ปัจจุบันตลาด ‘แมคคานิคอล คีย์บอร์ด’ (Mechanical Keyboard) ทั่วโลก มีมูลค่าสูงถึง 2.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 และมีการคาดว่าปี 2574 จะสูงมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคนส่วนมากเริ่มหันมาลงทุนในอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงเพิ่มขึ้น

การหาคีย์บอร์ดที่มีความทนทาน คัสตอมได้ รวมถึงมอบสัมผัสในการพิมพ์ที่ดีขึ้นได้สักตัว กลายเป็นสิ่งที่หลายคนเลือกที่จะยอมจ่ายมากขึ้น

นอกจากนี้การใช้งานในปัจจุบัน คนเริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพข้อมือมากขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้คีย์บอร์ดที่ตอบโจทย์ได้ในส่วนนี้ก็ยิ่งอยู่ในตัวเลือกในการตัดสินใจแรกๆ เลย

ดังนั้นถ้าให้นึกถึง ‘Mechanical Keyboard’ ที่มาแรงจนสายเกมเมอร์หรืออาชีพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานหน้าคอม น่าจะมีคนคุ้นหน้าคุ้นตาแบรนด์ ‘คีย์ครอน (Keychron Thailand)’ กันบ้าง เพราะเขาเป็นแบรนด์คีย์บอร์ดแมคคานิคอลแบรนด์แรกที่บุกเบิกการทำงานในทุกอุปกรณ์

จนเขาได้รับฉายานามเลยว่า ‘ครบเครื่องจบทุกอย่างในตัว’ เหมือนกับรู้ว่าคนส่วนมากต้องการอะไร ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงขึ้นชื่อว่าเป็น คีย์บอร์ดที่มีชื่อเสียงระดับโลก จนได้รับความไว้วางใจจากรีวิวทั่วโลกเลย

Keychron Thailand คือใคร

Keychron เป็นแบรนด์ Mechanical Keyboard ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยคุณ Will Ye, Sven Zhu และ Nick Xu 

แน่นอนว่าทั้งสามคนมีความหลงใหลในวงการคีย์บอร์ด ซึ่งไอเดียการทำคีย์บอร์ดก็เริ่มมาจากการที่ชอบแป้นพิมพ์แบบ Macbook ของ Apple นั่นเอง

ต่อมาก็รู้สึกถึงปัญหาได้ว่า คีย์บอร์ด Macbook นั่นเป็นแผ่นวงจรร่วมกัน หากต้องซ่อมปุ่มใดปุ่มหนึ่ง อาจจะต้องซ่อมยกแผง รวมถึงตัวคีย์บอร์ดที่เป็นปุ่มยาง เป็นหนึ่งในประเภทที่มีความทนทานน้อย และเกิดอาการรวนได้ง่าย

นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่อยากสร้างคีย์บอร์ดแมคคานิคอลสักอันมาใช้งาน เพราะคีย์บอร์ดประเภทนี้จะมีกลไกเป็นปุ่มกด มีโครงสร้างสวิตช์แบบสปริง จึงสามารถรองรับการกดซ้ำๆ ได้มากกว่า รวมถึงมีความทนทานสูง แม่นยำ ไปจนถึงสามารถถอดปุ่มแยกทีละตัวได้อีกด้วย 

และสิ่งที่ตลาดนี้ยังไม่เคยทำนั่นก็คือ ดีไซน์ที่มินิมอล และสามารถเข้าถึงได้กับทุกอุปกรณ์ ตั้งแต่ Windowns, Android มาจนถึง Mac, IOS ที่นับเป็นครั้งแรกในตลาดแมคคานิคอลเลยก็ว่าได้ ถือกำเนิดเป็น “Keychron” ที่อยู่กับเรามาแล้วกว่า 7 ปี

ซึ่งกว่าจะมาระดับนี้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะเขาต้องไปหาเงินทุนที่ Kickstarter เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างชื่อเสียงที่มากขึ้น ซึ่งใครจะคิดล่ะว่า ไอเดีย คีย์บอร์ดของพวกเขาจะสามารถคว้าเงินระดมทุนกลับมาได้กว่า 10 ล้านบาท จากที่ตั้งเป้าไว้เพียง 350,000 บาท

ทำไมคีย์ครอนกล้าออกคีย์บอร์ดราคาห้าพันทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่แบรนด์เจ้าตลาด

ถ้าให้ว่ากันตามตรงคนส่วนมากมักจะชอบสินค้าที่ราคาสูงเพราะด้วยคุณภาพที่ดีกว่า อายุการใช้งานที่ดีกว่า รวมถึงประสบการณ์ในการใช้ที่ดีกว่า เลยทำให้พฤติกรรมคนส่วนใหญ่พร้อมยื่นแบงก์เทามอบให้กันแบบไม่คิด

สำหรับ Keychron Thailand เป็นแบรนด์ที่ขายสินค้าค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม เพราะถ้าเราเป็นคนทั่วๆ ไปก็อาจไม่รู้จัก หรือมองว่า ทำไมคีย์บอร์ดยี่ห้อนี้ถึงราคาแรงล่ะ หากแบรนด์อยากเปลี่ยนมุมมองนี้การที่ต้องทำให้ลูกค้าเห็น Value ที่แท้จริง

จึงต้องสร้างกลยุทธ์ที่ทำให้คีย์ครอนเป็นที่รู้จักอย่างมาก เพราะในเวลานั้นแบรนด์เจ้าตลาดก็มีเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Razer, Logitech, Ducky เป็นต้น

ดังนั้นแมคคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สาย ที่นอกจากตัวเครื่องจะสามารถรับได้ทุกอุปกรณ์ กลยุทธ์ ‘การปรับแต่งได้เอง’ ก็เป็นไอเดียที่ทำให้ลูกค้าถูกใจอย่างมาก เพราะเขาคิดมาแล้วว่า ผู้ใช้งานนอกจากจะได้ประโยชน์ แล้วยังสามารถออกแบบแป้นพิมพ์ได้เองตามความชื่นชอบ โดยคุณสมบัติหลักๆ ของตัวคีย์บอร์ดจะมีดังนี้ ‘คุณภาพ ราคา และอรรถรสในการใช้งาน’

คุณสมบัติของคีย์บอร์ด Keychron

การปรับแต่งคีย์บอร์ดได้เอง

  • การถอดเปลี่ยนปุ่มได้ 3 แบบ โดยสวิตช์แต่ละแบบก็จะให้เสียงหรือสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป หลักๆแล้วสวิตช์จะมีสัมผัสอยู่ 3 แบบ อาทิ
    • Linear Switch ที่เหมาะกับสายทำงานกดเบาๆ เงียบๆ
    • Clicky Switch เหมาะกับคนที่ชอบกดดังแบบสะใจ
    • Tactile Switch เสียงเบาแต่กดสองจังหวะก็มันส์ได้อยู่
  • การปรับเปลี่ยนแสงไฟ RGB ที่ให้ลูกเล่น สามารถเลือกได้ถึง 18 แบบ กดเลือกได้ตามใจ
  • ตัวดีไซน์ Keycap ที่ใช้วัสดุคงทนมากเพราะปัจจุบันได้มีการผลิตด้วย PBT ที่นอกจากจะให้ความแข็งแรง ยังป้องกันไม่ให้สีลอก ไม่ขึ้นเงาอีกด้วย

ฟังก์ชันการรองรับที่ตอบโจทย์ทุกอุปกรณ์

  • ตัวเครื่องที่สามารถรองรับ Mac/Windows
  • สามารถเชื่อมได้ทุกอุปกรณ์ผ่านทางบลูทูธ สูงสุด 3 เครื่องพร้อมกันได้ และเปลี่ยนเครื่องได้เพียงกดตัวเลข 1, 2, 3

ของที่แถมมาให้

  • ในกล่องที่ให้มามีทั้ง ตัวถอดปุ่ม, ปุ่ม คีย์แคปสำรอง อย่างตัว Windows Layout ที่แนบมาให้สำหรับคนที่ไม่ถนัดทำงานแบบ Mac 

ขนาดที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างหลากหลาย

  • คีย์ครอนหลักๆ จะมี Layout ให้เลือกหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า ตั้งแต่ Layout 60% ไปจนถึง Full size และอื่นๆ อีกมากมาย
  • ตัวคีย์บอร์ดจะมีหลากหลายรุ่นมากๆ แต่ว่ารุ่นหลักๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมจะมีทั้งหมด 3 รุ่น อาทิ

    • K4Pro : คีย์บอร์ดคัสตอม 96% เป็นซีรี่ย์หลัก ไร้สาย เสียงดี ไม่ต้องลูปสวิตช์เอง ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ แถมยังปรับแต่งแสงไฟได้มากกว่า 22 แบบ  และถือว่าเป็นคีย์บอร์ดไร้สายรุ่นแรกๆที่สามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดผ่านทาง QMK/VIA ได้ ช่วยให้การตั้งค่าทำได้อย่างหลากหลายมากขึ้น

    • V5Max : คีย์บอร์ด Gasket Mount Design ให้สัมผัสที่ยืดหยุ่น เพิ่มความสนุกให้การพิมพ์ ให้สัมผัสที่ดี และ ยังสามารถเชื่อมต่อแบบ wifi 2.4ghz wireless dongle ที่เพิ่มมาใน Max Series แถมตัว คีย์แคป ไม่ขึ้นเงา, ไม่หลุดลอก พร้อมฟอนต์ Keychron ออกแบบโดยคัดสรรดีมาก ผู้ออกแบบ Fonts Sukhumvit รวมถึงออกแบบฟอนท์ให้กับบริษัทชั้นนำมากมาย ในราคาต่ำกว่า 5,000 บาท

    • Q1Max : ให้สัมผัสการพิมพ์ที่นุ่ม เสียงเงียบขึ้นด้วย Acoustic Foam วัสดุคีย์บอร์ดที่ทำมาจาก CNC Aluminium คงทน และ Double-Gasket Design ให้สัมผัสที่ยืดหยุ่น พิมพ์สนุก และให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมทุกการสัมผัส

มีคีย์บอร์ดก็ต้องมีเมาส์ที่อยู่คู่กัน
คีย์ครอนไม่ได้มีแต่สินค้าแมคคานิคอลคีย์บอร์ดเท่านั้น แต่ยังมีเมาส์ที่ให้สัมผัสที่เพิ่มอรรถรสการใช้งาน ซึ่งยิ่งใช้คู่กันยิ่งดี

  • M3 : Kailh GM 8.0 micro switch ให้การคลิกที่สมูธขึ้น ความไวทะลุจอ DPI สูงสุด 26,000 แม่นยำทุกคลิก (Wireless mouse สายเกมมิ่ง จากทาง Keychron ที่ให้ Sensor ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความแม่นยำ (Pixart 3395)
  • M4 : เมาส์ไร้สายที่ ‘เบาที่สุด’ น้ำหนักเพียง 35 g เป็น ขนาดเล็กพิเศษ ให้ความไว เป็นการออกแบบให้เหมาะกับการจับเมาส์แบบ Finger Tip Grip โดยเฉพาะ 
  • M6 :  ดีไซน์ที่มีความ Ergonomic ที่ออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับการทำงาน เหมาะกับการใช้งานในทุกสถานการณ์ ทนทาน และยังคลิกได้มากกว่า 20 ล้านคลิก มากกว่าเมาส์ ทั่วไป 6 เท่า เรียกได้ว่านอกจากจะขนาดพอดี เบา ยังเหมาะกับการทำงานในทุกวัน รวมถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ออกแบบมายังช่วยให้การทำงานเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

สรุปว่า Keychron น่าซื้อมั้ย?

จะเห็นว่า Keychron เข้าใจดีที่สุดว่าคนใช้คีย์บอร์ดต้องการอะไร จึงทำให้กลายเป็นแบรนด์ที่ถูกบอกปากต่อปากอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากคนใช้งานจริง รวมถึงการตีตลาดที่มาถูกทางว่าควรใช้อินฟลูเอนเซอร์คนไหนบ้าง อย่าง 9arm, iMod, golfwashere, Spin, BoomTharis เป็นต้น

เพราะแบบนี้เลยยิ่งทำให้แบรนด์นี้เข้าถึงง่ายแม้จะราคาสูง แต่พอ อยู่ในมืออินฟลูเอนเซอร์ ก็ทำให้มองว่าเป็นคีย์บอร์ดที่คุ้มราคาจริงๆ ถ้าเทียบกับในหลายๆ ตลาด ไม่แปลกเลยว่าจะทำให้อยู่ในใจของผู้บริโภคจนถึงปัจจุบัน ทั้งในเรื่อง  ‘คุณภาพ ราคา และอรรถรสในการใช้งาน’

จากเคสคีย์ครอน ทำให้รู้เลยว่าการหาสินค้าที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเอง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยจุดไอเดียในการสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้เช่นกัน ก็เหมือนกับการสร้างธุรกิจสักอย่าง หลายครั้งก็ต้องเริ่มจากเล็งเห็นปัญหาและรู้สึกว่าอยากนำมาพัฒนาให้ถูกจุดบ้าง

ซึ่งจะเป็นยังไงต่อก็ต้องเริ่มจากการลงมือทำและกล้าที่จะเสี่ยงเช่นกัน แล้วเพื่อนๆ เคยใช้สินค้าไหนแล้วรู้สึกว่ามีแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจขึ้นบ้าง มาแชร์มุมมองกันได้เลยยย 

Ref : https://keychronthailand.com/pages/about-us
: https://www.kickstarter.com/projects/keytron/keychron-k14-an-innovative-70-wireless-mechanical-keyboard 
: https://www.coherentmarketinsights.com/market-insight/mechanical-keyboard-market-1888