- ทาง World Economic Forum (WEF) ประกาศว่ามากกว่า 50% ของประชากรโลก จะถูกบังคับให้ต้องมีการ Reskill ภายในปี 2025
- ตำแหน่งงานกว่า 85 ล้านตำแหน่งจะหายไป และถูกแทนที่ด้วย ตำแหน่งใหม่ 97 ล้านตำแหน่ง
- สายงานที่ต้องการบุคลากรที่มี Digital Skill จะเพิ่มขึ้น 12% จากผลสำรวจของ การวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการก้าวหน้าทางหน้าที่การงาน
- หลายๆ องค์กรใช้วิธี จ้างพนักงานที่มีสกิลทางดิจิทัลอยู่แล้ว เพื่อความรวดเร็วในการปรับตัวขององค์กร
__________________________________________
บริษัทจะมองหาบุคลากรที่สามารถ Reskill และ Upskill ได้ โดยที่สิ่งนี้จะเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติของการทำงาน และหากเราไม่เตรียมตัวเองให้พร้อมกับเปลี่ยนแปลงนี้ เราอาจจะตกขบวนรถไฟที่เปลี่ยนแปลงไปเร็วมากๆ ขบวนนี้อย่างแน่นอน แล้วสกิลอะไรล่ะที่เราจำเป็นต้องมี?
ด้วยความที่หลายๆ ธุรกิจ มีการปรับใช้ข้อมูลทางสถิติ เพื่อช่วยให้เข้าใจลูกค้า และออกแบบหรือพัฒนาต่อยอดให้ตัวสินค้าหรือบริการ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น คนที่มีสกิลนี้จึงเป็นที่ต้องการตัวขององค์กรที่เริ่มมีการเก็บข้อมูลและนำข้อมูลมาใช้ร่วมกับธุรกิจ ตำแหน่งอาชีพที่เกี่ยวข้องที่ต้องการสกิลนี้ก็จะมี
สกิลนี้แทบจะขึ้นแท่นเป็นที่ต้องการตลอดเวลาของบริษัทในยุคนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ ต้องสื่อสารการตลาดไปจนถึงการปิดการขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อาชีพที่เกี่ยวข้องสำหรับสกิลนี้ก็มี อาทิ
สำหรับอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มาแรงไม่แพ้อาชีพไหน การที่เราเคยเข้าเว็บไซต์ดีๆ ได้สัมผัสกับแอปพลิเคชันสวยๆ ก็เป็นฝีมือ และการวางแผนของ UX เพื่อทำให้สะดวกต่อการใช้งานของผู้คนมากที่สุด และยิ่งในช่วงที่หลายๆ บริษัทเริ่มมีเว็บไซต์ หรือ platform เป็นของตัวเอง ทำให้สกิลนี้เป็นที่ต้องการของตลาดมาก โดยสกิลที่จำเป็นมากๆ ต่ออาชีพนี้ ได้แก่
- จุดเด่นของ TDA คืออะไร? ทำไมต้อง TDA?
- พาสำรวจคอร์สเรียนของ TDA ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
- เรียนจบหลักสูตรของที่นี่ไปแล้ว จะสามารถหางานได้จริงๆ เหรอ?
- พาส่องคอร์สใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเร็วๆ นี้
1
จุดเด่นของ TDA คืออะไร? ทำไมต้อง TDA?
TDA เป็นสถาบันที่เต็มไปด้วยคอร์สเรียนพัฒนาตัวเอง ที่ได้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเน้น Reskill, Upskill ในการเรียนรู้ Digital Skills เพื่อนำไปใช้ได้จริงกับชีวิตการทำงานของตัวเอง
โดยอย่างแรกที่ TDA ให้ความสำคัญคือต้องการปูพื้นฐาน หรือก็คือให้ผู้เรียนทุกคนได้ลอง Pre-work (E-Learning Introduction) หรือก็คือการเรียนคร่าวๆ ทำแบบทดสอบก่อนวันเข้าเรียนจริง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยทำให้ผู้เรียนได้เข้าใจภาพรวมเนื้อหาก่อนเข้าห้องเรียน
พอถึงวันที่เรียนจริง ก็สามารถสอบถามเนื้อหาที่ไม่เข้าใจกับอาจารย์ได้เลย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน และช่วยให้เราเข้าใจได้ไวขึ้น
จุดเด่นของคอร์สเรียน TDA
– เป็นหลักสูตรจากที่ได้รับการยอมรับจากระดับสากล
– ทุกคอร์สเรียน จะมีครูผู้สอนที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ คอย Recheck ความเข้าใจของเราก่อนเริ่มเรียน
– TDA จะมีเน้นศึกษาข้อมูลมาจาก Case Study ของแบรนด์ใหญ่ๆ ไปด้วย ซึ่งคนที่เรียนจะได้ฝึกการนำ Framework ที่ได้เรียนในคลาสไปประยุกต์ใช้กับเคสทางธุรกิจจริงๆ เลย เพื่อให้เข้าใจถึงการนำไปใช้ในโลกธุรกิจจริง
– เป็นคอร์สเรียนที่เก็บทุกรายละเอียด และสอนการใช้เครื่องมือต่างๆ แบบ Step by step เลย ใครที่ยังไม่เคยใช้ Program หรือ Platform ไหน ก็จะได้ลองใช้ ลองทำจริงไปด้วย ในระหว่างที่เรียน ต้องใช้สถานการณ์ไหน ถึงจะเหมาะสมกับธุรกิจ
2
พาสำรวจคอร์สเรียนของ TDA ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
หัวข้อคอร์สเรียนจะเน้น เจาะไปที่ Digital Skill ที่เป็นพื้นฐานสำคัญหลักๆ ที่ช่วยในการต่อยอดกับเทรนด์ธุรกิจโลก ยกตัวอย่างเช่น
– Product Management : แนวทางในการบริหารจัดการ และ Framework ในการทำงานที่ช่วยให้รูปแบบการทำงานเกิด Productivity มากที่สุด
– Data Analytics : Foundation การวิเคราะห์ข้อมูล และเครื่องมือที่ช่วย Support ในการ analyse data
– Digital Marketing : รวม Framework ที่ใช้ในการออกแบบ Marketing Funnel รวมไปถึงเครื่องมือที่ใช้ในการทำ Digital marketing บน Platform ต่างๆ
– UX & Design : เน้นไปทางการออกแบบ UX และ UI
– Software Engineering : รวมเรื่องการเขียน Code เขียน Program Python หรือ JavaScript
โดยรูปแบบของคอร์สเรียนที่นี่จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
Workshop : จะเป็นคอร์สที่เน้นวิธีคิด กระบวนการ เครื่องมือ และการลงมือทำจริง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตัวคอร์สจะมีขึ้นต้นว่า…
– Playbook เน้นแนะนำ Process/ Methodology/ Technique
– DIY เน้นสอนเกี่ยวกับ Tools/ Application/ System
– Canvas เน้นการทำ Framework หรือ Blueprint
ซึ่งคอร์สประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานมีเวลาน้อย และต้องการเข้าใจภาพรวมแบบกระชับ ครบ จบ เรื่องนั้นๆ ในวันเดียวและอยากลองมาเรียนดูว่าสกิลนี้เหมาะกับตัวเองหรือเปล่า
**โดยระยะเวลาของคอร์สจะไม่เกิน 1 วัน และจะเรียนที่สถาบันเท่านั้น
Part-Time Course : จะเป็นคอร์สเรียนที่ Campus โดยระยะเวลาของคอร์สจะอยู่ที่ 40 – 60 ชั่วโมง
ซึ่งบางคอร์สที่เปิดจะมี requirement ว่าจะต้องมีพื้นฐานหรือสกิลบางอย่างในการเรียนคอร์สนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น คอร์ส Data Analytics จะต้องเป็นคนที่มีพื้นฐาน Excel มาก่อนถึงจะเรียนได้
Immersive course : เป็นคอร์สระยะยาว เรียนที่สถาบัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างทักษะขึ้นมาใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน
* จุดเด่นของคอร์สนี้คือการเรียนเป็นเดือนๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นคอร์สที่มี Project ส่วนตัวให้ทำควบคู่ไปกับการเรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้งานเครื่องมือต่างๆ กับเคสจริงๆ และมี Outcome Program ที่จะช่วยให้ผู้เรียนเตรียมความพร้อมในการสมัครงาน
และที่พิเศษอีกอย่างเลย คือผู้ที่เรียนจบหลักสูตร TDA X GA จะได้ใบเซอร์จาก True Digital Academy x General Assembly มาประดับ Portfolio ด้วยนะ! เรียกได้ว่านอกจากจะได้ความรู้กลับไปต่อยอด ยังมีหลักฐานด้วยว่าเราฝึกอบรมมาแล้วจริงๆ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเรียนกับหลักสูตรที่เกี่ยวข้องเท่านั้นนะ!
3
เรียนจบหลักสูตรของที่นี่ไปแล้ว จะสามารถหางานได้จริงๆ เหรอ?
สิ่งนี้น่าจะเป็นคำถามในใจของเพื่อนๆ ที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ ต้องบอกเลยว่า ด้วยความที่ตัวหลักสูตรของ TDA เป็นหลักสูตรที่ได้ลิขสิทธิ์ตรงจาก GA ที่เป็นผู้นำด้านการศึกษาจากสถาบันชั้นนำด้านการพัฒนาทักษะดิจิทัล ที่หลายบริษัทระดับโลกให้การยอมรับ และคนต่างชาติหลายๆ คนก็เรียนคอร์สเรียนจากสถาบันนี้เพื่อทำให้ Resume ของตัวเองน่าดึงดูดมากขึ้น
ปัจจุบัน TDA จึงมีพาร์ทเนอร์จากบริษัทดีๆ มากมาย และได้พัฒนามาเป็นคอร์สเรียน โดยเฉพาะกับคอร์ส Immersive ที่มีพาร์ทเนอร์ร่วมกับบริษัทชั้นนำต่างๆ ในไทย ซึ่งเป็นอีกความน่าสนใจที่ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสได้ทุนเรียน และมีสิทธิ์ผ่านเกณฑ์เข้าทำงานสูงมากขึ้น อย่างโครงการที่ผ่านมาไม่นานของทางทรู ที่ได้มอบทุนคอร์ส Immersive เต็มจำนวน พร้อมจบแล้วก็รับเข้าทำงานทันที ในโครงการนี้มีผู้ที่ได้ทุนและได้งานทันทีกว่า 99% เลยทีเดียว
นี่เลยเป็นอีกเหตุผลที่ว่าเรียนจบหลักสูตรที่นี่ไปแล้ว สามารถหางานด้วยใบเซอร์ได้จริงนั่นเอง แต่ทั้งนี้อาจจะต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถของแต่ละคนด้วย
4
พาส่องคอร์สใหม่ๆ ที่เข้ามาตามเทรนด์ของโลก
แน่นอนว่า TDA ไม่เคยที่จะหยุดนำเข้าคอร์สใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งคอร์สดีๆ ที่ครบจบภายใน 1 วัน และน่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะมีประมาณนี้เลย
– คอร์ส Canvas | Digital Transformation
Digital Transformation Canvas เป็นคอร์สที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอัปทักษะด้าน Digital Transformation เพื่อเพิ่มสกิลการเป็นผู้นำ ผู้บริหารองค์กร รวมถึงผู้ประกอบการต่างๆ
โดยจุดเด่นของคอร์สนี้สร้างมาเพื่อให้ทุกๆ คนได้รับมือ เตรียมความพร้อมต่อการทำ Digital Transformation ได้อย่างรอบด้าน ผ่านการวางแผนบน Digital Transformation Canvas เพื่อทำให้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับการทำ Digital Transformation ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะเรียนที่สถาบัน เป็นระยะเวลา 1 วัน โดยใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมง
– คอร์ส Drive Better Business Decisions with Data
เป็นการเรียนวิธีทางการตลาดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ เป็นเหมือนกับกุญแจสำคัญของนักการตลาดที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปในทิศทางที่มีโอกาสสูงสุด
– คอร์ส Figma
เป็นเครื่องมือในการออกแบบ UX/UI ที่ใช้ในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โลโก้ และอื่น ๆ เพื่อใช้ให้สะดวกมากขึ้น ผ่านการใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ
– คอร์ส UX Writing
เป็นการเขียนเพื่อสื่อสารกับผู้ใช้ผ่านการการออกแบบ อย่าง Application และ Website
– คอร์ส Power BI
เป็นการเรียนรู้เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ สรุปผลข้อมูลจำนวนไม่จำกัด จากหลาย ๆ แหล่งข้อมูล อาทิ Excel File, Microsoft Access Database เป็นต้น
ซึ่งแต่ละคอร์สนั้น เหมาะสำหรับนักการตลาด นักธุรกิจ นักออกแบบ และนักพัฒนามากๆ บอกเลยว่าคอร์สเหล่านี้ถูกใจใครหลายคนที่อยากพัฒนาสกิลตนเองให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนไปมากขึ้นได้แน่นอน
หากใครสนใจเรียนคอร์สหรือต้องการติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่นี่เลยน้า
5
มาอัปสกิลตัวเองให้ทันโลกที่เปลี่ยนไปกับ TDA กัน!
สุดท้ายแล้วเทรนด์ในอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะเลี่ยงได้ และเราไม่มีทางรู้เลยว่า จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหนยังไงในภายภาคหน้า เช่นเดียวกับคนที่ไม่อาจหยุดพัฒนาตัวเองได้
ดังนั้นการปรับตัวจึงต้องเกิดขึ้นตลอดเวลา เพื่ออัปสกิลตัวเองให้ทันโลกที่เปลี่ยนไป และ TDA จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการพัฒนาต่อยอดทักษะของตัวเองได้ในระยะยาวนั่นเอง