ใครที่กำลังเล็งคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นราคาแพงอยู่ ใจเย็น ๆ แล้วลองมาดูแหล่งความรู้ที่เราคัดสรรมาฝากกันก่อนตัดสินใจ เพราะบางทีเพื่อน ๆ อาจเก่งภาษาญี่ปุ่นขึ้นได้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเลยสักบาท 🤩

เดี๋ยวนี้การเข้าถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ เป็นเรื่องง่ายมาก ยิ่งพอเป็นทักษะทางด้านภาษา ยิ่งมีแหล่งเรียนรู้มากกว่าที่คิด มีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน หากเพื่อน ๆ สนใจอยากฝึกภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติม ก็สามารถเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปสถาบัน แถมยังฝีกฝนได้ครบทุกด้าน ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน หรือจะเลือกเฉพาะทักษะที่ต้องการก็ได้ แถมยังวางตารางการฝึกได้เองอย่างอิสระอีกด้วย

 ซึ่งหากใครคิดว่าข้อมูลตามเว็บไซต์เรียนภาษามักไม่เจาะลึกเพียงพอ เราก็ยังสามารถเรียนภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นแบบฟรี ๆ แล้วค่อยต่อยอดกับคอร์สออนไลน์ที่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเรทราคาจะถูกและคุ้มค่ากว่ามาก บางเว็บไซต์ให้เรียนแบบไม่อั้น แค่สมัครสมาชิกครั้งเดียวก็เรียนได้ทุกคอร์สที่เปิดสอน กรณีที่ต้องการใบรับรองก็มีหลายเว็บไซต์ที่ให้ Certificate หลังผ่านบททดสอบด้วย มาถึงตรงนี้ เราก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง

   1   

NHK World Japan

เชื่อว่านี่จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่สนใจเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะภายในเว็บมีเนื้อหาค่อนข้างครบถ้วน เมื่อกดเลือก
บทเรียนที่สนใจแล้ว จะพบกับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง ประโยคที่ใช้เป็นประจำกับสถานการณ์ต่างๆ หลักไวยากรณ์ คำอธิบายเพิ่มเติมจากครูสอนภาษา ตลอดจนคำที่เลียนเสียงธรรมชาติหรือท่าทาง ทุกบทมีไฟล์เสียงและภาพประกอบช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น เรียนเสร็จแล้วก็ยังมีแบบทดสอบคำศัพท์รออยู่ด้วย และส่วนที่น่าสนใจมากก็คือการตอบคำถามจากนักเรียนออนไลน์ที่ครูได้บรรยายเอาไว้อย่างละเอียดสุด

จุดเด่น

  • ครบถ้วนทั้งส่วนของบทสนทนาและหลักไวยากรณ์
  • สามารถดาวน์โหลดบทเรียนลงคอมพิวเตอร์ส่วนตัวเพื่อเรียนซ้ำ ๆ ได้
  • มีอาจารย์สอนภาษาหยิบยกประเด็นสำคัญมาอธิบายแบบลงลึกให้

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Link : NHK World Japan

   2   

LingoHut

เว็บนี้จะเน้นทักษะที่ต้องใช้ในการสนทนาเป็นหลัก รูปแบบการเรียนรู้ค่อนข้างเรียบง่าย และเลือกได้อย่างอิสระว่าสนใจ
จะเรียนเรื่องไหนก่อน ทุกบทจะมีวิธีเรียน 5 แบบเหมือนกันหมด ต่างกันแค่รายละเอียดของเนื้อหาเท่านั้น โดยจะแบ่งเป็นเกมบัตรคำ เกมจับคู่คำศัพท์ เกมส์ XO เกมส์ฝึกสมาธิ และเกมฝึกฟัง แต่ละเกมใช้เวลาไม่มาก แต่ช่วยให้จำศัพท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถฝึกภาษาในเวลาว่างช่วงสั้น ๆ ได้  ส่วนใครที่ต้องการเน้นเรื่องไวยากรณ์ เว็บนี้ถือว่าอาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นะ 

จุดเด่น

  • มีบทเรียน 125 บทให้เรียนฟรีแบบไม่มีเงื่อนไข
  • เน้นการจดจำศัพท์ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
  • มีไฟล์เสียงช่วยฝึกทักษะการฟัง

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Link : LingoHut

   3   

 I Love Japanese

แม้ว่าทางเว็บจะเปิดให้ทดลองเรียนภาษาญี่ปุ่นฟรีได้แค่ 3 วัน และยังจำกัดให้เข้าถึงเนื้อหาของแต่ละคอร์สได้แค่บางส่วน แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการตัดสินใจว่าจะเรียนต่อหรือไม่ ข้อดีคือเว็บนี้เหมาะกับผู้เรียนทุกระดับ มีคอร์สตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง หลังจากสมัครสมาชิกแล้วก็สามารถเรียนได้ทุกคอร์สที่สนใจ แต่ละหัวข้อจะแบ่งเป็นบทเรียนย่อยที่ใช้เวลาเรียนไม่นานนัก มาพร้อมเอกสารประกอบ และมีการระบุระดับภาษาเพื่อให้ผู้เรียนรู้ว่าตัวเองพัฒนาไปถึงจุดไหนแล้วด้วย

 จุดเด่น

  • มีใบ Certificate และ Transcript ให้ดาวน์โหลด
  • มีคอร์สให้เลือกเรียนมากถึง 70 คอร์ส
  • บทเรียนมีการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน จึงมั่นใจได้ในความสดใหม่ของเนื้อหา

ราคา : เรียนฟรีได้ 3 วัน และมีราคาสมาชิกตั้งแต่ 599 – 5999 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเป็นสมาชิก
LinkI Love Japanese

   4   

J-Campus

เนื้อหาภายในเว็บจะเน้นหนักไปที่ไวยากรณ์เป็นหลัก ซึ่งไม่ใช่การสอนไวยากรณ์แบบละเอียดยิบ แต่เป็นการสอดแทรกไปกับการเล่าเรื่องราวรอบตัว หรือการยกประเด็นที่คนสงสัยกันมากมาอธิบาย แม้แต่พาร์ทการฟังที่เปิดให้เรียนฟรี ก็ยังเสริมความเข้าใจเรื่องไวยากรณ์เข้าไปด้วย ข้อดีคือมีการสอนออกเสียงที่ถูกต้องในทุกตัวอักษร ซึ่งจะเป็นผลดีกับการอ่านศัพท์และต่อประโยค การสื่อสารก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น น่าเสียดายที่เนื้อหาไม่ได้เยอะมากนัก จึงเหมาะจะเป็นเว็บเสริมในการเรียนมากกว่า

 จุดเด่น

  • มีบทเรียนที่เน้นหนักไปทางไวยากรณ์ให้เรียนฟรีหลายร้อยบท
  • ผสมผสานการสอนภาษาญี่ปุ่นไปกับสาระน่ารู้และเรื่องเล่า
  • มีบทเพลงที่ใช้ไวยากรณ์ไม่ซับซ้อนให้ลองฝึกการฟัง

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Link : J-Campus

   5   

Kanshudo

สำหรับใครที่คิดจะพัฒนาภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง เว็บนี้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีมาก เพราะมีเนื้อหาครอบคลุมทุกทักษะ สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ศูนย์ไปจนถึงระดับ Advance สไตล์การเรียนรู้จะแบ่งเป็น 2 หมวดใหญ่ คือศึกษาจากบทเรียนโดยตรงและเรียนรู้ผ่านเกมต่าง ๆ โดยจะมีหน้าสรุปความคืบหน้ารวมถึงจุดแข็งจุดอ่อนของเราด้วย เพื่อให้เห็นภาพรวมแล้ววางแผนได้ว่าจะฝึกภาษาต่อในแนวทางไหน ตรงนี้เองที่ช่วยให้เกิดพัฒนาการแบบก้าวกระโดด และไม่ต้องเสียเวลาไปกับสิ่งที่เชี่ยวชาญเพียงพอแล้ว

 จุดเด่น

  • เนื้อหาครอบคลุมทุกด้านทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน
  • มีเกมและแบบทดสอบที่สามารถกำหนดระดับความยากง่ายได้เอง
  • มีการบันทึกข้อมูลพัฒนาการของผู้เรียนไว้ให้ด้วย

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องลงทะเบียน
Link : Kanshudo

   6   

Opendurian

อันที่จริงเว็บนี้เริ่มต้นด้วยการสอนภาษาอังกฤษ แล้วค่อยต่อยอดมาเป็นภาษาญี่ปุ่น ปัจจุบันจึงยังมีคอร์สให้เลือกไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับการฝึกภาษาเบื้องต้น และเหมาะกับผู้ที่กำลังเตรียมตัวสอบ JLPT N3 เนื้อหาทั้งหมดจะเป็นรูปแบบของวิดีโอสั้นซึ่งสอนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา มีไฟล์ PDF ทบทวนคำศัพท์ให้ มีการบ้านพร้อมเฉลย แล้วก็มีการสอดแทรกวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเลือกใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการเรียนที่เป็นสูตรเฉพาะของผู้สอนให้ด้วย

จุดเด่น

  • เป็นคอร์สที่สามารถกลับมาเรียนซ้ำได้ตลอด
  • มีกลุ่มสำหรับนักเรียนเพื่อทำการบ้านและทบทวนเนื้อหาร่วมกัน
  • สไตล์การสอนเข้าใจง่าย แต่ละบทใช้เวลาช่วงสั้น ๆ และยังมีเทคนิคช่วยจำให้ด้วย

ราคา : เริ่มต้น 2490 บาท
Link : Opendurian

   7   

Japanese101

เว็บเรียนภาษาญี่ปุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาบ้าง เพราะเนื้อหาทั้งหมดจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร หากเลือกเรียนฟรี แม้จะเข้าถึงเนื้อหาได้จำกัด แต่ก็ยังได้บทเรียนใหม่ทุกสัปดาห์และมีสรุปคำศัพท์แบบรายวันให้ กรณีที่อยากลงลึกจำเป็นจะต้องสมัครสมาชิกแบบมีค่าใช้จ่ายเพื่อให้เข้าถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ได้ จุดเด่นคือเนื้อหาละเอียดและครอบคลุมทุกอย่างเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น มีคำศัพท์ให้เยอะมาก แถมมีเทคนิคเชื่อมโยงคำศัพท์ให้ด้วย สามารถเรียนตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงระดับเชี่ยวชาญในภาษาญี่ปุ่นได้เลย

จุดเด่น

  • เน้นการเรียนผ่านวิดีโอที่เข้าใจได้รวดเร็ว
  • มีเครื่องมือที่ช่วยให้การฝึกภาษาญี่ปุ่นเป็นเรื่องง่าย และได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • สามารถเลือกเรียนแบบส่วนตัว 1 ต่อ 1 ได้ด้วย

ราคา : มีทั้งแบบเรียนฟรีและเสียค่าใช้จ่าย เริ่มต้นที่ประมาณ 135 บาทต่อเดือน
Link : Japanese101

   8   

Duolingo

ต้องบอกว่านี่เป็นเว็บเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ค่อนข้างสนุก ทุกบทเรียนที่ผ่านไปจะคล้ายกับการเก็บแต้มเพื่ออัพเลเวลในเกม
ซึ่งจะเริ่มต้นที่คำศัพท์ใหม่ และแทรกมันลงในประโยคสั้น ๆ ก่อนจะเพิ่มความซับซ้อนขึ้นทีละนิด ทำให้ผู้เรียนไม่รู้สึกว่ายากหรือเครียดเกินไป แถมยังเข้าใจไวยากรณ์ได้เองจากการเห็นรูปประโยคซ้ำ ๆ โดยไม่ต้องนั่งท่องไวยากรณ์เลย ในส่วนของข้อมูลส่วนตัวจะบันทึกไว้ว่าเราเรียนรู้อะไรไปบ้าง เคยพิชิตรางวัลอะไรได้ และปัจจุบันมีค่าประสบการณ์อยู่อันดับเท่าไร นอกจากนี้ยังมีการปรับบทเรียนพิเศษให้ เพื่อเสริมในจุดที่ผิดพลาดบ่อย ๆ ด้วย

จุดเด่น

  • เป็นการฝึกภาษาตามลำดับง่ายไปยาก โดยฝึกพร้อมกันทั้งฟัง พูด และอ่าน
  • การย้ำคำศัพท์หลาย ๆ ครั้งผ่านบทเรียน ทำให้จำศัพท์ได้เร็วและแม่นยำ
  • มีบทเรียนที่ออกแบบให้ผู้เรียนแบบเฉพาะเจาะจง

ราคา : มีทั้งแบบเรียนฟรีและเสียค่าใช้จ่าย เริ่มต้นประมาณ 80 บาทต่อเดือน แถมมีแพ็คเกจครอบครัวด้วย
Link : Duolingo

   9   

IRODORI

เนื้อหาทั้งหมดภายในเว็บจะอ้างอิงตามตำราภาษาญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “อิโรโดะริ” ซึ่งเน้นการใช้ภาษาสื่อสารในชีวิตประจำวันมากกว่าการท่องจำแค่ทฤษฎี โดยฝึกผ่านสถานการณ์จำลอง ภาพนิ่ง คลิปเสียง และวิดีโอสั้น มีการสรุปคำศัพท์สำคัญให้จดจำและอ่านตาม มีการย้ำจุดสังเกตของการใช้รูปประโยค และท้ายที่สุดก็เป็นการตรวจเช็คว่าเราเรียนได้เข้าใจจริงหรือไม่ เนื้อหาจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ A1 A2 และ A3 ที่น่าสนใจคือนอกจากจะเรียนตามแผนทั่วไปได้แล้ว ยังปรับแต่งแผนให้ตรงกับความต้องการแบบเฉพาะเจาะจงได้ด้วย

 จุดเด่น

  • เรียนภาษาญี่ปุ่นได้ทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันในมือถือ
  • ฝึกทักษะการพูดและฟังไปดับบทละคร
  • หลังผ่านบททดสอบสุดท้ายจะมีใบรับรองการจบหลักสูตรให้ด้วย

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Link : IRODORI

   10   

Sanshiro Journal

เดิมทีเว็บนี้เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนเรียนภาษาญี่ปุ่นภายใต้ชื่อ Hi Japanese ต่อมาจึงมีการเปลี่ยนชื่อพร้อมปรับเนื้อหาให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยจะมีลักษณะคล้ายบล็อกเล่าเรื่อง ที่ดึงเอาประเด็นน่าสนใจในช่วงเวลานั้นมาแตกให้เห็นคำศัพท์ สำนวน และรูปประโยคที่เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ใช่แค่เขียนเป็นบทความอย่างเดียว แต่มีส่วนที่เป็นไฟล์เสียงช่วยอธิบายด้วย จะนับว่าเป็นเสมือนหนังสืออ่านนอกเวลาก็ได้ แถมยังมีส่วนขยายความคำศัพท์และวลีจากหนังสือ Minna no Nihongo ให้อีกต่างหาก 

จุดเด่น

  • หยิบยกคำศัพท์และสำนวนมาจากเพลง ข่าว หรือเหตุการณ์ที่น่าสนใจ
  • อธิบายเนื้อหาในสไตล์พี่สอนน้อง หรือเพื่อนพูดคุยกัน จึงเข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายมาก
  • มีคำแนะนำที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Link : Sanshiro Journal

   11   

DSD Online Training

เว็บนี้เป็นการรวบรวมองค์ความรู้หลายแขนงไว้ด้วยกัน โดยเน้นที่การพัฒนาวิชาชีพเป็นหลัก และมีภาษาญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในหลักสูตรเหล่านั้นด้วย โดยผู้เรียนจะต้องเลือกคอร์สที่สนใจจากคำอธิบาย เช่น บทเรียนถามตอบในร้านอาหาร บทเรียนการบอกความต้องการพื้นฐาน เป็นต้น เมื่อเลือกได้แล้วให้ลงทะเบียนเข้าเรียน ด้านในจะเป็นวิดีโอสอนที่เข้าใจได้ง่าย มีการสรุปสาระและคำศัพท์สำคัญให้ ทั้งยังมีการบอกระดับของภาษาญี่ปุ่นในแต่ละบทให้ผู้เรียนได้รู้ด้วย

 จุดเด่น

  • เน้นการสื่อสารในชีวิตประจำวันแบบที่เรียนแล้วเอาไปใช้ได้ทันที
  • สื่อการสอนเป็นวิดีโอที่เข้าใจได้ง่าย และเรียนได้แบบไม่จำกัด
  • ระบุชัดเจนว่าแต่ละบทเรียนจะนำไปใช้งานอย่างไร

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Link : DSD Online Training

   12   

NHK News Web Easy

นี่คือเว็บรวมข่าวเด็ดข่าวดังจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งบรรยายด้วยภาษาญี่ปุ่นที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ตอบโจทย์ผู้เรียนที่กำลังมองหาหนังสือหรือบทความเพื่อเสริมทักษะการอ่าน ข้อดีคือเราสามารถเลือกหมวดหมู่ได้ตามความสนใจ และหากมีส่วนไหนไม่เข้าใจก็ใช้ฟังก์ชันแปลภาษาช่วยได้ทันที นอกจากจะเป็นการทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาแล้ว ยังได้เห็นรูปแบบประโยคที่ใช้งานกันจริง ๆ รวมถึงศัพท์เฉพาะทางที่มักไม่พบในตำราด้วย เพียงแค่เลือกอ่านวันละเรื่องก็จะค่อย ๆ พัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นให้ดีขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

 จุดเด่น

  • มีทั้งข่าวเด่นที่เกิดขึ้นรอบโลก และเนื้อหาพิเศษที่มีประเด็นน่าสนใจ
  • เนื้อข่าวใช้ภาษาญี่ปุ่นในระดับที่ไม่ยากเกินไป เหมาะสำหรับฝึกทักษะการอ่าน
  • การจัดหน้าจะแบ่งบทความเป็นย่อหน้าสั้น ๆ ช่วยให้อ่านง่าย

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Link NHK News Web Easy

   13   

JLPT Sample Questions

การสอบ JLPT คือการวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผู้ที่ฝึกภาษานี้ก็น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เว็บนี้เป็นช่องทางหนึ่งในการสมัครสอบ และมีบางส่วนของแนวทางข้อสอบให้ ซึ่งสามารถทำการทดสอบผ่านหน้าเว็บได้เลย โดยเนื้อหาจะแยกตามระดับเสมือนการสอบจริง ส่งคำตอบก็รู้ผลทันทีว่าถูกหรือผิด และหากต้องการฝึกฝนมากขึ้น ก็ยังมีส่วนของไฟล์แนวข้อสอบที่เป็น PDF ให้ดาวน์โหลดด้วย และที่ดีมาก ๆ ก็คือแนวข้อสอบจะมีครบทั้งพาร์ทไวยากรณ์ การอ่าน
และการฟัง

 จุดเด่น

  • มีตัวอย่างของบททดสอบ JLPT ให้ลองทำ
  • สามารถดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่างข้อสอบได้
  • หากต้องการสอบสามารถสมัครผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลย

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Link : JLPT Sample Questions

   14   

Ba Ba Dum

ใครว่าการเรียนภาษาญี่ปุ่นจะต้องเคร่งเครียดเสมอไป นี่คือเว็บเรียนภาษาผ่านการเล่นเกมที่ช่วยให้จดจำคำศัพท์พื้นฐานได้ง่ายและแม่นยำขึ้น โดยเราสามารถเลือกรูปแบบเกมได้หลากหลาย เช่น เกมเปิดบัตรคำ เกมสร้างคำศัพท์ตามภาพ เกมเลือกคำที่มีความหมายตรงกับภาพ เป็นต้น ผู้ที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นก็มีเกมช่วยจำตัวอักษรที่เป็นบัตรคำให้ด้วย ในส่วนของภาพและเสียงก็ทำได้ดีมาก ชนิดที่ว่านั่งเล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ และถ้าฝึกออกเสียงตามก็จะได้ประโยชน์เรื่องการปรับสำเนียงให้ถูกต้องด้วย

 จุดเด่น

  • มีเกมท่องศัพท์ให้เลือกหลายแบบ
  • คำศัพท์ทั้งหมดมีมากกว่า 1500 คำที่ถูกใช้งานบ่อย
  • มีเกมช่วยจดจำตัวอักษรสำหรับมือใหม่ด้วย

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
LinkBa Ba Dum

   15   

Japanese-Online.com

เป็นอีกเว็บเรียนภาษาญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับการฝึกพูดและเขียน เพราะภายในเว็บจะแบ่งเนื้อหาเป็น 3 หมวดใหญ่ให้เลือกเรียนได้ตามความสนใจ ตั้งแต่ความรู้ระดับพื้นฐาน หมวดการประยุกต์ใช้ภาษาญี่ปุ่นในสถานการณ์จำลอง ไปจนถึงโครงสร้างไวยากรณ์แบบเน้น ๆ ซึ่งในหมวดของไวยากรณ์ที่มีความซับซ้อนมากที่สุด จะถูกแบ่งแยกย่อยและจัดกลุ่มให้ผู้เรียนทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น มีการสรุปคำศัพท์และยกตัวอย่างประกอบด้วย
น่าเสียดายที่เนื้อหาอาจจะยังน้อยไปสักหน่อย

 จุดเด่น

  • เนื้อหาแบ่งเป็นระดับพื้นฐานและการประยุกต์ใช้งาน
  • แต่ละประเด็นมีคำอธิบายที่ค่อนข้างละเอียดและครบถ้วน
  • มีบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นให้ศึกษาด้วย

ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Link Japanese-Online.com