—————
เพราะเรามีเพียงแค่ร่างกายเดียว เพราะฉะนั้นก็ต้องถนอมๆ กันหน่อยนะ! แน่นอนว่าเรายังมีบทความตัวช่วยถนอมร่างกาย รักษาสุขภาพดีๆ ที่อยากให้ทุกคนได้อ่านกัน กดตามด้านล่างนี้ไปโลดดดด
– 4 แบรนด์หมอนสุขภาพยี่ห้อไหนดี ให้สัมผัสการนอนหลับสบายยันเช้า
– รวม 9 คลินิกกายภาพบำบัด ลดปวดหลัง ชาวออฟฟิศซินโดรมห้ามพลาด
– ปักหมุด 4 คลินิกจัดกระดูก ปวดหลังแบบนี้ ไปนวดรักษาที่ไหนดี?
– แจกพิกัด 8 คลินิกทันตกรรมในกรุงเทพ! ที่เดียวจบครบทุกบริการ
1
ตัดแว่นสายตาได้ตรงจุด แก้ไขปัญหาได้อย่างเข้าใจ
“เพราะมัทยา อยากให้ทุกคน ได้ใส่แว่นสายตาที่ดีที่สุด”
ย้อนกลับไป คุณหมอมัทยาเริ่มต้นสร้าง ‘Mattaya Vision Center’ ก็เพราะตนเองพบเจอกับคนไข้มากมายที่มักมีปัญหาสายตา แต่ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง บางคนต้องเสียเงินมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้แว่นตาที่ถูกใจสักที
ซึ่งแว่นตามันไม่ใช่แค่เรื่องแว่นๆ ใส่อะไรก็ได้อย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะการใส่แว่นตาที่ไม่ดีจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น ต่องาน และการใช้ชีวิตของเรา บางคนอาจเวียนหัวใส่แว่นไม่ได้ บางคนอาจทำงานไป ปวดหัวไมเกรนไป ซึ่งจริงๆ แล้วตัวต้นเหตุมักจะเกิดจากแว่นตาที่เราใส่ มันไม่พอดีกับตาของเรามากพอ
เพราะฉะนั้นคุณหมอมัทยาจึงมีความตั้งใจจะสร้าง “ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟมัทยา” ที่จะเป็นสถานที่ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการมองเห็น และ มีบริการตัดแว่นแบบพรีเมียม ออกแบบเลนส์เฉพาะบุคคลของแต่ละคนขึ้นมา ใช้ความเชี่ยวชาญรีดเค้นประสิทธิภาพของแว่นและเลนส์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ผู้ใส่ได้แว่นสายตาที่ดีที่สุดและตรงกับความต้องการมากที่สุด
2
คุณภาพแว่นตาระดับพรีเมียม “ตัดแว่นกับมัทยา ตัดทุกปัญหาสายตา”
ไม่ต้องมีคำว่า “ต้องปรับตัว”
หากพูดถึงแว่น คนส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่การเลือกกรอบแว่นเป็นหลัก มักจะตั้งใจเลือกให้ใส่แล้วดูดีเข้ากับใบหน้าของตัวเอง แต่ส่วนประกอบอื่นๆ ของแว่นมักจะมองข้ามไป แค่ใส่แล้วสวย ดูดี มองชัดขึ้น ราคาโอเค ก็จบ แต่มีหลายคนที่เลือกแล้วไปไม่รอดเพราะเจอกับอาการ พื้นลอย ใส่แล้วเวียนหัว ชัดก็ชัดไม่สุด จึงมักจะคิดว่า คงกำลังปรับตัวกับแว่นใหม่อยู่มั้ง เดี๋ยวใส่ไปเรื่อยๆ ก็ชินเอง
แต่การตัดแว่นตาแบบพรีเมียม ที่ Mattaya Vision Center จะไม่เป็นแบบนั้น เพราะ “เราจะทำให้แว่นปรับเข้ามาคน ไม่ใช่คนปรับเข้าหาแว่น” ที่มัทยาพิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่ การเลือกกรอบแว่น ชนิดของเลนส์ รุ่นและยี่ห้อ รวมถึงออปชั่นเสริมต่างๆ และมีนักทัศนมาตร (คุณหมอสายตา) ที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลสายตา โดยตรง คอยปรับจูนและตัดแว่นตาให้เหมาะกับเรามากที่สุด
ดังนั้นแว่นที่ตัดมาจากร้านแว่นตามัทยา เราเลยไม่จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับแว่นใหม่อีกต่อไป เพราะแว่นตาคู่นั้นถูกผลิตให้เหมาะกับเราเพียงคนเดียว
3
บริการดีขั้นสุดดูแลทุกจุดด้วยทีมหมอสายตา
นอกจากตัวแว่นที่ได้จะพรีเมียมแล้ว บริการที่เราได้ยังพรีเมียมด้วย เพราะตั้งแต่เราย่างเท้าเข้ามาในร้าน ก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นลูกค้า V.I.P มีคุณหมอสายตาคอยประกบและให้คำปรึกษาตลอด และยังให้เราเลือกกรอบแว่น ทดลองเลนส์ทุกยี่ห้อ จนกว่าเราจะเจอสิ่งที่ใช่ ให้เราได้ใช้เวลาเลือกแว่นที่เราชอบและเหมาะสมกับเราจริงๆ
4
Mattaya Vision Center ตัวจริงเรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟ
ในวงการแว่นตา จะรู้กันว่าแว่นโปรเกรสซีฟเป็นแว่นที่ตัดยากมากที่สุด 
และใช้ความพิถีพิถันมากที่สุด เพราะเลนส์โปรเกรสซีฟมีความซับซ้อนสูง ต้องใช้คนตัดแว่นเก่งๆ ที่มีฝีมือ แว่นคู่นั้นถึงจะใส่ได้ดีไม่มึนหัว
เลนส์ชนิดนี้เหมาะกับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาสายตาที่ซับซ้อน ความเก่งของโปรเกรสซีฟคือ ใส่แว่นคู่เดียวมองเห็นได้ชัดเจนทุกระยะ ตั้งแต่มองไกลๆ อย่างตอนขับรถ ไปจนมองใกล้ๆ เวลาอ่านหนังสือ ไม่ต้องมีแว่นหลายๆ คู่ให้รำคาญ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะ
เหตุผลที่ลูกค้าส่วนใหญ่ มักจะแนะนำปากต่อปาก และรู้จักกันในชื่อว่า “ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟมัทยา” เพราะ MATTAYA เขายืนหนึ่งในการตัดเลนส์โปรเกรสซีฟจริงๆ โดยคุณหมอมัทยาและทีมงานให้ความสำคัญในรายละเอียดต่างๆ ทุกขั้นตอน ถึงขั้นมีนักทัศนมาตรคอยประกบลูกค้าเป็นรายบุคคลเลยทีเดียว อึ้งเลยสิ 
อึ้งกว่านั้นคือ กว่าหลายหมื่นเคสที่ตัดแว่นตาจากร้านมัทยาไป มักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าได้รับการบริการที่ดีมากๆ และมักจะกลายเป็นลูกค้าขาประจำเสมอ เรียกได้ว่า MATTAYA เป็นขวัญใจของชาวแว่นโปรเกรสซีฟเลยก็ว่าได้
5
ไม่ใช่ใครๆ ก็แทนได้
แม้จะมีลูกค้าบางคนเอาแว่นที่ตัดจากมัทยา ไปลองตัดอีกคู่กับร้านอื่น เพราะเห็นโปรโมชั่น และคิดว่าที่อื่นให้ราคาที่ถูกกว่า ตัดที่ไหนก็คงเหมือนๆกัน แต่พอลองใส่ก็สามารถรู้ถึงความแตกต่าง เพราะตัดออกมาแล้วใส่ไม่ได้ ใส่แล้วไม่สบายตา “จนต้องกลับมาตัดแว่นกับที่นี่” เพราะมันมีความแตกต่างที่เลียนแบบกันไม่ได้ ตัดเลนส์ที่ยากที่สุดยังคุณภาพสูงขนาดนี้ ตัดเลนส์ชนิดอื่นๆสบายหายห่วงเลยค่ะ
หากอยากหารีวิวอ่านเพิ่มเติม ไปดูกันเพิ่มได้ที่นี่เลยว่าลูกค้าคิดยังไงกับ Mattaya Vision Center กันบ้าง!
6
ความเนี้ยบจัดเต็ม วัดสายตาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง
ตามปกติเวลาเราไปตัดแว่นทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่จะไปเสียเวลาตอนเลือกกรอบแว่นตา แต่ขั้นตอนวัดสายตาแค่กระพริบตาก็เสร็จ อย่างช้าสุดก็คงจะไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่ที่ Mattaya Vision Center เขาตรวจละเอียดทุกจุดจริงๆ ซึ่งการตรวจก็ไม่ใช่แค่ดึงเวลา ทำให้ดูมีอะไรเฉยๆ แต่ผ่านกระบวนการวัดมากมาย โดยเริ่มจาก
- คุณหมอสายตา (นักทัศนมาตร) จะสอบถามเราเพื่อทำการประเมินก่อน
- ไม่ต้องกลัวว่าจะได้แว่นที่ใส่แล้วไม่ชอบ เพราะทางทีมนักทัศนมาตรของ Mattaya Vision Center จะเริ่มประเมินการใช้สายตาของเราก่อนทุกครั้ง โดยจะสอบถามเราว่ามักจะใช้แว่นตาทำอะไร ? ต้องการแว่นไปใช้งานอะไรบ้าง บอกเลยว่าข้อนี้ละเอียดยิ๊บ เพราะเค้าต้องการให้เราได้แว่นที่ตรงใจที่สุดกลับไป
- ตรวจวัดค่าสายตาด้วยเครื่องมือสุดไฮเทค
- ในขั้นตอนนี้ยอมรับว่าอึ้งไปเลย !! เพราะร้านแว่นตาโปรเกรสซีฟมัทยา เขามีเครื่องมือหลากหลายมากๆ นอกจากเครื่องวัดตาที่เราคุ้นเคย ยังมีเครื่องวัดสายตาระบบดิจิตอล (Digital Phoropter) ทำให้เราสามารถเห็นความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบเลนส์แต่ละรุ่นได้อย่างชัดเจน
- หลังจากนั้นจะมีการให้เราทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟ ทุกรุ่นทุกยี่ห้อแบบจุใจ เลือกกันจนกว่าจะหารุ่นและยี่ห้อของเลนส์ที่เหมาะสมกับตัวเราและเราชอบมากที่สุด
- ทดลองใช้เลนส์โปรเกรสซีฟจริง
- นอกจากนี้ทางศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟมัทยา ยังมีวิธีช่วยให้เราชินกับเลนส์โปรเกรสซีฟไวๆ ด้วย โดยคุณหมอสายตาจะให้เราสวมเลนส์โปรเกรสซีฟโครงสร้างนั้นๆ ของค่าสายตาที่วัดได้เลย จากนั้นจะให้เราเดินไปตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะขึ้นลิฟต์ ลงบันได เล่นคอม ดูมือถือ เพื่อให้เห็นกันไปเลยว่าเราเหมาะกับเลนส์นี้ไหม ถ้าไม่เหมาะจะได้ไม่เสียเงินตัดแว่นไปแบบฟรีๆ
หากใครอยากเห็นภาพว่าเครื่องตรวจของมัทยาไฮเทคยังไง ตามไปดูได้ที่นี่เลย !!
7
คัดสรรวัสดุทั้งเลนส์และกรอบแว่นชั้นยอดจากทั่วโลก
การคัดเลือกวัสดุต่างๆของมัทยา เป็นอีกจุดที่แสดงถึงความเป็น Perfectionist ของมัทยาอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าจะเป็น เลนส์ หรือ กรอบแว่น ล้วนเป็นแบรนด์ชื่อดังระดับโลก ที่มีคุณภาพระดับ Hi-End ทั้งหมด ดังนั้นแว่นตาที่เราตัดจาก Mattaya Vision Center จึงสามารถที่จะมั่นใจในเรื่องของคุณภาพวัสดุ โดยกรอบแว่นที่มัทยาจะเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมเท่านั้น!!! บอกเลยใส่แล้วเสริมบุคลิก ดูหรู ดูแพงสุดๆ และกรอบแว่นยังมีน้ำหนักเบา จนเรารู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่แว่น ไม่ต้องมาเป็นรอยแดงที่จมูกอีกต่อไป เลิศศ
8
มีนักทัศนมาตร (คุณหมอสายตา) คอยดูแลเราทุกขั้นตอนในการตัดแว่น
จุดเด่นของร้านแว่นตาโปรเกรสซีฟมัทยา คือ มีนักทัศนมาตร หรือที่ชาวบ้านอย่างเราๆ เรียกว่า คุณหมอสายตา คอยดูแลเราในทุกๆ ขั้นตอน “ตั้งแต่ต้นจนจบ” ซึ่งขอบอกว่าไม่ใช่วัดสายตาอย่างเดียว แต่คุณหมอจะให้คำแนะนำเราในการเลือกส่วนประกอบในการ Customize ตัดแว่นที่พอดีกับเรามากที่สุด และคอยตอบคำถามที่เราสงสัย เช่น กรอบแว่นนี้ทำจากอะไร? เลนส์นี้ต่างกับเลนส์นี้ยังไง? ทำให้คนไม่รู้เรื่องแว่นแบบเราๆ อุ่นใจ ถามอะไรตอบได้หมด
9
ความเป็นส่วนตัวยืนหนึ่ง บรรยากาศร้านไม่วุ่นวาย
10
ครบจบทุกเรื่องการมอง บริการแบบ Onestop Service
จากความตั้งใจของคุณหมอมัทยา ที่อยากให้ Mattaya Vision Center ให้บริการแก้ปัญหาสายตาแบบ Onestop Service ให้กับคนทุกเพศทุกวัย ทำให้ลูกค้าอย่างเราๆ ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปหลายๆ ที่ให้เสียเวลา สามารถมาที่เดียวได้ทั้งครอบครัว โดยปัจจุบันร้านมัทยา มี 4 บริการ คือ
- บริการตัดแว่นผู้ใหญ่ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นแว่นอ่านหนังสือ แว่นเฉพาะทาง (Office Lens) แว่นสายตากันแดด และแว่นโปรเกรสซีฟ
- บริการตัดแว่นสายตาเด็ก โดยมีจักษุแพทย์และนักทัศนมาตรคอยดูแล
- บริการตรวจสุขภาพดวงตากับจักษุแพทย์
- รักษาอาการตาแห้งแบบครบวงจร (ตาแห้งก็มีผลต่อการทำให้มองไม่ชัดนะเธอ)
11
บริการหลังการขายสุดปัง ไม่ทอดทิ้งลูกค้า
ในกรณีที่รับเเว่นไปแล้ว เกิดปัญหา เช่น มองไม่ชัด ใส่แล้วมึน แว่นหลวม ทำแว่นเบี้ยวหลังจากซื้อ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ไม่โอเค หายห่วงได้เลย เพราะ Mattaya Vision Center ไม่เคยทิ้งลูกค้า คือเราสามารถเดินมาที่ร้าน หรือโทรมาปรึกษาได้ตลอด รับรองว่าทางทีมงานนักทัศนมาตรของมัทยาจะรีบช่วยเเก้ไขให้ทันที
ซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากแว่นตา ทางมัทยาก็จะพาเราไปพบกับจักษุเเพทย์โดยตรง เพื่อหาแนวทางการรักษาและแก้ไขเพิ่มเติมให้อีกด้วยนะ นอกจากนี้ทางมัทยายังมีออกใบรับรองแพทย์เพื่อเบิกประกันตัดแว่นได้ด้วยนะ ! สบายใจได้เลย
12
ข้อควรรู้ก่อนตัดแว่นที่ Mattaya Vision Center
1. มีกรอบแว่นเดิมที่อยากเปลี่ยนเฉพาะเลนส์ก็สามารถทำได้!
หากใครที่มีกรอบแว่นเดิม หรือมีกรอบคู่ใจ ไม่อยากเปลี่ยนกรอบ แต่ต้องการเปลี่ยนแค่เลนส์ให้เป็นโปรเกรสซีฟเท่านั้น ทางร้านแว่นตาโปรเกรสซีฟมัทยา ก็มีนักทัศมาตรช่วยพิจารณา Fitting กรอบแว่นและเลนส์ให้เหมาะสมด้วยนะ สบายใจไปหนึ่ง
2. เลนส์โปรเกรสซีฟอยู่ได้นานไหม?
ส่วนมากค่าเฉลี่ยอายุการใช้งานของเลนส์โปรเกรสซีฟจะอยู่ที่ประมาณ 2-5 ปี เมื่ออายุเรามากขึ้น ค่าสายตาของเราก็จะเปลี่ยนตามได้ตลอด อายุการใช้งานจึงมีข้อจำกัดเพราะสายตาเราเปลี่ยน แต่ถ้าระหว่างใส่แล้วเริ่มรู้สึกถึงปัญหา แนะนำว่าให้รีบเปลี่ยนใหม่ทันที
3. เลนส์โปรเกรสซีฟเหมาะกับคนอายุเท่าไหร่?
กลุ่มเลนส์โปรเกรสซีฟส่วนใหญ่จะเหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป โดยวัยนี้มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับค่าสายตายาวตามวัยที่เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ มองไกลชัดใกล้ไม่ชัด / ใกล้ชัดไกลไม่ชัด สลับไปๆ มาๆ ปวดล้าเปลือกตา บางท่านปวดลามไปถึงศีรษะ ดังนั้นกลุ่มนี้จึงต้องให้ความสำคัญกับดวงตาอย่างมาก
—————
ช่องทางการติดต่อ Mattaya Vision Center
Tel : 099-463-6365 (สำหรับเช็คคิวทำนัดวัดสายตา)
Line : @mattayaclinic
Web : https://www.mattayaclinic.com/
