มีคนเคยบอกว่า “คนที่ประสบความสำเร็จทุกคน ย่อมผ่านความล้มเหลวมาแล้วนับไม่ถ้วน”
วันนี้พวกเรา LifeStory ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับผู้หญิงคนนึง ที่เป็นทั้ง Youtuber ผู้ติดตามถึง 1.5 ล้านคน และเป็นถึงเจ้าของบริษัท GoUni ที่ขยายกิจการไปแล้วกว่า 3 ประเทศทั่วโลก คนๆ นั้นไม่ใช่ใครที่ไหนไกล แต่เป็นคุณพีช พิชยา ชัยชนะ หรือที่เรารู้จักกันในนาม “พีชชี่ สตีเฟ่นโอปป้า” เจ้าของ Youtube ชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นจากช่อง PEACHII นั่นเอง
คุณคิดว่าผู้หญิงคนนึงที่ประสบความสำเร็จในระดับนี้อย่างเธอ เคยล้มเหลวมาบ้างรึเปล่า แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เธอก้าวข้ามความล้มเหลวเหล่านั้นมา จนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวการใช้ชีวิตของเธอให้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนนับแสนนับล้านได้อย่างทุกวันนี้
วันนี้พวกเรา Lifestory จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน…!
un-ordinary girl
ถ้าเราบอกว่าเด็กที่ได้เกรด 3.96 จบมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ จากอังกฤษ ดันเป็นคนที่ขี้ลืมและยังโดดเรียนพิเศษอีกด้วย คุณจะเชื่อมั้ย?
คุณพีชเติบโตมาเหมือนเด็กทั่วๆ ไป มีความสุขกับการดูหนังโลกเวทมนตร์อย่างแฮร์รี่พอตเตอร์ หรือการเขียนไดอารี่ (แม้ว่านิสัยการเขียนไดอารี่ของเธอจะเกิดจากการที่คุณแม่จ้างเขียนก็ตาม)
แต่สิ่งหนึ่งที่คุณพีชรู้ตัวมาตั้งแต่เด็กก็คือ ‘เธอเป็นคนขี้ลืม’ ยกตัวอย่างเช่น ในเวลาเรียน
“เราเป็นคนที่ขี้ลืมมาก คือเราสามารถออกจากคลาสแล้วก็ลืมทุกอย่างไปเลย” คุณพีชตอบพลางส่งสายตาประมาณว่า มันลืมแบบลืมจริงๆ นะ แต่คุณพีชกลับไม่ได้ปล่อยให้ความขี้ลืมของตัวเองมากระทบกับชีวิตส่วนตัว เธอกลับมองว่าเธอจะทำอะไรกับมันได้บ้าง สามารถแก้ปัญหา ทำอะไรได้มากกว่านี้อีกรึเปล่า
นี่จึงทำให้ในสมัยเด็ก เพื่อนๆ ต่างคิดว่าคุณพีชเป็นเด็กเนิร์ด เพราะเธอจะคอยนั่งอยู่หน้าห้องเรียนและจดแทบทุกคำที่คุณครูพูดอยู่ตลอด อีกทั้งเธอยังต้องคอยกลับมาทบทวนบทเรียนอีกครั้งเพราะกลัวว่าจะจำไม่ได้ จนเธอนี่เองที่เป็นฝ่ายนัดเพื่อนๆ มาติว และทำสรุปให้อีกด้วย
“คือพอเราสรุปให้เพื่อนบ่อย มันก็จะเริ่มเข้ามาอยู่ในหัวเราเอง” คุณพีชเสริม
สุดท้ายความพยายามก็ส่งผล คุณพีชจบจากชั้นมัธยมไปด้วยเกรด 3.96 (และยังสามารถแอบโดดเรียนพิเศษได้อีกด้วย)
“เราไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นคนฉลาด แต่เราเป็นคนขยัน และเราเป็นคนตั้งใจ ซึ่งพอเราตั้งใจอะไรมันก็ทำได้” คุณพีชทิ้งท้าย ซึ่งหลังจากจบจากโรงเรียน เธอได้เข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในคณะนิเทศศิลป์ ซึ่งเธอเลือกคณะนี้เพราะว่า “ศิลปะ” คือสิ่งที่เธอชอบและคิดว่าอยู่กับมันได้นานที่สุดนั่นเอง
“ตอนเด็ก เราชอบทำอะไรที่มันอาร์ตๆ เช่น วาดรูป แต่งฟิค เขียนหนังสือ อ่านหนังสือ เขียนบล็อก ทำเว็บ ซึ่งเหมือนกับเราอยู่กับมันได้นาน เราเลยเลือกคณะที่เกี่ยวกับศิลปะ” คุณพีชกล่าว
แต่หลังจากอยู่มาได้ 4 เดือนเธอก็พบว่า…เธอตัดสินใจผิด
เพราะศิลปะที่เธอชอบคือการออกแบบแนว Digital Art แต่คณะที่เธออยู่เรียกได้ว่าต้องวาดรูปด้วยมือทั้งหมด แทบไม่ได้แตะคอมเลย แถมยังต้องนอนดึกอีกต่างหาก
“ซึ่งถามว่าทำได้มั้ย ทำได้นะ เพราะตอนเราเข้าไป งานเราก็ได้ติดโชว์อยู่ตลอดเหมือนกัน เพราะอาจารย์จะชอบเอา Top Three ของคลาสมาแปะ” คุณพีชกล่าว
“แต่ถ้านี่คือไลฟ์สไตล์ของชีวิตในอีก 3 ปีข้างหน้า…ย้าย!” นี่เลยทำให้คุณพีชตัดสินใจย้ายไปคณะนิเทศศาสตร์แทน
ความผิดพลาดในตอนนั้นเกิดจากการที่เธอพลาดไม่ได้เช็กเนื้อหาคอร์สเรียน เธอจึงคิดว่าคณะนิเทศนั้น เรียนเหมือนกันหมด ทำให้เธอต้องเสียเวลาไป 1 ปีเต็ม
แต่สุดท้ายแล้ว คุณพีชก็เร่งตัวเอง จนสามารถเรียนจบคณะนิเทศศาสตร์ภายในระยะเวลาแค่ 3 ปี และตัดสินใจยื่นเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย Imperial College London ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับ Top 10 ของโลกได้สำเร็จ
แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ GoUni และช่อง Youtube PEACHII
Day 1
คงไม่มีใครเคยคิดว่า GoUni เอเจนซี่เรียนต่อต่างประเทศที่สามารถปิดดีลกับมหาวิทยาลัยพาร์ทเนอร์ได้หลากหลายที่ทั่วโลก จะมีจุดเริ่มต้นมาจากโปรเจกต์จบตอนเรียนมหาวิทยาลัย
จุดเริ่มต้นของ GoUni เกิดจากการที่คุณพีชได้คุยกับเพื่อนชาวจีน 2 คนในมหาลัย ซึ่งการคุยนี้ทำให้เธอได้รู้ว่าเธอโชคดีมากที่ไม่ได้เจอเรื่องอย่างที่คุยกัน
นั่นก็เพราะที่จีนในสมัยก่อนนั้น มีเด็กมากมายที่ถูกเอเจนซี่หลอกลวง ได้รับข้อมูลผิดๆ รวมไปถึงไม่ได้รับประสบการณ์การไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ดีอย่างที่เธอได้รับ
ไม่ว่าจะเป็นการหลอกเอาเงินมาเลย การหลอกว่าจะได้เข้ามหาวิทยาลัยตัวท็อปของอังกฤษ แต่ปรากฏว่าเป็นแค่มหาวิทยาลัยห้องแถว หรือ การที่เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำแบบไม่ใส่ใจ ไปเรียนแล้วไม่ตรงกับที่คาดหวังไว้
นี่จึงทำให้พี่พีชและเพื่อนๆ ชาวจีนของเธอ 2 คนตัดสินใจทำ Business Model โปรเจ็กต์จบเกี่ยวกับ Agency แลกเปลี่ยนเพื่อช่วยนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวจีนเหล่านี้ ซึ่งปรากฏว่าโปรเจกต์ของเธอได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัย นี่จึงทำให้ GoUni เริ่มต้นขึ้น
ในช่วงแรก เธอวางแผนการทำงานออกเป็น 2 ขั้นตอนได้แก่
- GoUni จะต้องเป็น Partner มหาวิทยาลัยดังๆ ทั่วอังกฤษเพื่อให้นักเรียนมีหลายๆ ตัวเลือกที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
- นักเรียนทุกคนจะต้องเข้าถึงข้อมูลของมหาวิทยาลัยอย่างครบถ้วน
ซึ่งหลังจากที่คุณพีชวางแผนเสร็จ เธอก็เริ่มวิ่งหา Partner กับมหาวิทยาลัยทันที
โดยในขั้นแรก ทางทีมก็จะคัดเลือกมหาวิทยาลัยก่อน โดยเลือกอิงจากที่เด็กๆ สนใจกันด้วย ทั้งประวัติดีด้วย หรือเป็นมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมในแต่ละเขตเมืองเป็นต้น ไม่ได้ติดต่อมหาวิทยาลัยไปซะทุกที่ เพราะเธออยากให้นักเรียนที่มาเรียนต่อต่างประเทศ ได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไปจริงๆ
ซึ่งในช่วงแรกที่เริ่มติดต่อก็มีปัญหาเยอะมาก หลายๆ มหาวิทยาลัยยังไม่อยากทำงานร่วมกับ GoUni เพราะเป็นเอเจนซี่ใหม่ ดูไม่น่าเชื่อถือ กว่าจะเริ่มสร้างชื่อเสียงในวงการได้คุณพีชและทีมก็ฝ่าฟันมาไม่น้อย
“อย่างตอนนั้นเราได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยเจ้าแรกๆ ให้ลองมานำเสนอโปรเจกต์ดู เราก็ใส่สูทขับไปที่มหาวิทยาลัยนั้นแต่เช้าเลย ปรากฏว่าพอถึงเวลานัด คนจากมหาวิทยาลัยดันไปอยู่ที่ออฟฟิศเราในลอนดอนซะงั้น” คุณพีชเล่าขำๆ ถึงความเงอะงะในการจะดีลพาร์ทเนอร์แต่ละเจ้า
ซึ่งคุณพีชเล่าว่าการทำธุรกิจในช่วงแรกนั้นเหนื่อยมาก
“จำได้ว่าช่วงแรกนั้นก็คือเป็นทุกอย่างจริงๆ ทั้งมาร์เก็ตติ้ง คอนซัลท์ แม่บ้าน” คุณพีชกล่าว
และเมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัว เริ่มมีมหาวิทยาลัยมาเป็น Partner แล้วจำนวนหนึ่ง เธอจึงเริ่มมองหาแผนที่จะโปรโมทตัว GoUni
จุดหนึ่งที่คุณพีชเห็นคือ สิ่งที่นักเรียนอยากรู้และสิ่งที่มหาวิทยาลัยอยากบอก มันไม่ได้สอดคล้องกัน เพราะนักเรียนก็ไม่ได้อยากเชื่อในทุกๆ เรื่องที่มหาวิทยาลัยโฆษณาออกมา คุณพีชจึงอยากที่จะลองนำเสนอมหาวิทยาลัยในรูปแบบใหม่ๆ ดูบ้าง ที่น่าจะตอบโจทย์สำหรับนักเรียนที่อยากมาแลกเปลี่ยนจริงๆ แทนที่จะลงโปรโมทบทความแบบเดิมๆ เพื่อให้ติด SEO
เธอจึงตัดสินใจเปิดช่อง YouTube ชื่อว่า “PEACHII”
“ตอนนั้น พอเราบอกขอเข้าไปถ่ายคลิปหน่อยค่ะ เขาก็จะ ห้ะ? จะมาถ่ายทำไม” เพราะตอนนั้น การทำ YouTube เป็นอะไรที่ใหม่มาก ยังไม่ค่อยมีใครเข้าใจกับสิ่งนี้ขนาดนั้น
คุณพีชมองว่า การทำคอนเทนต์วิดีโอจะช่วยให้คนเห็นภาพได้ดีที่สุด เพราะเราไม่ต้องไปตัดสินอะไรเลย ก็แค่ถ่ายและเล่าไปตามจริง คนที่เข้ามาดูก็จะคิดได้เองว่า เขาโอเคกับมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไหม
ซึ่งผลตอบรับที่ดีมากก็คงเป็นคำตอบที่พิสูจน์ให้คุณพีชได้เห็นแล้ว เพราะไหนจะมียอดผู้ติดตามพุ่งไปเป็นหมื่นๆ รวมไปถึงการที่เริ่มมีเด็กไทยส่งข้อความมาถามพี่พีชมากมายถึงวิธีการไปเรียนแลกเปลี่ยน จากจุดนี้เองที่ทำให้พี่พีชก็เริ่มขยับขยายตลาด จากชาวจีนมาสู่ชาวไทยในที่สุด
จากวั้นนั้นจนถึงวันนี้ GoUni ก็มี Partner กับสถาบันการศึกษากว่า 80 สถาบัน
และช่อง PEACHII ก็มีผู้ติดตามมากถึง 1.5 ล้านคน
GoUni
“พี่ครับ ผมรู้แค่ว่าผมอยากไปเรียนแลกเปลี่ยน แล้วผมต้องทำยังไงต่อครับ?”
เชื่อไหมว่า นี่คือคำถามที่พี่ๆ GoUni ได้รับสายมาจากเด็กหลายๆ คนที่ใฝ่ฝันอยากไปเรียนต่อ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง
บอกเลยว่าหากใครที่กำลังประสบปัญหาเดียวกันอยู่นี้ คือไม่ต้องกังวลใจไป เพราะว่าคุณพีชเอง ก็เป็นหนึ่งในคนที่ตอนแรกยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองเลยเช่นกัน เพราะฉะนั้น คุณพีชและทีมงานจึงได้มีชุดคำถามที่จะช่วยให้นักเรียนแต่ละคน รู้จักและหาความต้องการของตัวเองเจอจนได้นั่นเอง
โดยชุดคำถามทั้งหมดจะเริ่มตั้งแต่อยากเรียนแบบไหน เรียนภาษา เรียนมัธยม ปริญญาตรี หรือปริญญาโท สนใจคณะอะไร มีงบที่ตั้งไว้เท่าไหร่ ชอบไลฟ์สไตล์หรือชอบกิจกรรมแบบใด ต้องการจะไปเรียนช่วงไหน
หลังจากที่นักเรียนตอบคำถามคร่าวๆ ครบหมดแล้ว พี่ๆ GoUni ก็จะประเมินมหาวิทยาลัยและเมืองคร่าวๆ ที่ดีที่สุด เหมาะที่สุดที่เด็กคนนั้นน่าจะสนใจออกมา ก่อนจะส่งต่อไปให้ทีม Consult ที่จะคอยให้คำแนะนำในเชิงลึก ทั้งเรื่องคอร์สเรียนหรือการเตรียมตัวได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น
ซึ่งการให้คำปรึกษาแนะนำทั้งหมดนี้ ก็คือไม่ได้มีค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ทุกคนสามารถมาขอคำปรึกษาได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนไปจบที่ประเทศปลายทางได้แบบไม่เสียตังค์สักบาทเดียว
ไม่ใช่เพียงแค่การให้คำปรึกษาที่เจาะลึกและคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวนักเรียน แต่ทาง GoUni ยังมีแพลนตารางปฏิทินการเตรียมตัวสำหรับการไปเรียนแต่ละแบบ รวมไปถึงการจัด Workshop ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์อีกด้วย อย่างเช่น การเขียน SOP เป็นต้น
เรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่เริ่มตั้ง GoUni มาจนถึงวันนี้ ช่างดูสู้ชีวิตและเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน จนน่าสงสัยว่าคุณพีชเคยคิดเหนื่อยและยอมแพ้มาก่อนรึเปล่า
“เอาจริงๆ คือเคยนะ แต่พอเราได้อยู่ในจุดที่เห็นตั้งแต่วันที่เด็กคนนึงทำเอกสารหาย เด็กคนนึงกังวลหาเพื่อนไม่ได้ จนผ่านไปเด็กคนนั้นรับปริญญา เด็กอีกคนมีแฟนจนได้แต่งงาน
“ได้เห็นคนที่ burn out จากการทำงานที่ไทย แต่พอมาแลกเปลี่ยนแล้วเขาเหมือนได้รับชีวิตกลับคืนไป ได้เห็นเขาประสบความสำเร็จ ทั้งหมดนั้นความเหนื่อยเราคือหายไปเลย”
คุณพีชมองว่าการที่ GoUni ได้กลายเป็นส่วนนึงที่ทำให้ชีวิตของใครสักคนดีขึ้น ได้เห็นว่าเขาได้มุ่งไปตามเส้นทางที่ตนเองต้องการได้สำเร็จ นั่นก็คือรางวัลที่มีค่ามากพอแล้ว ที่จะทำให้ GoUni ยังคงดำเนินต่อไป
Key Takeaway
“คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนย่อมผ่านความล้มเหลวมาแล้วนับไม่ถ้วน”
“แล้วคุณพีชล่ะ เคยล้มเหลวบ้างมั้ย” พวกเราถาม
“อืมม…เป็นคำถามที่ดีมาก” คุณพีชตอบ
“คือเราเป็นคนไม่ยอม..พอเต็มที่แล้วมันไม่ได้ เราก็รู้สึกว่า…”
“เชี่ย…มันเต็มที่ได้มากกว่านี้อีกอะ” คุณพีชพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งและสุขุม
“เพราะงั้นพอเราเต็มที่แบบสุดๆ แล้วจริงๆ”
“จนมันได้”
เมื่อได้ฟังคำตอบของเธอและลองมองย้อนกลับไป หลายๆ อย่างต่างเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพยายามไม่น้อย เพียงแต่เธออาจจะไม่ได้เล่าทั้งหมดออกมาก็เท่านั้น
ตั้งแต่เรื่องการเรียน ที่กว่าจะได้เกรด 3.96 ก็ต้องใช้ระยะเวลา ความสม่ำเสมอในการจด อ่าน และทบทวนตลอดช่วงเวลาที่เรียน การเข้าไปในคณะที่ไม่ได้ชอบเสียทีเดียว แต่ก็ยังสามารถทำออกมาได้ดี ซึ่งการที่จะวาดรูปออกมาได้ดีนั้น ก็ต้องฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างสม่ำเสมอ
การติดมหาลัย Imperial College London ก็ต้องใช้ความพยายามในการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ เตรียมตัวสัมภาษณ์ เขียนจดหมายแนะนำตัวที่ต้องเจาะจงกับแต่ละมหาวิทยาลัย
การทำ GoUni ที่เป็นบริษัทน้องใหม่ แต่ต้องเข้าไปดีลกับมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ทั่วประเทศอังกฤษ ซึ่งก็ต้องใช้ความพยายามและระยะเวลาในการพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ
การเป็น Youtuber ก็ต้องคอยคิดคอนเทนต์ใหม่ๆ ทุกวัน อัดคลิป ตัดต่อคลิป และยังต้องคอยเช็กผลตอบรับของ Channel เพื่อนำมาพัฒนาอยู่เรื่อยๆ
ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่ต้องใช้ความพยายามทั้งสิ้น
ความสำเร็จทุกวันนี้ของคุณพีชเกิดจากการที่เธอเป็นนักทำ (Doer) และทุกครั้งที่เจอปัญหาเธอกลับไม่เลือกที่จะมองว่ามันเป็นอุปสรรค แต่กลับมองว่า เราจะต้องเต็มที่กับมันให้มากขึ้น เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองมากขึ้นเพื่อให้ก้าวข้ามปัญหานั้นไปให้ได้
“พอเราเต็มที่แล้วมันไม่ได้ เราก็รู้สึกว่ามันเต็มที่ได้มากกว่านี้อีก”
– พิชยา ชัยชนะ –