สำหรับทีมเรียนต่อสิงคโปร์ ปริญญาตรี ปริญญาโทหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นชินกับ SIM GE หรือ Singapore Institute of Management Global Education กันมาบ้าง เพราะเขาเป็นหนึ่งในสถาบันเอกชนที่มีความพร้อมครบครัน ไม่ว่าจะเรื่องของหลักสูตรที่มีมากมาย สถานที่เรียนที่รองรับอิสระได้อย่างทั่วถึง รวมถึงการได้ภาษาที่มากกว่าภาษาอังกฤษ และสถานที่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน บอกเลยว่ามาที่นี่คือจัดเต็มมาก ๆ เลย

ซึ่งวันนี้พวกเรา LifeSara ก็อยากพาเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้รู้จัก SIM GE มากพอ ได้ลองมาสัมผัสและรู้จักกับสถาบันแห่งนี้กันมากขึ้น เชื่อเลยว่าอาจทำให้หลาย ๆ คนเปลี่ยนใจอยากมาเรียนที่นี่เลยก็มี ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปติดตามกันเลย

ใครสนใจเรียนต่อ SIM Global Education ติดต่อที่นี่เลยยย

  1  

เหมาะกับคนที่อยากเรียนสายอาชีพในต่างประเทศ

SIM เป็นสถาบันตัวกลางสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อต่างประเทศ ในรูปแบบของอนุปริญญาหรือ หลักสูตร Pre-University ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งหลักสูตรทุกอย่างเขาก็ได้นำเข้ามาจากประเทศพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย การเรียนจึงมีคุณภาพมากๆ

อีกทั้งเมื่อเรียนจบพื้นฐานแล้ว ทาง SIM เขาก็มีมหาลัยพาร์ทเนอร์ตามประเทศต่าง ๆ เพื่อให้เราได้เลือกเรียนสาขาของมหาลัยนั้น ๆ ในการเรียนต่อปริญญาตรี และปริญญาโท ซึ่งเราสามารถเลือกเรียนในประเทศสิงคโปร์ โดยที่ไม่ต้องไปถึงมหาลัยต้นทางของหลักสูตรก็ได้ เรียกได้ว่าได้ความรู้ไม่ต่างกับมหาลัยจริง แถมยังได้บุคลากรจากมหาลัยนั้น ๆ มาสอนถึงที่สิงคโปร์ด้วย ทุกอย่างมันดีตรงที่ว่าเราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลถึงประเทศแถบยุโรป หรือแถบอเมริการเหนือให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเลยนั่นเอ

  2  

จบ ม.5 เรียนต่อสิงคโปร์ ปริญญาตรีที่ SIM GE ได้

การรับเข้าเรียนปริญญาที่ SIM จะมีอยู่ 2 ทางเลือก คือ 1. SIM Diploma และ 2. Direct Entry ซึ่งทั้งสองข้อเป็นการรับเข้าเรียนในรูปแบบปกติทั่วไป ซึ่งนอกจากสองทางแรกแล้ว ที่นี่จะมีตัวเลือกพิเศษอีกหนึ่งทางสำหรับน้อง ๆ ที่เรียนจบ ม.5 แต่ว่าไม่อยากเรียนต่อ ม.6 โดยเขาจะมีหลักสูตรที่ชื่อว่า SIM Foundation สำหรับคนที่ต้องการเรียนจบไว โดยจะใช้เวลาแค่ 6 เดือนในการเรียน พอเรียนจบปั๊บ ก็สามารถเข้าเรียนต่อที่ SIM Diploma ของ SIM GE ต่อได้เลย

เกณฑ์การสมัคร SIM Foundation

  • ม.5 เกรดต้อง GPA 2.6 ขึ้นไป / IELTS 5.5 หรือ Duolingo 90
  • ม.6 เกรดต้อง GPA 2.4 ขึ้นไป / IELTS 5.5 หรือ Duolingo 90 เป็นการเปิดโอกาสสำหรับนักเรียนที่เกรดไม่ดีด้วย
  • สำหรับคนทั่วไป หรือไม่ได้เรียน ม.5, ม.6 จะใช้คะแนนสอบ GED 480 total
  3  

โอนย้ายเพื่อไปเรียนต่อในหลาย ๆ ประเทศได้

อย่างที่บอกไปว่า SIM ได้มีพันธมิตรมหาลัยดัง ๆ กว่า 10 แห่งในฝั่งยุโรป ซึ่งข้อดีของการได้จับมือร่วมกันนี้จึงทำให้นักเรียนต่างชาติอย่างเราที่มีความต้องการอยากไปเรียนต่อในฝั่งต้นทางก็สามารถทำได้ เช่น ปัจจุบันเราเรียนที่ SIM GE แล้วเราเลือกเรียนหลักสูตรการตลาดของ University of Buffalo แล้ว หากเราอยากไปเรียนที่ University of Buffalo ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็คือทำเรื่องแจ้งโอนย้ายได้เลย แต่ทั้งนี้ก็ต้องทำตามเงื่อนไขของทางมหาลัย ซึ่งต้องดูอีกทีว่าเกรด และคะแนนต่าง ๆ ต้องใช้เกณฑ์อะไรบ้าง เพื่อที่จะได้ไปนั่นเอง

แต่สำหรับกรณีไปเรียนแลกเปลี่ยน ทาง SIM จะเปิดโอกาสก่อนช่วงจบการศึกษาให้นักศึกษาได้มีโอกาสไปทดลองเรียนระยะสั้นในประเทศพาร์ทเนอร์ได้แค่ 4-6 สัปดาห์ โดยเงื่อนไขก็ต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แต่บอกเลยว่าจุดนี้ดีมาก ๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้อีกกก

  4  

SIM สนับสนุนนักศึกษาต่างชาติมาก ๆ

SIM เป็นสถาบันเอกชนชั้นนำของประเทศสิงคโปร์ ที่เปิดมาแล้วกว่า 50 ปี มีเด็กต่างชาติเลือกมาเรียนกันเยอะมาก ราว 30% รวมกว่า 40 ประเทศ และจำนวนนักศึกษาต่อปีกว่า 16,000 คน ความน่าสนใจของ SIM นั่นก็คือ การได้นำหลักสูตรจากประเทศพาร์ทเนอร์รวมกว่า 120 หลักสูตร ยกมาสอนถึงที่สิงคโปร์ แบบไม่ต้องบินไกลถึงออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษ​ และทางฝั่งยุโรปอื่น ๆ โดยมีทั้งปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี

เหตุผลนี้เองจึงทำให้ SIM GE กลายเป็นสถาบันคุณภาพในประเทศสิงคโปร์ที่หลายคนเลือกเรียน เพราะเราจะได้รับโอกาสได้เรียนหลักสูตรเดียวกัน อาจารย์ผู้สอนคนเดียวกันมหาลัยต้นทาง (เขาบินมาสอนเลยน้า) ทั้งยังได้ศึกษาทักษะสำคัญ ๆ ที่นำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้จริงอีกด้วย

  5  

 SIM GE มีพันธมิตรกว่า 10 มหาลัยระดับโลก

SIM Global Education (SIM GE) เป็นมหาลัยที่มีพาร์ทเนอร์ดี ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย โดยประเทศทั้งหมดนี้ก็มีเครือมหาลัยท็อปฮิตอีกด้วย ซึ่งตรงนี้เพื่อนๆ สามารถเลือกเรียนหลักสูตรจากมหาลัยนั้น ๆ ได้ตามใจชอบเลย ไม่ว่าจะเป็น

ประเทศออสเตรเลีย

  • La Trobe University
  • Monash College
  • RMIT University
  • The University of Sydney
  • University of Wollongong

ประเทศฝรั่งเศส

  • Grenoble Ecole De Management

ประเทศอังกฤษ

  • The University of Manchester
  • The University of Warwick
  • University of Birmingham
  • University of London

ประเทศสกอตแลนด์

  • University of Stirling

ประเทศสหรัฐอเมริกา

  • University at Buffalo, The State University of New York
  6  

SIM ได้รับใบรับรองการประกันคุณภาพสูงสุด

มาตรฐานของ SIM นั้นไม่ธรรมดา เพราะที่นี่มีทั้งโครงการคุ้มครอง ฟรีประกันสุขภาพสำหรับนักเรียน และบริการช่วยเหลือนักเรียนในด้านอื่นๆ ผู้ปกครองที่ต้องการส่งบุตรหลานจึงวางใจได้เลยว่าลูกหลานเรานั้น จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

นอกจากด้านสุขภาพ ทาง SIM ก็ยังได้รับรางวัลว่าเป็นหนึ่งในศุนย์กลางสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุด และเป็นบริษัทชั้นนำที่ติดอันดับต้นๆ ใน 50 อันดับบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วในสิงคโปร์อีกด้วย และรางวัลล่าสุดที่ได้รับในเดือนสิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา นั่นก็คือ EduTrust Star ซึ่งเป็นใบรับรองการประกันคุณภาพสูงสุดสำหรับสถาบันการศึกษาเอกชนในสิงคโปร์!

โดยรางวัลนี้ เป็นรางวัลที่มอบให้กับสถาบันการศึกษาเอกชน (PEI) ที่บริหารจัดงานสถาบันของตนให้มีผลปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยม น่ายกย่อง และถือเป็นสถาบันที่มีคุณภาพด้านการศึกษาและสวัสดิการที่โดดเด่นให้แก่นักเรียน 

  7  

SIM มีทุนสำหรับนักศึกษาต่างชาติ สำหรับลดค่าเรียนให้ด้วย

อย่างที่เคยบอกไป SIM นับเป็นสถาบันที่สนับสนุนนักเรียนต่างชาติมาก ๆ จนถึงขนาดสร้างทุนสิงคโปร์ปริญญาตรี เพื่อมอบให้กับนักศึกษาดีเด่น ที่มีผลการเรียนดี และกิจกรรมเป็นเลิศ ซึ่งทุนก็จะช่วยลดค่าเล่าเรียนอีกด้วย โดยทุนคร่าว ๆ ก็มีประมาณนี้

  • SIM GE UNDERGRADUATE SCHOLARSHIP สำหรับนักศึกษาดีเด่น
  • SIM GE ACADEMIC EXCELLENCE SCHOLARSHIP (DIPLOMA) AND SIM GE MERIT SCHOLARSHIP (DIPLOMA) สำหรับมอบให้นักศึกษาอนุปริญญา
  8  

ทาง SIM มีคอร์สฝึกภาษาอังกฤษสำหรับเตรียมความพร้อม

สำหรับใครที่เกรดถึง แต่ภาษายังไม่ได้ ที่ SIM ก็เปิดโอกาสให้เรา ได้ลองไปเรียนคอร์สภาษาอังกฤษ ปรับพื้นฐานภาษากันก่อน เรียกได้ว่าที่นี่พร้อมหาทุกวิถีทางให้นักเรียนทุกคน พร้อมในทุกสถานการณ์เลย เพื่อให้เราได้มีเวลาเตรียมตัวสู่การเรียนการสอนแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

บอกเลยว่ามาเรียนที่นี่มีแต่ได้กับได้ โดยนักเรียนที่จะสมัครหลักสูตร Foundation หรือ Diploma ได้จะต้องมีคะแนนผ่านเกณฑ์ที่ Ielts 5.5 แต่หากไม่ผ่านก็จะได้เรียนคอร์สฝึกภาษา Certificate of English แทน โดยแบ่งระดับเป็น

  • หากได้ Ielts 4.5 จะต้องเรียนปรับภาษา 6 เดือน
  • หากได้ Ielts 5 จะต้องเรียน ปรับภาษา 3 เดือน