ในปัจจุบันนี้เรามักจะเห็นคนรอบตัวของเรามีปัญหาทางด้านสายตากันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น, สายตายาวไปจนถึงสายตาเอียง โดยส่วนมากถ้าไม่เป็นมาแต่กำเนิด ก็อาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตา รวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้น อาการทางสายตาเหล่านี้ก็มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุอย่างคุณพ่อ,คุณแม่,ปู่ย่าตายายของเรา
ทำให้อ่านหนังสือได้ลำบาก จะหยิบจะจับอะไรก็ต้องเพ่งตลอด แต่แค่แว่นเพียงอันเดียวจะสามารถช่วยเราได้ขนาดนั้นจริงๆ เหรอ? ดังนั้นวันนี้พวกเรา LifeSara อยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับเลนส์แว่นสุดพิเศษที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาทางด้านสายตาแบบครบ จบ ในอันเดียว!
หลายๆ คนในที่นี้อาจจะเคยได้ยินคำว่าเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive) กันมาบ้าง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริงๆ แล้วเลนส์โปรเกรสซีฟคืออะไร มีข้อดียังไง ข้อจำกัดอย่างไร แล้วมันแตกต่างจากเลนส์แว่นทั่วไปอย่างไร เหมาะกับผู้สูงอายุมั้ยนะ วันนี้พวกเรามาค้นหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเถอะ
เลนส์ Progressive คืออะไร?
เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive) คือ เลนส์แว่นตาหลายระยะแบบไร้รอยต่อ ออกแบบมาเพื่อผู้ที่มีสายตายาวตามวัย (อายุประมาณ 38 ปีขึ้นไป) หรือผู้ที่มีปัญหาในการมองเห็นหลายระยะ และไม่ต้องการพกแว่นหลายตัว
เลนส์โปรเกรสซีฟ ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาของแต่ละบุคคล สามารถครอบคลุมกิจกรรมในทุกระยะการใช้งาน เน้นแก้ปัญหาการใช้งานทุกระยะการมองเห็น
- ปัญหาการมองระยะใกล้ 33-40 cm
(เช่น การเล่นโทรศัพท์มือถือ ถือหนังสือขึ้นมาอ่าน) - ปัญหาการมองระยะกลาง 40-70 cm
(เช่นการมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอ PC ที่วางบนโต๊ะทำงาน โต๊ะทานข้าว) - ปัญหาการมองระยะไกล 70 cm เป็นต้นไป
(การมองตั้งแต่ระยะที่มือไม่สามารถเอื้อมถึง)
ในคนที่มีสายตายาวตามอายุ ทั้ง 3 ระยะจะต้องใช้คนละค่าสายตา ดังนั้นหากไม่ต้องการมีแว่น 3 ตัว สามารถเลือกใช้เลนส์โปรเกรสซีพได้
ข้อดี – ข้อเสียของเลนส์
ข้อดีของเลนส์
- ได้ภาพที่คมชัด : เพราะเลนส์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อแต่ละบุคคล ดังนั้นตัวเลนส์จะสามารถช่วยให้เรามองเห็นในระยะใกล้ – กลาง – ไกล ได้อย่างหมดห่วงเรื่องภาพไม่ชัดในทุกกิจกรรม
- ปกป้องดวงตา : ช่วยลดแสงสะท้อนจากแสงสีฟ้าและรังสี UV ที่อาจก่ออันตรายให้กับดวงตาได้
- สะดวกสบาย : เราไม่ต้องคอยพกแว่นหลายอันให้หนักกระเป๋า และไม่ต้องเปลี่ยนแว่นทุกครั้งเมื่อทำกิจกรรมใหม่ๆ เรียกได้ว่าสะดวกสบายมากก
- บุคลิกภาพที่ดีขึ้น : เราจะไม่ต้องมานั่งหยีตาเพ่งมองตัวอักษร หรือถอดแว่นเข้าๆ ออกๆ เมื่อมองไม่เห็น จึงทำให้เราดูเหมือนคนใส่แว่นทั่วไป และดูเป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น
ข้อจำกัดของเลนส์
- ด้วยเทคโนโลยีการผลิตและโครงสร้างเลนส์สามารถครอบคลุมการมองเห็นได้ครบทุกระยะ จึงมีราคาสูงกว่าเลนส์ชนิดอื่น
- เลนส์โปรเกรสซีฟจะมีโซนภาพบิดเบือนด้านข้าง ในเรื่องของการปรับตัวจะใช้เวลามาก-น้อยขึ้นอยู่กับรุ่นโครงสร้างและมุมมองที่เลือก ดังนั้นผู้ใส่จะต้องใช้เวลาในการปรับตัว
เมื่อลองมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดจะพบว่า การใช้เลนส์โปรโปรเกรสซีฟนั้นมีข้อดีมากกว่าข้อเสียมากๆ เรียกได้ว่าคุ้มค่าที่จะลงทุน เพื่อสายตาที่ดีขึ้นและการใช้ชีวิตที่กลับมาง่ายขึ้นของเรา แต่ถึงกระนั้นการตัดแว่นโปรเกรสซีฟ จำเป็นต้องได้รับการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดแม่นยำ โดยนักทัศนมาตร ซึ่งเดี๋ยวจะมาแนะนำสถานที่ตัดแว่นให้ด้านล่างเลยน้า
ในความจริงแล้วเลนส์แว่นตาไม่ได้มีแค่แบบเดียวเท่านั้น เวลาไปตัดแว่นเราอาจจะเคยเห็นเลนส์ตัดแสงสีฟ้า, เลนส์ย่อบางไปจนถึงเลนส์ ที่สามารถปรับสีเมื่อโดนแสงอาทิตย์ได้ ซึ่งประเภทเหล่านี้เป็นประเภทของเลนส์ แต่ใครจะรู้มั้ยว่าจริงๆ แล้วเลนส์มีทั้งหมด 3 ประเภท คือ
- เลนส์ชั้นเดียว – มองเห็นได้เพียงระยะเดียว
- เลนส์สองชั้น – มองเห็นได้ 2 ระยะ
- เลนส์โปรเกรสซีฟ – มองเห็นได้ทุกระยะ
- เลนส์มัลติโค้ท เลนส์ตัดแสงสีฟ้า เลนส์ออกแดดเปลี่ยนสี คือคุณสมบัติของเลนส์ที่สามารถเลือกได้การความต้องการในการใช้งาน
- การย่อบางเลนส์ จะใช้กับเลนส์ที่มีค่าสายตาสูงๆ
- ราคาที่แตกต่างกันของเลนส์ ขึ้นอยู่โครงสร้างและเทคโนโลยีในการผลิตของเลนส์แต่ละรุ่น
- อายุการใช้งานของเลนส์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน การดูแลรักษา
- การเปลี่ยนเลนส์หนึ่งครั้งมีค่าใช้จ่าย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อให้สามารถเลือกใช้เลนส์ได้ถูกต้องตรงกับค่าสายตาและความต้องการในการใช้งาน
ซึ่งวันนี้พวกเรา LifeSara ได้ทำตารางเปรียบเทียบมาให้ทุกคนดูความคุ้มค่ากันแล้ว
เป็นยังไงกันบ้างกับตารางเปรียบเทียบเลนส์ต่างๆ คิดว่าตารางนี้จะสามารถช่วยทุกคนตัดสินใจเลือกเลนส์สำหรับแว่นใหม่ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานมากขึ้น
โดยทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วการตัดแว่นสักครั้งนึงก็ไม่ต่างอะไรกับการซื้อมือถือ 1 เครื่อง ดังนั้นควรตัดสินใจจากรูปแบบการใช้งานจริงไปจนถึงความสะดวกสบาย เพราะเราต้องอย่าลืมว่าแว่นเป็นสิ่งที่เราต้องใส่ทุกวันและตลอดเวลาน้า
ในเรื่องของความคุ้มค่านั้นคงต้องขอบอกเลยว่า คุ้มกับราคาที่จ่ายไปแน่นอน เพราะเจ้าเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive) สามารถช่วยให้เรากลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องนั่งจ้องเอกสารนานๆ ทำงานในคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งการเข้าครัวทำอาหารก็คงต้องบอกเลยว่าสะดวกสบายมาก
เพราะเวลาที่เราเสียไปกับการหาแว่นถอดและใส่แว่น ไหนจะต้องมาเช็ดแว่นอีก เราสามารถเอาเวลานั้นไปทำอะไรต่างๆ ได้อีกมากมาย และนี่ยังไม่นับการที่ต้องปรับตัวทุกครั้งที่เปลี่ยนแว่นอีกน้า
สำหรับใครที่คิดว่าเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive) ต้องมีราคาเป็นหลักแสนอย่างเดียวแน่ๆ เลย ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าอย่างทางร้าน Occura Vision เองราคาน่ารักกว่าที่ทุกคนคิดแน่นอน เพราะเขามีเลนส์ตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่นเลย
และที่สำคัญเขายังมีเลนส์ให้เลือกหลากหลายมาก อย่างเลนส์โปรเกรสซีฟของ Occura จะแบ่งประเภทตามโครงสร้างของเลนส์ โดยมีโครงสร้างที่เริ่มแนะนำให้ใช้งานดังนี้
- Freeform Progressive
เลนส์ประเภทนี้จะเป็นการนำค่าสายตา + สรีระตา เข้ามาคำนวณเพื่อ optimized โครงสร้างของเลนส์ โดย Freeform Progressive จะคำนึงถึงการมองเห็นของตาซ้ายและขวาเป็นหลัก ทำให้เรามองได้อย่างไม่เวียนหัวมากนัก ปรับตัวง่าย เหมาะกับผู้ที่มีค่าสายตาเท่ากันทั้งสองข้างที่ไม่ซับซ้อน
💵 ราคาเริ่มต้นที่ : 17,700 บาท
- Customized Freeform Progressive
เลนส์ประเภทนี้จะใช้เทคนิคเดียวกันกับ Freeform Progressive แต่จะมีสิ่งนึงที่เพิ่มขึ้นมานั้นก็คือ position of wear ซึ่งเลนส์รุ่นนี้จะเอาสรีระของกรอบแว่น ตำแหน่งของหน้า จมูก ใบหูและตาของเรามาคำนวณในการออกแบบเพิ่มขึ้นด้วย ช่วยทำให้เราสบายตา ไม่ปวดหัว อีกทั้งสามารถรับรู้ภาพ 3 มิติได้มากกว่า Freeform Progressive ด้วยน้า
💵 ราคาเริ่มต้นที่ : 26,700 บาท
- Individual Progressive
ต่อมาเป็นเลนส์รูปแบบ Individual Progressive ซึ่งจะเป็นเลนส์ที่เหนือกว่าข้างต้นมากๆ โดยสิ่งที่เจ้าเลนส์ตัวนี้เพิ่มขึ้นมาก็คือ Luminance technology การนำขนาดรูม่านตาในสภาวะแสงต่างๆ เข้ามาคำนวณร่วมกับค่าสายตา ทำให้เราสามารถมองเห็นได้ชัดในทุกสภาพแสง ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนก็คือชัดสุดด
และที่มากไปกว่านั้นคือเขายังมี lifestyle fit อีกด้วยนะ เขาจะทำการสอบถามกิจวัตรประจำวันของเรา ทำอะไรบ้าง ทำงานประเภทไหน ใช้สายตาเยอะมากมั้ย เรียกได้ว่าดีไซน์มาเพื่อใช้ในทุกวันจริงๆ โดย lifestyle design
จะทั้งหมดมี 3 ประเภทด้วยกันก็คือ
- Near
เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นใช้งานระยะ 30-60 cm เป็นหลัก อย่างพวกการอ่านหนังสือ ทำงานฝีมือ ใช้ Laptop หรือ Smartphone เน้นผู้ที่ทำงานในร่ม ไม่ต้องเคลื่อนไหวมากนัก
- Intermediate
เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นใช้งานระยะ 60-90 cm เป็นหลัก อย่างพวกการทำงานทางด้านเอกสารหรือการทำงานบน PC ตั้งโต๊ะ เน้นไปทางคนที่ต้องเปลี่ยนระยะสายต่อการมองบ่อยๆ อย่างการขับรถ การออกกำลังกาย เล่นกีฬา ทำให้ได้ความนุ่มนวลเวลาเปลี่ยนระยะการมอง
- Balance
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคมชัดในทุกระยะการใช้งาน จะมีความนุ่มนวลเวลาเปลี่ยนระยะการมองเห็นจากใกล้-ไกล, ไกล-ใกล้ แต่เลนส์ตัวนี้อาจจะทำให้ระยะอ่านหนังสือไม่กว้างเท่ากับ Near, Intermediate จึงควรปรึกษานักทัศมาตร เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับการใช้งาน
💵 ราคาเริ่มต้นที่ : 36,000 บาท
เลนส์ปรับตัวยากมั้ย?
หลายคนอาจจะคิดว่าแว่นโปรเกรสซีฟต้องปรับตัวยากแน่ๆ เลย จะเหมาะกับผู้สูงอายุรึเปล่า? ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่าการปรับตัวขึ้นอยู่กับประเภทเลนส์และออฟชั่นเสริมที่เราเลือกเอาไว้ บางอันก็อาจจะปรับตัวได้เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานของเรา
และถึงแม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวในช่วงแรก แต่ขอบอกเลยว่าเมื่อแลกกับผลลัพธ์หลังจากนั้นคือคุ้มค่า เพราะมันจะช่วยให้เราสามารถกลับมาใช้สายตาได้อย่างเต็มที่และสะดวกสบายขึ้นอย่างแท้จริง
ส่วนคำถามที่ว่าเลนส์โปรเกรสซีพเหมาะกับผู้สูงอายุมั้ย บอกเลยว่า “เหมาะ” เพราะว่าเลนส์ประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาในหลายรูปแบบ ถ้าหากเราลองสังเกตดูจะค้นพบว่าผู้สูงอายุนั้นมักจะมีปัญหาสายตาสั้น-ยาวไปพร้อมกัน ทำให้บางทีเขาอาจจะต้องถอดๆ ใส่ๆ แว่นเพียงแค่อ่านหนังสือพิมพ์เท่านั้น
ซึ่งเมื่อเราเห็นผู้สูงอายุในบ้านเราเป็นแบบนั้น หากเราก็อยากให้ท่านสบายก็สามารถตัดแว่น Progressive ให้พวกท่านใส่ได้ ปัญหาถอดใส่แว่นก็จะหมดไป อีกทั้งยังช่วยถนอมดวงตาอีกด้วยน้าา เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ
นอกจากนี้แว่น Progressive ไม่ได้เหมาะเพียงแค่ผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับผู้ที่ใช้สายตาเยอะๆ มีความต้องการที่จะใช้สายตาในแบบเฉพาะทางอย่างการเพ่งอ่านเอกสาร, จ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ ไปจนถึงผู้ที่ชอบเล่นกีฬากลางแจ้งเลยนะ
อย่างทาง Occura Vision เองก็มีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเพื่อตัดแว่น เพราะลักษณะงานมีความจำเป็นต้องแยกเฉดสี หรือต้องใช้การเพ่งเป็นเวลานานๆ แว่นโปรเกรสซีฟจะทำให้การมองเห็นกลับมาคมชัดได้ในทุกระยะ และช่วยลดอาการตาล้า ปวดศรีษะได้อีกด้วย
ควรซื้อที่ไหนดีหรือร้านที่เชี่ยวชาญการตัดแว่น Progressive
เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ทุกคนอาจจะสงสัยว่าแล้วถ้าแว่น Progressive ไม่ควรตัดกับผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ และความรู้ในระบบการมองเห็น แล้วเราควรจะไปตัดที่ไหนดีล่ะ? วันนี้พวกเรา LifeSara เลยอยากจะพาทุกคนไปรู้จักร้านแว่นที่รับตัดแว่นอย่างครบวงจรอย่างร้าน “Occura Vision (ร้านตัดแว่นตาโอคูระ)”
ร้านตัดแว่นที่พร้อมบริการอย่างครบวงจร โดยเขารับตัดตั้งแต่เลนส์ชั้นเดียว, เลนส์โปรเกรสซีฟ, แว่นสายตากันแดด, เลนส์เฉพาะทางไปจนถึงเลนส์ที่ช่วยชะลอปัญหาสายตาสั้นสำหรับเด็กๆ เลยน้าา
ซึ่งทาง Occura Vision (ร้านตัดแว่นตาโอคูระ) มีประสบการณ์อยู่ในวงการแว่นตามากกว่า 30 ปีแล้ว เรียกได้ว่ามีประสบการณ์ในด้านนี้แบบจัดเต็มมากๆ โดยสำหรับขั้นตอนการให้บริการเขาจะทำการสอบถามลักษณะการทำงาน กิจกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน และปัญหาทางสายตาอย่างละเอียด เพื่อทำการออกแบบเลนส์ที่เหมาะกับเราที่สุด
และเขาจะทำการตรวจสุขภาพตาเบื้องต้นและค่าสายตาของเราโดยใช้เครื่อง WAM (Wave Analyzer Medica) เครื่องที่สามารถตรวจค่าสายตาในตอนกลางวัน,กลางคืนได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งเครื่องนี้ยังสามารถวิเคราะห์อาการแพ้แสงไปจนถึง การวัดระดับความดันตา (IOP) มุมระบายน้ำตา (Angle) ได้อีกด้วยน้าา เรียกได้ว่าละเอียดขนาดนี้ไม่ต้องไปที่ไหนเพิ่มแล้ว
ต้องขอบอกว่าห้องตรวจสายตาของที่นี่ได้รับมาตรฐานระดับสากล โดยมีความยาว 6 เมตรเป็นระยะที่ลดการเพ่งของดวงตา อีกทั้งยังมีการควบคุม Illumination เพื่อลดแสงสะท้อนที่อาจบิดเบือนการมองเห็นด้วย
และสำหรับ Occura Vision จะใช้เครื่องมือเป็น Digital Phoropter เพื่อลดความคลาดเคลื่อนในการตรวจวัดสายตา ทำให้ได้ค่าสายตาที่แม่นยำที่สุดไม่ว่าจะในที่มืดหรือที่สว่าง ก็คือสะดวกสบายขั้นสุดด
โดยผู้ที่ทำการตรวจให้เรานั้นจะเป็น นักทัศนมาตร (Doctor of Optometry) ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางด้านระบบการมองเห็นของสายตาโดยเฉพาะ ซึ่งจะต้องทำการเรียนเฉพาะทางถึง 6 ปีเลยทีเดียว!
‘นักทัศนมาตร’ จะต้องมีตั้งแต่ความรู้ขั้นพื้นฐานไปจนถึงเรียนกายวิภาค, ระบบในร่างกายและความรู้ในด้านดวงตาโดยเฉพาะระบบการมองเห็น ซึ่งขอบอกเลยว่าในประเทศไทยมีนักทัศนมาตรไม่ถึง 1000 คนด้วยซ้ำ! ดังนั้นเราสามารถไว้ใจและตรวจได้อย่างไร้กังวลเลยน้า~
และหลังจากที่เราตรวจสายตากับ ‘นักทัศนมาตร’ เรียบร้อย เขาจะทำการแนะนำกรอบแว่นตาและเลนส์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราให้ เรียกได้ว่าพร้อมให้คำปรึกษา ใครที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟก็สามารถเข้ามาถามเขาได้แบบไม่ต้องเขินเลยน้า เพราะเขายินดีให้บริการและให้คำแนะนำกับเรามากๆ
ช่วยให้เราเข้าใจปัญหาสายตาสามารถไปแนะนำให้กับคนในครอบครัวได้ ให้ฟีลเหมือนมานั่งคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอเลย เมื่อเราได้ทำการเลือกกรอบ, เลนส์เรียบร้อย และทำการ fitting โดยช่างแว่นตา (Optician) ที่มีความชำนาญเรื่องการ ปรับ ดัด วัดค่าพารามิเตอร์ของแว่นขณะสวมบนใบหน้า และฝนประกอบเลนส์เข้ากรอบแว่น ทำให้เราสามารถใช้แว่นได้อย่างคมชัดสบายตา
การบริการประทับใจจนทึ่ง ทำให้รู้สึกเหมือนมีเพื่อนเป็นหมอ ที่ได้คำแนะนำจริงๆ แบบ Heart Sell ไม่ Hard Sell
ส่วนการบริการขอบอกเลยว่าถ้าไม่รู้ว่าตัวเองมีปัญหาสายตาอะไร ต้องเริ่มยังไง สามารถมาที่นี่ได้เลย เป็นอีกทางเลือกที่ดีมาก แล้วบอกเลยว่าโอคูระโดยรวมประทับใจมากกก เหมือนไปบ้านเพื่อนสุดไรสุด ทุกขั้นตอนการตรวจคือเป็นกันเอง ไม่มีการ Hard Sell ใดๆ ทั้งสิ้น
และตั้งแต่ก้าวเข้าไปก็จะมีคนมาคอยต้อนรับ บริเวณที่นั่งรอก็จะมีขนม, ชา, กาแฟให้ทาน หรือเสาร์-อาทิตย์จะมีขนมไทย เมี่ยงคำด้วยนะ แอบกระซิบว่าทางร้านมีเครื่องดื่ม Signature ของเขาด้วย อร่อยจริง สำหรับใครที่ไม่มีรถส่วนตัวขับมาก็สามารถแจ้งทางร้านให้มารับได้ด้วยน้าา ทางร้านเขาจะมีรถรับส่งจากเซ็นทรัลพระราม 9 มาถึงร้านแบบฟรีๆ!! (แต่จะต้องจองล่วงหน้าน้า)
นอกจากนี้หลังจากที่เราทำการตัดแว่นเสร็จแล้ว เขาก็จะมีการ Follow up หรือติดตามผลการใช้แว่นของเราตั้งแต่ 2 อาทิตย์ – 1 เดือน เพื่อติดตามว่าเรามีอาการเคืองตามั้ย ปรับตัวได้รึเปล่า ก็คือใส่ใจมากๆ ใครที่กำลังมองหาร้านตัดแว่นอันใหม่สักอันหรือร้านตัดแว่นดีๆ บอกเลยว่าห้ามพลาดโดยเด็ดขาด!!
_______________________
☎️ช่องทางการติดต่อ
Facebook : Occura
IG : occuravision
Tiktok : occuravision
Line : @occura
Website : occura
Tel : 02-645-0192 | 081-611-6823
🛵วิธีการเดินทาง
- MRT สถานีพระราม 9 (ทางออกฝั่ง central พระราม 9)
- รถยนต์ส่วนตัวสามารถจอดได้ที่อาคาร ชั้น 3B โดยนำบัตรจอดรถมาให้ทางร้านประทับตรา
- หรือหากใครไม่มีรถส่วนตัวสามารถใช้บริการรถรับส่งของทางร้านได้ รับจาก Central พระราม 9 (นัดหมายล่วงหน้าก่อน 1 วัน)
🎯พิกัด : 100/74 Vongvanij B Building 23 Floor, Rama 9 Road, Samsen Nok, Huai Kwang, Bangkok 10320
⏱️เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน (ปิดทุกวันพุธ) ตั้งแต่ 09:00 น. – 18:00 น.