1
Tiktok Shop
สำหรับแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะไปขายที่ไหนดี แนะนำให้ลองขายที่ Tiktok Shop เลย เพราะนี่คือแพลตฟอร์มที่มียอดการใช้งานสูงมาก อีกทั้งยังมีอัลกอริทึมที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของเราเป็นที่รู้จักได้ง่าย แค่เราลงคลิปเกี่ยวกับสินค้าภายในร้าน อาจจะเป็นการรีวิวการใช้ การแนะนำสินค้า พร้อมกับแปะตะกร้าเหลืองเพื่อให้คนกดซื้อสินค้า เราก็สามารถสร้างยอดขายได้แล้ว
Highlight
– ยอดผู้ใช้งานสูงมากและมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ
– AI จะแสดงคลิปแบบสุ่มตามความชอบให้ผู้ใช้งาน ทำให้เรามีโอกาสสร้างตัวตนของร้านได้ง่ายกว่า
– ถ้าคลิปแมส รับรองว่ายอดขายปังแน่นอน
– ทำคอนเทนต์ได้หลากหลาย ทั้งคลิปสั้นและไลฟ์สด
2
My Shop
เว็บขายของออนไลน์จาก Line ที่เกิดมาเพื่อซัพพอร์ตแม่ค้าออนไลน์อย่างเราโดยแท้จริง! เพราะ My Shop เปิดให้ตั้งแผงขายของได้แบบไม่เสียค่า GP (Gross Profit : ค่าบริการระบบ) พร้อมฟีเจอร์จัดการหลังบ้านแบบครบครัน ทำให้เพิ่มโอกาสการปิดการขายได้เพิ่มขึ้น และยังสามารถเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้ด้วยนะ!
Highlight
– ฟีเจอร์ช่วยปิดการขายเยอะมาก เช่น สามารถออกออเดอร์และรับชำระเงินได้ทันที ฟีเจอร์คูปองส่วนลด
ได้โอกาสในการโปรโมตบน LINE SHOPPING
– ไม่ต้องดาวน์โหลดแอพขายของออนไลน์เพิ่ม แค่ใช้บัญชี Line Official Account
– สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้ง่ายและเป็นระเบียบ
3
Amazon
ใครที่อยากขยายตลาดขายสินค้าให้กับคนทั่วโลก แนะนำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ยอดฮิตอย่างอเมซอน เพราะที่นี่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก อีกทั้งยังมีมาตรการตรวจสอบเข้มงวด ทำให้เป็นเว็บไซต์ E-Commerce ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ทำงานเป็นระบบ เหมาะกับคนที่อยากตีตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากบน Amazon
Highlight
– สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมากได้ง่าย
– ขายสินค้าได้หลากหลายประเภท
ระบบขนส่งที่ดี รวดเร็ว ไปได้ทั่วโลก
4
WeLoveShopping
เว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ครองใจผู้ใช้งานกว่า 8 แสนคน ยาวนานกว่า 10 ปี เปิดให้ขายออนไลน์หลากหลายประเภท สำหรับใครที่อยากหารายได้เสริม โดยการลงขายสินค้าหลาย ๆ ช่องทาง แพลตฟอร์มนี้ถือว่าตอบโจทย์มากด้วยระบบที่เสถียรและความน่าเชื่อถือสูง ทำให้มั่นใจได้เลยว่ายอดขายปัง เป๊ะ แน่นอน
Highlight
– ได้เงินค่าสินค้าทันทีหลังลูกค้ายืนยันรับสินค้า
– เว็บไซต์สนับสนุนการค้นหาด้วย Search Engine
– ขายได้ทั้งบนเว็บและแอปพลิเคชัน ทั้งระบบ iOS และ Android
5
LnwShop
เว็บไซต์ E-Commerce สำเร็จรูปที่สามารถลงขายสินค้าได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย! โดยมี Template ให้เลือกตกแต่งมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถปรับแต่งได้ด้วยการอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียมได้ด้วย เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าการทำเว็บขายของออนไลน์ เริ่มยังไง เพราะนี่เป็นเว็บไซต์ที่สร้างเพื่อรองรับการขายออนไลน์โดยเฉพาะ
Highlight
– ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่า Hosting เหมือนการสร้างเว็บด้วยตัวเอง
– สามารถจัดหมวดหมู่สินค้าได้สะดวกรวดเร็ว
– มาพร้อมระบบแจ้งเตือนสถานะสินค้าให้กับลูกค้าผ่านอีเมล
6
Page 365 Store
เว็บขายของออนไลน์สำเร็จรูปที่ใช้งานง่ายมาก ไม่ต้องเสียเวลาเขียนเว็บเองให้ยุ่งยาก! สำหรับแม่ค้าออนไลน์ที่มีเพจขายของอยู่แล้วก็สามารถลิงก์มาที่หน้า Page 365 Store ได้เลย ในเว็บมีทั้งระบบตะกร้าสินค้าและระบบจัดการหลังบ้านให้ใช้งานแบบครบครัน
Highlight
– ฟีเจอร์ของ Page 365 ครบมาก สามารถช่วยจัดการออเดอร์ได้สะดวกและรองรับทุกการใช้งาน
– ไม่ต้องเสียเงินจ้างคนมาเขียนเว็บให้
– ระบบเสถียร ใช้งานง่ายมาก
7
Lazada
เว็บไซต์ E-Commerce เจ้าใหญ่ของไทยที่นี่ถือเป็นแหล่งไอเดียสำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะขายของออนไลน์อะไรดี ก็มาดูสินค้าที่นี่ได้ว่า ตัวไหนขายดีหรือยัง หรือตัวไหนยังมีคนขายน้อยอยู่ได้เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นเว็บนี้ยังมีฐานลูกค้าไทยจำนวนมาก ทำให้สามารถปั้นยอดขายได้ไม่ยาก และฟีเจอร์ช่วยดันยอดขายจากทาง Lazada โดยตรง ถือว่าเหมาะมากสำหรับคนที่อยากหารายได้เสริมแบบปัง ๆ
Highlight
– มีคูปองช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้า
– มีระบบ Affiliate Program ทำให้ร้านมีโอกาสขายได้เยอะขึ้น
– ระบบการจัดการหลังบ้านใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก
– คนไทยใช้ Lazada กันเยอะ
8
Shopee
เว็บนี้ถือเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ E-Commerce ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทยเช่นกัน โดยการเปิดร้านบนช้อปปี้นั้น ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่กดลงทะเบียนแล้วเพิ่มสินค้าได้เลย อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งหน้า Sale Page ให้สวยงาม ดึงดูดความสนใจลูกค้าได้ด้วย ใครที่ยังเป็นมือใหม่แนะนำให้ลองขายบนเว็บนี้ดู
Highlight
– คนไทยใช้ Shopee กันเยอะ
มีระบบ Affiliate Program ทำให้ร้านมีโอกาสขายได้มากขึ้น
– ไม่ต้องจ่ายค่าส่งเอง
– ระบบจัดการหลังบ้านทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก