเราซื้อแล้วเราสามารถเอาเวาเชอร์ในโทรศัพท์ของเราไปออกตั๋วได้ตามเคาท์เตอร์ ในรายชื่อ ต่อไปนี้ ที่โอซาก้าได้เลยนะ

  1. เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสาร Osaka Metro ที่สถานี Shin-Osaka, 
  2. เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสาร Osaka Metro ที่สถานี 
  3. Umeda, Hana Tour สนามบินคันไซ (KIX) เทอร์มินอล 1  
  4. เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสาร Osaka Metro ที่สถานี Tennoji
  5. เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสาร Osaka Metro ที่สถานี Namba
  1 

Dotonbori

เริ่มกันที่ถนนโดทงโบริ (Dotonburi) แลนด์มาร์คของสายกิน ที่คนไม่ชอบกินก็ต้องไปให้ถึง โดทงโบริคือถนนเลียบคลองในเมืองโอซาก้าที่กลายมาเป็นย่านการค้าสำคัญของเมือง สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษ คือที่นี่มีร้านอาการให้เลือกเยอะแบบจุกๆ ร้านดังก็เยอะ และผู้คนก็เยอะมากเช่นกันน ครึกครื้นมากก 

ซึ่งหนึ่งในมุมฮิตที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่ถนนโดทงบูริ คือการแชะภาพคู่กับป้ายไฟนักวิ่งกูลิโกะแหละ!! ป้ายใหญ่มาก เห็นมาแต่ไกลเลย อย่าลืมแวะไปน่าา   

  2  

Shinsaibashi Suji

ใกล้ๆ กับถนนโดทงโบริมีย่านการค้าสำคัญๆ ของโอซาก้าที่สายช้อปไม่ควรพลาด ซึ่งย่านการค้าที่ว่าก็คือ ชินไซบาชิ (Shinsaibashi Suji) ที่นี่จะมีร้านค้าให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านเยอะมากกก ไม่ว่าจะเป็นร้าน 100 เยน ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอางปลอดภาษี ร้านอาหาร ขนม หรือของเล่นก็มีนะ เรียกว่าเดินจับจ่ายกันจนขาเจ็บเลยทีเดียว แล้วผู้คนที่นี่เขาแต่งตัวกันชิคมากกกก

  3  

Round 1 Stadium Sennichimae

ราวนด์ วัน สเตเดี้ยม เซนนิจิมาเอะ (Round 1 Stadium Sennichimae) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของนักช้อป และศูนย์รวมความสนุกของทุกคน เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทำเยอะมากตั้งแต่ คีบตุ๊กตา เกมเต้น โยนโบว์ลิ่ง เกมเคาะจังหวะตามเพลง เกมเหรียญ ไปจนถึงยิงธนู!! หรือจะถ่ายตู้สติ๊กเกอร์ไว้เป็นที่ระลึกก่อนกลับไทย ที่นี่ก็มีเช่นกัน

  4  

Kuromon Market

มากันที่แลนด์มาร์คของสายแซ่บ หรือผู้ที่ชื่นชอบอาหารซีฟู้ด กับตลาดคุโรมง (Kuromon Market) ส่วนตัวคนจะเรียกที่นี่ว่าตลาดปลากัน เพราะเป็นแหล่งรวมอาหารซีฟู้ดอย่างปลา กุ้ง หอย และปู แบบเยอะจุกๆ 

ไฮไลต์ของที่นี่คือเขาจะมีร้านแล่ปลา ย่างเนื้อกันสดๆ ตลอดทางเยอะมาก นอกจากนี้วัตถุดิบของเขายังสดสุดๆ อีกด้วย เพราะอยู่ในแหล่งเลย เพราะฉะนั้นอาหารที่ออกมา ก็จะมีความสดใหม่มากเช่นกัน พูดเลยว่าเดินไปหิวไปจริงๆ

  5  

 HEP FIVE Ferris Wheel

เห็นแดงมาแต่ไกลกับชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE Ferris Wheel (HEP FIVE Umeda Osaka) ขอบอกว่าวิวข้างบนสวยมาก เป็นวิวรถไฟ ท้องฟ้า เมืองโอซาก้า สายน้ำ ไปจนถึงภูเขา เสียดาย ที่กล้องถ่ายรูปบันทึกความงดงามเอาไว้ไม่ชัดเท่าตาเห็น 🥹

สามารถซื้อหรือดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย

  6  

Umeda sky building Kuchu Teien Observatory

ตึกที่มีหน้าตาดูโมเดิร์นที่เราเห็นอยู่คือ ตึกอุเมดะ สกาย หรือ หอคอยชมวิวสวนลอยฟ้า (Umeda sky building Kuchu Teien Observatory) สถานที่ที่เราสามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้แบบ 360 องศา โดยตรงกลางจะมีทางเชื่อมระหว่างอาคาร 2 ฝั่งเข้าด้วยกันด้วย ตึกนี้มีทั้งหมด 40 ชั้น ถ้าจะไปชมวิวเราต้องขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 35 แล้วต่อด้วยการขึ้นบันไดเลื่อนที่ให้ความรู้สึกสงบฟีลบันไดเลื่อนสู่สวรรค์ นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีตัวให้ล็อกกุญแจคู่ด้วยนะ (แต่แนะนำว่าถ้าจองเป็นแพคเกจกุญแจก่อนมาจะสะดวกกว่า)

ซึ่งสำหรับเรื่องวิวนั้น พวกวิวข้างบนอะไรงี้สวยมาก พอมองไป เราจะเห็นวิวได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลย ทั้งแม่น้ำ ท้องฟ้า เมืองโอซาก้า และสายลม! ตอนที่เราไปเป็นจังหวะที่พระอาทิตย์สาดแสงลงมาที่แม่น้ำพอดี สวยมากกกกกกกกกกๆ

– สามารถซื้อ Osaka Amezing-Pass หรือดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย

  7  

TeamLab Botanica Garden

โอซาก้ากับงานศิลปะคู่สวนพฤกษศาสตร์ ยังไงก็ต้องยกให้ สวนพฤกษศาสตร์นากาอิ โอซากะ ที่เขานำงานศิลปะมาจัดในสวน กับนิทรรศการ TeamLab Botanica Garden ภายใต้แนวคิดที่ว่า ธรรมชาติจะกลายเป็นศิลปะได้อย่างไร ซึ่งทางทีมผู้จัดได้สร้างงานศิลปะจากแสง เนรมิตสวนพฤษศาสตร์นากาอิ โอซาก้าให้งดงามสะกดสายตาผู้มาพบเห็น โดยมีหลักการว่างานศิลปะต้องไม่ทำลายธรรมชาติ และต้องสร้างการตระหนักรู้ถึงธรรมชาติ 

ซึ่งต้องขอชมว่าเขาทำออกมาสวยมากจริงๆ มีการไล่เรียงของเฉดสี ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ และในจังหวะที่เปลี่ยนสีนี้แหละ คือจังหวะที่เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่สักที่ที่ไม่มีจริงบนโลก แล้วมุมถ่ายภาพ เก็บบรรยากาศคือเยอะมาก เรียกว่าสามารถฝังตัวอยู่ในสวนได้เป็นวันๆ 

ซื้อบัตรเข้าชมได้ที่นี่เลย 

  8  

Tsutenkaku Tower

หากปารีสมีหอไอเฟล โอซาก้าก็มีหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) หอคอยที่ในอดีตนับเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองแห่งเมืองโอซาก้า จนเป็นที่มาของชื่อหอคอยระฟ้าหรือ หอคอยซึเทนคาคุ โดยหอคอยซึเทนคาคุมีความสูงถึง 103 เมตร ซึ่งภายในหอคอยนั้น นอกจากกิจกรรมชมวิวเมืองโอซาก้าก็ยังมีร้านขายขนม ขายของฝาก และตู้กดกาชาปองอีกด้วย!

สำหรับใครที่อยากมาที่นี่ในราคาคุ้มกว่าซื้อราคาหน้างาน เราขอมาบอกต่อบัตร Osaka e-Pass One day trip หาซื้อได้ที่ Klook เลย โดยบัตรตัวนี้พิเศษทุกที่ว่าเราสามารถใช้เข้าแหล่งท่องเที่ยวได้มากกว่า 20 แห่ง แสดงบัตรใบนี้ก็สามารถเข้าได้เลยโดยที่ไม่ต้องไปต่อแถวซื้อบัตรที่ประตูทางเข้าในแต่ละที่เที่ยว คือใช้ได้แบบหนำใจในราคา 500 ต้นๆ เลย

สามารถซื้อ Osaka Amezing-Pass หรือดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย

  9  

Shinsekai

เมื่อมาหอคอยซึเทนคาคุแล้ว ต้องไม่พลาดที่จะมาเดินเที่ยวในย่านซินเซไก (Shinsekai) โดยย่านซินเซไก เป็นย่านที่รวมร้านค้า และอาหารเสียบไม้ชุบแป้งทอดไว้เยอะมากแบบตะโกน ความโดดเด่นของย่านแห่งนี้คือบรรยากาศย้อนยุคแบบเรโทร โดยคำว่าซินเซไกที่เป็นชื่อย่าน หากแปลแบบตรงตัวจะมีความหมายว่า ‘โลกใหม่’ ที่นี่จึงเปรียบได้กับโลกใหม่ของโอซาก้าอันมีหอคอยซึเทนคาคุเป็นฉากหลัง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ย่านที่ขาดไม่ได้ของที่นี่ก็คือรูปปั้นหน้ายิ้มบิลลิเคน ฮิตชนิดที่ว่า มองไปทางไหนก็เจอ ไม่ว่าจะเป็นตามร้านอาหาร ร้านค้า หรือตามทางเดิน ที่นี่มีความเชื่อว่าบิลลิเคนคือเทพเจ้าผู้ประทานโชคลาภ และความรุ่งเรืองให้กับผู้เป็นเจ้าของ คนญี่ปุ่นจึงนิยมนำบิลลิเคนมาวางไว้หน้าร้านเพื่อให้กิจการรุ่งเรือง สิ่งที่ชอบมากคือเขามีแบบเป็นตุ๊กตาวางขายตามร้านค้าทั่วไปด้วย น้องนุ่มนิ่มน่ารักมากกกกก 

  10  

Universal Studio Japan

เชื่อว่าหมุดหมายที่ทำให้หลายคนแพคกระเป๋าไปญี่ปุ่น ก็คือยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studio Japan) สวนสนุกแห่งแรกในเอเชียของ ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ ที่รวมเครื่องเล่นแบบจัดเต็ม แล้วแต่ละโซนจัดใหญ่มาก ตกแต่งอลังการเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลก โดยเฉพาะสาวกแฮรี่!!

มาถึงที่นี่สิ่งที่หลายคนทำกันเป็นธรรมเนียมคือการถ่ายภาพคู่กับลูกโลกยูนิเวอร์ซัล และแม้จะเข้ามาได้ไม่นาน เราก็เสียตังซื้อน้องๆ จากรายการ Sesame Street (เซซามี สตรีท) แล้ว น่ารักมาก แล้วโซนมาริโอ้ก็คือน่ารักแรงมาก เหมือนหลุดเข้าไปในเกมเลย แล้วเห็นปราสาทฮอกวอตส์ที่มาจากหนังแฮรี่พอตเตอร์นั้นไหม จะบอกว่างานดีเทลคือที่สุดจริงๆ มันเหมือนมาก สวยแบบมองไกลๆ ก็ยังสวย

  11  

Captain Line

หลังเที่ยวยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน เสร็จแล้ว เราขอแนะนำการเดินทางด้วยเรือโดยสาร Captain Line เรือที่แล่นระหว่าง Universal Studio Japan ไปจนถึง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan ตัวเรือใหญ่ กว้างขวาง เดินทางสะดวกสะบาย สำคัญคือระหว่างทางเราจะได้เพลิดเพลินกับการชมวิวริมแม่น้ำ ซึ่งขอบอกว่าสวยมากจริงๆ ได้เห็นชิงช้าสวรรค์ Tempozan Giant Ferris Wheel จากอีกมุมด้วย มีเสน่ห์มาก

– สามารถซื้อ Osaka Amezing-Pass หรือดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย 

  12  

Santa Maria Cruise

ไม่มีโกอิ้งแมรี่ ไปไม่ถึงเทาซันซันนี่ ก็เป็นโจรสลัดได้! ที่เรือ Santa Maria Cruise ที่โอซาก้า เรือโจรสลัดที่ถูกสร้างเลียนแบบเรือที่โคลัมบัสใช้ในการค้นพบทวีปอเมริกา Santa Maria เห็นในรูปดูเล็กๆ แต่พอไปจริงแล้วใหญ่มาก โดยเรือSanta Maria Cruiseจะพาเราแล่นชมวิวรอบๆอ่าวโอซาก้าเป็นเวลา 45 นาที บอกเลยว่าลมเย็นมาก ขอแนะนำให้ใส่เสื้อหนาๆ จะได้อุ่นๆ บรรยากาศตอนแล่นเรือคือดีสุดๆ เสียดายที่ท้องฟ้าครึ้มไปนิด

– สามารถซื้อ Osaka Amezing-Pass หรือดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย 

  13  

LegoLand Discovery Center

สาวกเลโก้เขามาละลายทรัพย์กันที่นี่เลย Lego Land Discivery Center ศูนย์รวมเลโก้ และเกมต่อที่จะทำให้เราได้ย้อนคืนสู่วัยเด็กอีกครั้ง ใครที่กำลังมองหาของฝากเป็นเลโก้หิ้วกลับไทยแนะนำให้มาที่นี้เลย  เพราะมีให้เลือกเยอะมากกก เป็นแหล่งของเลโก้โดยแท้จริง ที่ชอบคือเขามีมีแยกขายเป็นชิ้นเล็กๆสำหรับให้เราเอากลับบ้านไปประกอบเองแบบอิสระด้วย

– สามารถซื้อ Osaka Amezing-Pass หรือดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย 

  14  

Osaka Aquarium Kaiyukana

ถึงแล้ว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง โอซาก้า (Osaka Aquarium Kaiyukan) อควาเรียมที่มีความยิ่งใหญ่ระดับโลก ซึ่งถูกจัดให้เป็นอวาเรียมที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและเอเซีย ที่นี่คนไม่เยอะเลย เดินสะบายมาก แล้วอุโมงใต้น้ำคือสวยมาก เป็นสีน้ำเงินเข้ม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใต้น้ำแล้วมีปลาแหวกว่ายอยู่รอบตัวจริงๆ 

ถัดจากนั้นเราก็ไปดูป่าญี่ปุ่น แล้วต่อไปที่หมู่เกาอะลูเชียนเพื่อดูน้องนกพัฟฟิน ซึ่งทุกตัวมีความตะมุตะมิมาก ขนของน้องคือสวยผู้ดีมาก น้องๆดูแลขนกันอย่างดีจริงๆ  

  15  

Tempozan Market Place

ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง มีสถานที่ที่ทุกคนสามารถเดินเที่ยว ช้อปปิ้ง และแวะทานอาหารได้ กับ เท็มโปซาน มาร์เก็ต เพลส (Tempozan Market Place) ศูนย์การค้าที่ด้านในประกอบไปด้วยร้านค้าและร้านขายของที่ละลึกมากกว่า 80 ร้าน บอกเลยว่าเขาตกแต่งทำซุ้มกันน่ารักมาก มีการแขวนโคมด้วย แล้วอาหารคือน่ากินสุด ไม่ว่าจะทาโก๊ะยากิ หรือพิซซาญี่ปุ่น

  16  

Tempozan Giant Ferris Wheel

ถึงแล้ว ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ติดอันดับโลกและมีความสูงมากถึง 112.50 เมตร ณ ณ ริมอ่าวโอซาก้า กับ Tempozan Giant Ferris Wheel!!

พูดได้เลยว่าใหญ่สมชื่อชิงช้าสวรรค์ยักษ์มากจริงๆ แถมวิวด้านบนยังดีมากๆ โดยเราสามารถมองเห็นแม่น้ำ สะพาน เมืองโอซาก้า และท้องฟ้า เพราะชิงช้าสวรรค์พาเราขึ้นไปสูงมากกกกก นอกจากนี้ยังมีช่วงที่หยุดให้เราได้ชมความงดงามของทิวทัศย์แบบ360องศาอีกด้วย ถ้ามาในวันฟ้าเปิด อาจมีโอกาศได้มองเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วยนะ เต็มอิ่ม ฟินสุดๆ

– สามารถซื้อ Osaka Amezing-Pass หรือดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย 

  17  

Tempozan Park

Tempozan Park เป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่ติดกับอ่าวโอซาก้า ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง โอซาก้า, เท็มโปซาน มาร์เก็ต เพลส และ ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ Tempozan Giant Ferris Wheel ที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อนในวันสะบายๆ โดยเมื่อมาที่นี่แล้วทิวทัศน์ที่เราจะมองเห็นจะประกอบไปด้วย ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ แปลงดอกไม้ สายน้ำ เมืองโอซาก้า และท้องฟ้าที่อันปลอดโปร่ง 

  18  

Tennoji Zoo Museum

สวนสัตว์เทนโนจิแห่งโอซาก้า (Tennoji Zoo Museum) สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับคนรักสัตว์ และแลนด์มาร์กที่น่าพาลูกๆ หรือสมาชิกในครอบครัวมาเยี่ยมชมเมื่อมาถึงโอซาก้า ที่นี่มีสัตว์ให้ชมทั้งสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ สัตว์น้ำ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งสวนสัตว์ที่นี่เขาดูแลน้องๆกันดีมาก ไฮไลท์ที่ชอบคือที่นี่มีห้องจัดแสดงที่มีผู้ชำนาญการคอยให้คำแนะนำและตอบคำถามในกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์และธรรมชาติได้ให้กับผู้มาเยือน และขอบอกเลยว่าสวนสัตว์เทนโนจิมีพื้นที่กว้างขวางมาก สามารถพาน้องๆหนูๆมาวิ่งเล่นได้อย่างสะบายใจสุดๆ

อยากมาดูสวนสัตว์รีบลุยมานะ เพราะที่นี่สามารถใช้บัตร Osaka e-Pass One day trip ได้นะทุกคนนนน 

– สามารถซื้อได้ที่นี่เลย

  19

Namba Yasaka Jinja

ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Jinja) เป็นวัดญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเขตนัมบะ เมืองโอซาก้า จุดเด่นของวัดนี้คือหัวสิงโตหน้าตาดุดัน ซึ่งเชื่อกันว่าปากของสิงโตสามารถกลืนสิ่งไม่ดี ปัดเป่าความชั่วร้าย และนำพาโชคลาภมาให้แก่ผู้ที่เดินทางมาสักการะ ขอพรได้ 

สถาปัตยกรรมของวัดนัมบะ ยาซากะจะมีความซับซ้อนตามลักษณะของวัดพุทธ วัดนัมบะ ยาซากะ จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมประเพณีญี่ปุ่น อีกทั้งที่นี่ยังมีการจัดแสดงแสดงศิลปะ ดนตรี แล้วยังมีร้านขายของฝากและของที่ระลึกน่ารักๆอีกด้วย และแน่นอนว่ามีเครื่องรางให้เราได้จับจองติดไม้ติดมือกลับไทยอีกด้วย 

  20  

Tennoji Park

สวนสาธารณะเทนโนจิ (Tennoji Park) สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในเขต Tennoji เมือง Osaka ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ สวนนี้มีพื้นที่กว่า 26 ไร่ เป็นพื้นที่สีเขียวในเมือง Osaka และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายไปพร้อมกับการสัมผัสธรรมชาติ ภายในสวนมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น โต๊ะพิมพ์ เครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ อีกทั้งยังตั้งอยู่ไม่ไกลจาก  เท็มโปซาน มาร์เก็ต เพลส อีกด้วย เรียกว่าเวลาหิวก็สะดวกสะบายกันสุดๆ

แต่ที่เห็นในภาพดูคนเยอะๆและมีร้านค้าเพราะเป็นวันที่เขาจัดอีเวนต์อาหารกัน สวน Tennoji Park เลยคึกคักเป็นพิเศษ  แถมยังใช้บัตร Osaka e-Pass One day trip เข้าได้อีกด้วย

– สามารถซื้อได้ที่นี่เลย  

  21  

Keitakuen Garden

มาโอซาก้าจะพลาดไม่มาสวนคีทาคุเอ็น (Keitakuen Garden)ได้ยังไง ความโดดเด่นของสวนแห่งนี้จะเป็นสวนสไตล์ Chisen – kaiyushiki คือมีบ่อน้ำอยู่ตรงกลาง และมีทางเดินล้อมรอบ มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การดื่มด่ำธรรมชาติ และชื่นชมความงดงามของสวนและสถาปัตยกรรม ไฮไลท์ของที่นี่คือ เนินเขา บ่อน้ำ สะพาน ทางเดินหิน และศาลาจิบน้ำชา ที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น ชื่อว่า Jihei Ogawa หรือ Ueji

  22  

Kawazokoike Pond

บ่อน้ำคาวาโซโคอิเกะตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของสวนเทนโนจิ ความโดดเด่นของสวนแห่งนี้คือสะพานแดงที่หลายคนปักหมุดให้เป็นแลนด์มาร์กในการถ่ายรูป ซึ่งที่นี่เหมาะกับการมาเดทมาก บรรยากาศชิลๆ นั่งมองแม่น้ำ สัมผัสสายลม ใบไม้ร่วง ไปพร้อมกับชื่นชมความงดงามของดอกไม้ 

  23  

Isshinji Temple

วัดอิสชินจิ (Isshinji temple) เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองโอซาก้ามาตั้งแต่ปี 1185 วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์, สถาปัตยกรรม และศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่น และเป็นวัดภายใต้ศาสนาพุทธนิกายโชโดชู  อีกหนึ่งความโดเด่นที่ทำให้วัดอิสชินจิมีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน คือการทำพระพุทธรูปจากเถ้ากระดูกคนตายที่เก็บอยู่ในที่เก็บศพ ซึ่งจะมีพิธีการทำพระพุทธรูปนี้ทุกๆ 10 ปี ทำให้วัดแห่งนี้ถูกขนานนามอีกชื่อว่าวัดพระพุทธรูปกระดูก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีการเล่าเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เพื่อช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้มากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจศิลปะญี่ปุ่นอีกด้วย  

  24  

Shitenoji Temple

สัญลักษณ์ของโอซาก้า ชิเทนโนจิ (Shitenoji Temple) วัดคู่เมืองโอซาก้ากว่า 1900 ปี เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองโอซาก้า โดยวัดชิเทนโนจิ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 593 ความโดดเด่นคือเจดีย์ห้าชั้น ซึ่งหลายๆคนมักจะคุ้นเคยกันในภาพของเจดีย์แดงที่มาคู่กับภูเขาไฟฟูจิ 

ภายในวัดประกอบไปด้วยหลายอาคารที่สร้างขึ้นจากไม้และอิฐ และเป็นที่ประดิษฐานของพระเหรียงที่สำคัญของศาสนาพุทธ ที่นี่คนจะนิยมมาขอพรกับพระเหรียง แต่ด้วยความโดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรม หลายๆคนจึงเดินทางมาเพื่อชมวัด ดูภาพแกะสลัก และภาพจำลองของอาคารโบราณไปจนถึงวัตถุโบราณอื่น

– สามารถซื้อ Osaka Amezing-Pass หรือดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย 

  25  

Shitennoujijyaya

ห่างจากประตูโทริอิ ประตูทางเข้าวัดชิเทนโนจิมาไม่ไกล จะเจอกับคาเฟ่ของสาวกมัทฉะ ชาเขียว ที่มีชื่อว่า shitennoujijyaya คาเฟ่ญี่ปุ่นสไตล์โฮมมี่ ที่แอบมีความน้อยแต่มาก และแฝงเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นไว้ทุกมุมของร้าน บอกเลยว่ามื้อขนมหวานของที่นี่คือฟินมาก พวกเราสั่งขนมเป็นเซทเมนูซิกเนเจอร์ ที่มาคู่กับมัทฉะเข้มๆ และถั่วแดงมาก 

  26  

Harukas 300

ถึงแล้ว Harukas 300 จุดชมวิวบนตึกที่สูงที่สุดในโอซาก้า และสูงที่สุดในญี่ปุ่น! กับอาคาร ABENO HARUKAS โดยอาคารแห่งนี้มีมีระดับความสูงถึง 300 เมตรกันเลยทีเดียว หากต้องการชมวิวให้ขึ้นมาที่ชั้นที่ 58 โดยเราสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา เมืองโอซาก้ากว้างใหญ่มาก ไต่ละดับความสูงขึ้นมาอีกนิดที่ชั้น 59 จะเป็นร้านขายของที่ละลึกแหละ แวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้เลย

– ปล. สำหรับที่นี่เราสามารถซื้อบัตรเข้าชมวิวฮารุกัส 300 ผ่าน KLOOK ได้ด้วยนะ ราคาบัตรเริ่มที่ 125 บาท เพื่อนๆ สามารถซื้อหรืออ่านรายละเอียดบัตรเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย  

  27  

Horikoshi Jinja

ศาลเจ้าโฮริโคชิ (Horikoshi Jinji) ศาลเจ้าชินโต หนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนสักครั้งเมื่อมาโอซาก้า ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างในสมัยของจักรรพรรดิองค์ที่ 33 สถาปัตยกรรมภายในศาลเจ้าจะมีความเก่าและดูขลัง บรรยากาศของที่นี่ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงถึงอนิเมะเรื่อง นัตสึเมะ กับสู่ป่าแห่งแสงหิงห้อยมากกกก

  28  

Namba Grand Kegetsu

นัมบะ แกนด์ คาเกตสึ (Namba Grand Kegetsu) เป็นโรงละครและโชว์ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตนัมบะ เมืองโอซาก้า นัมบะ แกนด์ คาเกตสึ ได้รับความนิยมและดังในญี่ปุ่นมาก เพราะมีการแสดงหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี คอมเมดี้ และโชว์ต่างๆ เรียกว่าเป็นสถานที่ที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คนทุกเพศทุกวัยก็ว่าได้

  29  

Hozenji




วัดโฮเซ็งจิ (Hozenji) ตั้งอยู่ในย่านนัมบะ ผู้คนมักมาที่วัดโฮเซ็งจิ เพื่อขอพรกับรูปปั้นมิสุคาเคะฟุโดซอน หรือรูปปั้นที่ถูกมอดขึ้น มีความเชื่อว่าเมื่อเราตามหาจนเจอเแล้วสาดน้ำใส่ ท่านจะนำพาสิริมงคงมาให้แก่ผู้ที่ขอพร อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังมีสถาปัตยกรรมตามแบบเทวสลัยโบราณ ผสานกับรูปแบบของวัดในชนบทจากสมัยเอโดะ เหล่านั้นทำให้วัดโฮเซ็งจิม่ีความโดดเด่นมาจนถึงปัจจุบัน

  30  

Kamigata Ukiyoe Museum




คามิงาตะ อุกิโยโอะ มิวเซียม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดและเล่าประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ข้างในมีการจัดแสดงภาพแนว Ukiyo-e Ukiyoe หรือก็คือ ภาพวาดที่วาดลงบนแผ่นไม้ จากนั้นจึงนำแผ่นไม้ไปแกะสลักตามภาพที่วาดเอาไว้ เสร็จแล้วทาหมึกลงไป แล้วจึงเอากระดาษหรือผ้ามาทาบบนหมึก ทำให้เกิดเป็นรูปภาพขึ้นมา ซึ่งโดยมาก คามิงาตะ อุกิโยโอะ มิวเซียมจะจัดแสดงภาพของเหล่านักแสดงละครคาบูกิ จากยุคสมัยเอโดะ เช่น Nakamura Utauemon, Kataoka Nizaemon 

  31  

Osaka castle

Osaka Castle ปราสาทโอซะก้าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2231 โดย Tokugawa Ieyasu ซึ่งเป็นผู้ครองแผ่นดินฮอนชู (Honshu) ในสมัย เอโดะ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดังมากของเมืองโอซาก้า แน่นอนว่าถ้าใครกำลังวางแผนท่องเที่ยวใน Osaka และต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ต้องไม่ลืมที่จะเพิ่ม Osaka Castle เข้าไปในลิสต์ด้วย เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและน่าสนใจมาก! ขอแนะนำให้ไปช่วงซากุระบาน จะฟินมาก

ใครอยากมาดูก็อย่าลืมซื้อบัตร Osaka Oneday trip ได้ที่ Klook นะทุกคน 

– สามารถซื้อได้ที่นี่เลย 

  32  

Osaka Museum of History




พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองโอซาก้าทำให้เราลบภาพจำเดิมๆของพิพิธภัณฑ์ ไปเลย เพราะที่นี่เขาทันสมัยมาก แค่อาคารที่เป็นที่ตั้งก็กินขาดแล้วจริงๆ ภายในของพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองโอซาก้าตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วิดีทัศน์ หรือโมเดลจำลองขนาดยักต์ก็มี โดยเมื่อไปถึงเราจะได้ขึ้นไปที่ชั้น10ก่อนเลย จากนั้นจึงค่อยๆไต่ละดับลงบันไดเลื่อนมาทีละชั้น ซึ่งเราชอบมาก เพราะนั้นหมายความว่าเราจะได้เรียนรู้แบบครบทุกชั้นจริงๆ 

นิทรรศการจะอยู่บริเวณชั้น 10 ลงมาจนถึง 7 โดยมีรายละเอียดการจัดนิทรรศการดังนี้

ชั้น 10 : เรียนรู้โอซาก้าในอดีตเมื่อศตวรรษที่ 7 ตั้งแต่พระราชวังนานิวะ(Naniwa Palace) พระราชวังแห่งแรกในญี่ปุ่น, นานิวะกับการเป็นเมืองท่า, ชีวิตประจำวันของชาวโอซาก้าในอดีต, ศาสนาและวัดในยุคนานิวะ    

– ชั้น 9 : ชีวิตในโอซาก้าระหว่างยุคกลางจนถึงตอนต้นของยุคสมัยใหม่ หรือที่เรียกว่า เอโดะ ในประเด็นที่ประกอบไปด้วย ศูนย์กลางเมืองใหม่ของโอซาก้า, ปราสาทโอซาก้า, ชีวิตประจำวันในยุคเอโดะ ซึ่งถูกแยกย่อยออกมาเป็นหัวข้อ ครัวของชาติ วัฒนธรรมคนเมือง จุดเริ่มต้นของถนนสายเอนเตอร์เทน Dotonbori 

ชั้น 8 : ที่ชั้นนี้ เราจะได้เข้าไปผจญภัยในพื้นที่จำลองหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เสมือนว่าได้เข้าไปอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้นจริงๆ ส่วนบริเวณชั้น 7 จะเป็นโอซาก้าในยุคปัจจุบัน 

สุดท้ายที่ชั้น 6 : จะมีจัดแค่บางโอกาศเท่านั้น ซึ่ง ณ วันที่เราไปเขากำลังจัดแสดงงานปั้นจานเซรามิก อยู่พอดี ถือว่าโชคดีมากกก

  33  

Osaka Tenmangu

ศาลเจ้าโอซาก้า เทมมังงุ (Osaka Tenmangu) ศาลเจ้าเก่าแก่ ที่ดังมากๆแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า เป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าที่มีการจัดเทศกาลเท็นจิน มัตสุริ อีกด้วย โดยศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพแห่งปัญญา สุกาวาระ มิชิซาเนะ (Sugawara Michizane) ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ กลายเป็นจุดมุ่งหมายที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กนักเรียนที่มาขอพรในการทำข้อสอบมากๆ 

  34  

Tombori River Cruise




ปิดท้ายก่อนจากด้วยการล่องเรือครูซส์ Tombori River Cruise เพื่อชมความงดงามของโอซาก้า ด้วยเส้นทางลำธาร Dotombori River โดยใช้เวลา 20 นาที บอกเลยว่าเต็มอิ่มมาก เพราะมีไกด์ชาวโอซาก้าคอยแนะนำมุมต่างๆของเมืองพร้อมกับบอกเล่าประวัติศาสตร์ตลอดเส้นทาง จนมาถึงย่านดัง แลนด์มาร์คที่เป็นจุดเริ่มต้นทริปโอซาก้าของพวกเราในครั้งนี้ ถนน Dotonbori ญี่ปุ่น – โอซาก้า ด้วยรัก และความประทับใจ 

– สามารถซื้อ Osaka Amezing-Pass หรือดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย