ปัจจุบันทั้งนักลงทุนมือใหม่และมือฉมังต่างก็ให้ความสนใจกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนกันมากขึ้น (อสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์ติดสินที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ เช่น ที่ดิน, บ้าน, คอนโดฯ, ทาวน์เฮ้าส์ เป็นต้น) เนื่องจากเป็นการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับเงินต้น อีกทั้งยังมีความผันผวนค่อนข้างต่ำ แถมยังมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
 
วันนี้พวกเรา Lifesara จึงอยากมาแชร์รูปแบบการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยังไงดีนะ? ที่ช่วยให้ได้กำไรได้ง่ายแบบมือใหม่ก็สามารถทำได้ แต่ขอเตือนน้าว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาให้ดีทุกครั้งก่อนการลงทุนนะ🔥
___________________
สายลงทุนยังไม่หมดเพียงเท่านี้!  ใครอยากหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน หรืออสังหาริมทรัพย์ใดๆ ตามไปอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้เลยย
  1  

ลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบบเก็งกำไร

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไรดี รูปแบบการเก็งกำไรอสังหาฯ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุนยอดนิยม เนื่องจากใช้เงินทุนไม่สูงมาก และคืนทุนเร็ว โดยเป็นการลงทุนซื้อใบจองห้องชุดในวันที่โครงการเปิดขายวันแรก ซึ่งนักลงทุนนิยมขายใบจองนั้นภายใน 1 เดือน เพื่อเลี่ยงค่าโอนกรรมสิทธิ์และได้กำไรเป็นค่าตอบแทน

📌ข้อดี : การลงทุนอสังหาฯ ลักษณะนี้ เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่อยากลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่มากนัก มีเงินแค่หลักหมื่น-หลักแสนก็สามารถเริ่มลงทุนได้แล้ว

💡ข้อแนะนำ : การลงทุนอสังหาริมทรัพย์รูปแบบนี้จำเป็นต้องศึกษา Demand/Supply ของตลาดให้ดีว่าทำเลไหนเป็นที่ต้องการ เช่น ใกล้รถไฟฟ้า, แหล่งชุมชน, ใกล้สถานที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งปัจจัยนี้จะช่วยให้ขายใบจองคอนโดได้เร็วและไม่ขาดทุน

  2  

ลงทุนซื้อคอนโดปล่อยเช่าเก็บ Passive Income

รูปแบบการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยอดฮิตอีกวิธีที่ใคร ๆ ก็ชอบ เพราะต่อให้ไม่ทำงาน ก็ได้เงินค่าเช่าสม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือนที่มีคนเช่า แต่วิธีการลงทุนนี้จำเป็นต้องใช้เงินก้อนในการซื้ออสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้าน คอนโด หรืออาคารพาณิชย์ ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่มีเงินเย็น หรือสำหรับใครที่กู้เงินมาเพื่อซื้ออสังหาปล่อยเช่า แนะนำว่ากำไรที่ได้ควรสูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้

📌ข้อดี : สำหรับคนที่ไม่มีเงินก้อนแล้วอยากมีสินทรัพย์ของตัวเอง สามารถยื่นขอสินเชื่อธนาคารได้ และนำเงินค่าเช่ามาผ่อนคอนโดได้ โดยที่เมื่อขายต่อก็ยังได้กำไร เนื่องจากอสังหาฯ มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นทุกปี ยิ่งเลือกซื้อทำเลดีล่ะก็ บอกเลยว่าได้กำไรแน่นอน

💡ข้อแนะนำ : ความรู้ในการเลือกทำเลและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่จะมาเช่านั้นสำคัญมาก หากสามารถซื้ออสังหาฯ ราคาถูกในที่ทำเลดีได้ จะทำให้ได้ค่าเช่าที่สูงขึ้น รวมถึงการศึกษาเรื่องกฎหมายการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ 

  3  

ลงทุนปล่อยเช่ารายวัน เจาะกลุ่มนักเดินทาง

เดิมทีการปล่อยเช่าที่พักรายเดือนนั้นเป็นที่นิยมมาก แต่หลายพื้นที่นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านไปผ่านมาเป็นจำนวนมาก และพวกเขาหลายคนก็ไม่ต้องการพักโรงแรม เนื่องจากราคาค่อนข้างสูง บางคนต้องการแค่ที่พักสำหรับนอนเท่านั้น ทำให้นักลงทุนเกิดไอเดียเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในทำเลทองเป็นห้องเช่ารายวันแทน จากที่จะได้ค่าตอบแทนรายเดือนก็กลายเป็นได้ทุกวันแทน

📌ข้อดี : สามารถได้รายได้เป็นรายวัน ไม่ต้องปวดหัวกับการทวงค่าเช่าแบบรายเดือน และยังดูแลรักษาง่ายกว่าปล่อยให้เช่าเป็นรายเดือน เพราะผู้เช่าจะอยู่ในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้โอกาสที่ทรัพย์จะเสียหายค่อนข้างน้อย

💡ข้อแนะนำ : สำหรับการลงทุนรูปแบบนี้ควรศึกษาเรื่องการเลือกทำเลให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงให้ความสำคัญกับการตกแต่งที่พัก เพราะความคิดสร้างสรรค์สามารถดึงดูดลูกค้าจำนวนมากให้อยากมาพักมากยิ่งขึ้นได้ ยิ่งถ้าสร้างสตอรี่ให้ที่พักนั้นได้ ก็ยิ่งมีคนอยากมาเช็กอินอย่างล้นหลามแล้ว

  4  

ลงทุนกับกองทุนอสังหาริมทรัพย์แบบชิลล์ ๆ

สำหรับใครที่ไม่รู้จะลงทุนอะไรดี เพราะแต่ละอย่างก็ดูต้องวิเคราะห์ปัจจัยอื่น ๆ เยอะแยะไปหมด มาเอาใจคนที่ไม่อยากปวดหัวด้วยการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์บ้างดีกว่า ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุนที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ เริ่มต้นใช้เงินแค่หลักพันก็ลงทุนได้แล้ว โดยกองทุนจะมีผู้เชี่ยวชาญคือผู้จัดการกองทุนคอยบริหารจัดการเงินเพื่อแบ่งไปลงทุนและกระจายความเสี่ยงให้เราตามที่กฎหมายกำหนด

📌ข้อดี : ไม่ต้องมีความรู้เรื่องอสังหาฯ ก็สามารถลงทุนได้ เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จัดการกองทุนให้ อีกทังยังเหมาะกับคนที่ไม่มีเงินเยอะแต่อยากเริ่มลงทุน ซึ่งถือเป็นแนวทางการลงทุนที่สะดวกสบายสำหรับมือใหม่

💡ข้อแนะนำ : เนื่องจากกองทุนนั้นมีค่าดำเนินการ ทำให้หลังจากที่ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนแล้ว จะมีการหักค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมก่อนจะจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนในกองทุน 

  5  

ลงทุนรีโนเวท อัปมูลค่าอสังหาหลายเท่าตัว

การเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นอีกหนทางในการสร้างรายได้แบบเป็นกอบเป็นกำไม่ยาก ขอแค่เราซื้อบ้านหรืออสังหาฯ มือสองหรือมือใหม่ที่อยู่ในทำเลดีพอใช้ สภาพโครงสร้างยังแข็งแรง แล้วนำมารีโนเวทใหม่ให้สวยปิ๊ง เท่านี้ก็สามารถขายต่อได้ราคาดี กำไรเพียบแล้ว ซึ่งวิธีที่จะหาบ้านราคาถูกได้นั้นมีหลายวิธี เช่น ประมูลจากกรมบังคับคดี, ซื้อบ้านติดธนาคาร (บ้านที่เจ้าของนำไปจำนองกับธนาคารเพื่อแลกเป็นเงิน หรือใช้เป็นหลักค้ำประกัน แม้เจ้าของยังผ่อนชำระไม่หมดก็สามารถขายต่อทอดตลาดเพื่อนำเงินไปปิดค่างวดได้), รับซื้อจากเจ้าของที่ต้องการใช้เงินด่วน เป็นต้น

📌ข้อดี : มีโอกาสได้บ้านมือสองที่ราคาถูกมาก ๆ ได้ ทำให้มีโอกาสทำกำไรจากบ้านนั้นได้ง่ายกว่าการลงทุนในบ้านมือหนึ่ง

📍ข้อแนะนำ : การขายแบบรีโนเวทนั้นควรจัดการต้นทุนให้ต่ำที่สุด ตั้งแต่ซื้อบ้านมือสองและการเลือกใช้วัสดุสำหรับตกแต่งบ้านใหม่ก็ควรเป็นวัสดุดีราคาถูก คุ้มค่า เพื่อให้ได้กำไรที่ดีจากการตกแต่งอสังหาเพื่อขาย และการดำเนินการเกี่ยวกับบ้านอาจมีความยุ่งยาก หากเจ้าของเก่าไม่ยอมย้ายออกจากบ้านของกรมบังคับคดี เราจะต้องเป็นผู้ฟ้องขับไล่ด้วยตัวเอง 

  6  

ลงทุนเป็นผู้ประกอบการด้วยตัวเอง

หลายคนที่อยู่ในวงการอสังหาฯ มักนิยมการหารายได้จากช่องทางนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากสามารถเริ่มต้นได้จากเงินจำนวนน้อย ๆ แต่ได้กำไรค่อนข้างสูง โดยอาจเริ่มจากหาซื้อที่ดินแปลงเล็ก ๆ แล้วสร้างอาคารพาณิชย์แล้วขายต่อ

หรืออีกหนึ่งวิธีที่เป็นที่นิยมเช่นกัน คือ นักลงทุนไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อที่ดินมาก่อน แต่ให้ทำการติดต่อกับเจ้าของที่ดินแปลงที่ตนสนใจเพื่อขอเข้าไปเป็นหุ้นส่วน โดยแจ้งกับเจ้าของว่าจะสร้างอาคารพาณิชย์หรืออสังหาริมทรัพย์ประเภทใด ๆ ก็ตาม และเมื่อขายได้แล้วจะทำการแบ่งกำไรให้ เพียงเท่านี้ก็สามารถโกยกำไรจากการเป็นผู้ประกอบการได้แล้ว

📌ข้อดี : แค่มีไอเดียดี ๆ ก็สามารถเปลี่ยนให้เป็นเงินได้โดยไม่ต้องใช้เงินทุนเยอะเท่ากับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีโอกาสต่อยอดจากอสังหาฯ หรือธุรกิจที่ทำร่วมกับเจ้าของได้เยอะอีกด้วย เนื่องจากเราอาจจะได้ Connection เพิ่มเติม หรือได้ศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้กับเจ้าของที่ดินนั้น ๆ อีกด้วย

💡ข้อแนะนำ : โอกาสที่เจ้าของที่ดินจะมีความเชื่อมั่นในแผนธุรกิจที่เราเสนอไปนั้นอาจจะน้อยมาก หากแผนธุรกิจนั้นยังไม่น่าสนใจและรัดกุมพอ อีกทั้งหากเป็นคนที่ไม่รู้จัก แล้วเราไม่มีชื่อเสียงด้านการพัฒนาอสังหาฯ ด้วยแล้ว อาจทำให้แผนที่เสนอไปนั้นโดนปัดตกได้ง่าย ๆ

  7  

เป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

วิธีการหาเงินจากอสังหาริมทรัพย์แบบจับเสือมือเปล่าที่ไม่ต้องใช้เงินทุนแม้แต่บาทเดียว วิธีนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการอสังหาฯ หลายคนยังเป็นนักศึกษาอยู่ก็เริ่มเข้ามาเป็นนายหน้ากันแล้ว วิธีการทำงานก็ง่ายมาก แค่ทำการแนะนำให้ผู้ซื้อและผู้ขายให้มาทำการปิดการขายกัน แต่นายหน้าเองก็ควรมีความรู้เรื่องทำเล การขาย และทักษะการเจรจาต่อรองด้วย

📌ข้อดี : ไม่ต้องเสียเงินลงทุนด้วยตัวเอง แต่สามารถสร้างรายได้หลักแสนถึงหลักล้านได้ในการขายอสังหาริมทรัพย์เพียงแค่ทรัพย์เดียว อีกทั้งยังเป็นงานที่ยืดหยุ่น เหมาะกับคนที่มีงานประจำหรือมีเวลาค่อนข้างจำกัด

✨ข้อแนะนำ : ปัจจุบันนายหน้าบางคนไม่ต้องเดินทางไปที่อสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการประกาศขายด้วยตัวเองแล้ว เนื่องจากสามารถทำการ Co-Agent (การขายอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับนายหน้าคนอื่น) โดยจะแบ่งค่าตอบแทนกับนายหน้าอีกคนตามที่ตกลงกัน

เช่น เรากับเพื่อนทำสัญญากันว่าจะทำโคเอเจนต์ในการขายบ้านหลังหนึ่ง ราคา 1,000,000 บาท เจ้าของบ้านให้ค่านายหน้า 3% (30,000 บาท) เราสัญญากับเพื่อนว่าจะแบ่งกัน 50% เท่ากับจะได้ค่านายหน้าคนละ 30,000 / 2 = 15,000 บาท นั่นเอง

ส่วนหน้าที่การทำงาน อาจแบ่งเป็นว่าเราจะลงประกาศขายบ้านและเปิดดีลกับลูกค้าทางออนไลน์ เมื่อลูกค้าตัดสินใจนัดขอดูบ้าน เราก็ให้เพื่อนทำหน้าที่แนะนำบ้านให้ลูกค้าและปิดดีลในวันที่นัดดูบ้านได้เลย