ถ้าพูดถึงเมืองกาญจน์ ใครๆ ก็คิดถึงการนอนแพ⛵ เล่นน้ำตก🏊 หรือการชมวิวแม่น้ำแคว💦 แต่ปกติแล้วที่เที่ยวที่คนส่วนใหญ่นึกถึงมักจะต้องเลยจากตัวเมืองไปไกล เพราะถ้าไม่เลยอำเภอไทรโยคที่ต้องขับรถนานถึงสองชั่วโมงครึ่งขึ้นไป ก็ต้องขับรถเลยช่องสะเดาะขึ้นไปเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งต้องใช้เวลากว่าสามชั่วโมง 😱
แต่ถ้าใครคิดว่าอยากไปฮีลลิ่งหัวใจกับธรรมชาติ แต่กลัวว่าจะขับรถไปไม่ไหว😭 วันนี้พวกเรา Lifesara มาช่วยแล้ว กับ 5 ที่เที่ยวธรรมชาติในเมืองกาญจน์ ที่รับรองเลยว่าได้ชมธรรมชาติแบบจัดเต็มแม้จะอยู่แถบตัวเมืองกาญจนบุรีก็ตาม อีกทั้งยังขับรถไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงที่หมายแน่นอน💖 มาตามดูกันได้เลย
1
ถ้ำคูหามังกรสวรรค์ (วัดบ้านถ้ำ)
สำหรับที่เที่ยวธรรมชาติในเมืองกาญจน์ที่แรกนั้น ถ้าเราวิ่งตามถนนแสงชูโตขึ้นมาจากบ้านโป่ง ปกติแล้วเราก็จะวิ่งผ่านอำเภอท่าม่วงเข้าตัวเมืองไปเลย ไม่แวะอะไรแถวๆ นี้ แต่คราวนี้พวกเราเลี้ยวซ้ายที่เขื่อนแม่กลอง เพื่อข้ามฝั่งมาวิ่งเลียบแม่น้ำแควอีกฟากนึง
ซึ่งทางนี้นอกจากจะได้ชมวิวแม่น้ำอย่างใกล้ชิดกว่าปกติแล้ว ที่นี่ยังมีที่เที่ยวที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวยอดเขาได้สองจุด จุดแรกคือวัดถ้ำเสือที่มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่แล้วก่อนหน้า แต่อีกหนึ่งที่ที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวแม่น้ำแควได้ 180 องศาก็คือ💥ถ้ำคูหามังกรสวรรค์ ในวัดบ้านถ้ำนั่นเอง💥
เมื่อถึงวัดแล้วเราก็จะจอดรถที่ตีนเขา และเดินขึ้นบันไดเข้าไปในตัวมังกร แวะสักการะพระพุทธรูปในถ้ำที่ถูกจัดไว้อย่างสะอาดและงดงาม ก่อนจะเดินออกมาสูดอากาศสดชื่นและดื่มด่ำกับวิวแม่น้ำแควอย่างที่มีแต่กาญจนบุรีเท่านั้นที่มีให้เห็น แต่ที่สำคัญคือคราวนี้เราขับออกจากกรุงเทพมาแค่ 90 กิโลเมตรเท่านั้นเองง😄
2
ทะเลน้ำจืดท่าล้อ (วัดบ้านทอง)
ในขณะที่คนส่วนใหญ่มักจะขับรถผ่านสามแยกท่าล้อก่อนถึงตัวเมืองกาญจน์ไปแบบไม่คิดอะไร เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ถ้าเราเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยเลียบกำแพงวัดบ้านทองก่อนถึงสามแยก พอถึงสุดทางทุกคนจะต้องอึ้งกับสิ่งนี้😮 เพราะที่นี่มันบางแสนชัดๆ😲⛵
ก็ทั้งหาดทรายที่ลาดลงไปในน้ำ🚣 คลื่นลมที่พัดเข้าฝั่ง วิวเขาฝั่งตรงข้าม และเก้าอี้เอนนอนปักร่มเต็มหาดไปหมด นี่มันคือทะเลเลยนี่นา แต่เป็นทะเลน้ำจืดเพราะคุ้งน้ำตรงนี้มันอยู่ในแม่น้ำแม่กลอง!! (เริ่มจากจุดขึ้นไปทางเหนือจึงจะเรียกแม่น้ำแคว) ถ้าใครอยากจะนอนชิวอยู่ริมหาดแต่ไม่โอเคกับลมทะเลเหนียวๆ ทะเลท่าล้อกำลังกวักมือเรียกทุกคนอยู่
3
ต้นจามจุรียักษ์
บางครั้งการที่มนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเรา ได้ไปยืนใกล้ๆ กับอะไรซักอย่างที่ใหญ่โต และเก่าแก่กว่าเรามากเกินจะเทียบ มันก็ทำให้เรารู้สึกแปลกๆ เหมือนเราอยากจะคิดทบทวนความสัมพันธ์ระหว่าง ตัวเรากับทุกสรรพสิ่งในจักรวาล หรือไม่ก็แค่ง่วงนอน อยากจะงีบใต้ต้นไม้เท่านั้นแหละพูดไรเยอะแยะ 😮
เอาเป็นว่าทุกคนไปดูเอาเองละกัน กับต้นจามจุรียักษ์ที่มาอายุมากกว่าร้อยปี🌳🌲 และขนาดของมันก็อลังการมากๆ แบบที่ทำให้ใครที่มาเห็นรู้สึกได้ว่า มันน่าจะอยู่มานานขนาดนั้นจริงๆ แหละ
อ้อ และก็ที่นี่ขับรถไม่ไกลด้วยนะ เพราะเลยมาจากถ้ำคูหามังกรสวรรค์แค่นิดเดียวเอง และที่นี่เขาทำสะพานไม้สวยๆ ไว้ให้เดินเขาไปชมต้นจามจุรีใกล้ๆ ด้วย อยากจะนั่ง จะเดิน จะถ่ายรูปอะไรก็คือทำได้เต็มที่เลย แค่อย่าลงไปเหยียบพื้นก็พอ เพราะเดี๋ยวจะไปเหยียบรากคุณยายจามจุรีเขา เกรงใจผู้ใหญ่กันหน่อยยย☝
4
จุดชมวิวเขากระชาย
อันนี้คือสุดยอดแห่งที่เที่ยวลึกลับที่ต้องอาศัยทั้งความกล้าและความโชคดี เพราะมันใกล้ก็จริง แต่ถ้าไม่ใช่สายออกกำลังกายแข็งๆ ก็คือน่ากลัวมากแม่😱😱
โดยจุดชมวิวนี้ ความจริงแล้วมีการบูรณะเส้นทางใหม่ เพื่อให้เป็นทั้งที่ออกกำลังกายของชุมชน และเป็นที่ท่องเที่ยวในเวลาเดียวกัน ทำให้ท้องถิ่นเขาสร้างทางขึ้นจุดชมวิวไว้สองทาง คือบันไดหินสำหรับคนเดินและทางลาดสำหรับพาหนะ
แต่ถึงแม้ทางลาดจะถูกทำใหม่เป็นทางปูนเสริมคอนกรีตขึ้นไปจนถึงยอดเขา แต่ความแคบของมัน ทำให้รถสวนกันได้ยากถ้าหากเจอกันกลางทาง😨 ดังนั้นถ้าใครไม่ใช่สายแข็งที่จะวิ่งหรือเดินขึ้นไป ก็แนะนำว่าเก็บไว้เป็นจุดแวะชมบนทางผ่านดีกว่า และอย่าลืมจอดรถถามคนท้องที่ก่อนจะขับรถขึ้นไปด้วย
แต่ถ้าใครสามารถไปได้ถึงฝั่งฝัน ก็ต้องบอกเลยว่าวิวนี่คือดีที่สุดดด😍 เพราะมองลงไปเห็นถนนเลี่ยงเมือง ไปจนถึงตัวเมืองไปจนสุดแม่น้ำแควเลยยย และถ้ามาถูกเวลานะ จะเห็นรถไฟวิ่งผ่านเราไปใกล้ๆ เลย เพราะรางรถไฟอยู่ต่ำจากเราไปแค่นิดเดียว😲 วิวที่นี่ก็คือดีย์ ดีย์แบบต่อให้รู้ว่าเสี่ยงก็คงต้องขอลองจริงๆ💖💖
5
วัดถ้ำเขาปูน
ถ้าใครเห็นจุดชมวิวก่อนหน้าแล้วรู้สึกว่าต้องการแบบนั้นบ้า งแต่ไม่พร้อมเสี่ยง ที่เที่ยวสุดท้ายนี้ก็คือเพื่อเธอจริงๆ เพราะเป็นจุดชมวิวอีกแห่ง ที่อยู่ยอดเขาและเห็นแม่น้ำแควกับรถไฟใกล้ๆ เหมือนกัน!!💖💖
เพียงขับออกจากตัวเมืองมาทางตำบลหนองหญ้าไม่กี่กิโลเมตร เราก็จะมาถึงวัดโบราณแห่งนี้แล้วจ้า โดยจุดเด่นสำคัญของวัดนี้เขาอยู่ที่พระพุทธรูปในถ้ำที่อยู่มาแต่ดั้งเดิม แต่ไหว้พระเสร็จแล้วก็เข้าไปข้างในต่อน้า เพราะพวกเราคนบาปน่ะ มาที่นี่เพื่อชมวิวต่างหากกก😏😏
ใช่แล้ว สุดถนนข้างในวัดก็คือจุดชมวิวมูลค่าหลักล้านนั่นเอง เพราะตรงนี้เป็นจุดที่มีทางรถไฟสายมรณะวิ่งผ่านด้านล่าง และแม่น้ำแควน้อยก็มาขดโค้งอยู่ตรงตีนเขานี่เอง ทำให้เราได้ชมวิวสามเหลี่ยมแม่น้ำที่มีรถไฟวิ่งผ่านตรงนี้ยังไงล่าาา🙌 โดยเพื่อนๆ จะไปเสียค่าที่ให้กับคาเฟ่สองแห่งตรงนี้ก็ได้ เพราะเขาก็จะมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ในพื้นที่ของทางร้าน แต่ถ้าใครสายฟรีก็ยืนเชิ่ดถ่ายรูปบนจุดชมวิวของวัดเลยก็ได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายจ้าา👌
