🔍เชื่อว่าหลายๆ คนรู้อยู่แล้วว่าภาษาอังกฤษ นับว่าเป็นภาษาที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต และจำเป็นสำหรับโลกของเราในอนาคต ยิ่งสำหรับน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ก็ยิ่งจำเป็นอย่างมากในการเข้าไปสู่ตลาดแรงงานในเร็วๆ นี้ ซึ่งสมัยนี้เราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเรียนภาษาอังกฤษที่สถาบันต่างๆ ให้ยากอีกต่อไป เพราะเราสามารถอัพสกิลด้านภาษาที่บ้านได้ด้วยตัวเองแล้ว พวกเรา LifeSara เลยรวบรวมเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์  ทั้งแบบฟรีและพรีเมียมที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอาไว้ให้แล้ว!!!

สำหรับใครที่อยากอัปสกิลเรียนภาษาอังกฤษให้คล่อง ทั้งการพูด อ่าน เขียน ไม่ควรพลาดบทความด้านล่างนี้เลย เพราะมีครบทั้งคำศัพท์ที่น่าสนใจ น่าเรียนรู้ไว้ใช้ รวมถึงลิสต์หนังที่เอาไว้ฝึกฟังภาษาอังกฤษแบบเพลินๆ อีกด้วย จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามไปอ่านกันเลยยย ☺️
รวม 5 เว็บแจกไฟล์ คำศัพท์ IELTS 2022 pdf ฟรี! จะเรียนต่อหรือทำงานก็ไม่กลัว
รวม 8 หนังดังยุค 2000s หวนสู่วันวานที่คิดถึงใน Disney+
10 เพลย์ลิสต์เรียนภาษาอังกฤษในยูทูบ ฝึกภาษาด้วยตัวเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน
รวม 6 ซีรีส์ภาษาอังกฤษใน Netflix ดูเพลิน ๆ ไม่มีเบื่อ

  1  

SkillLane

มาเริ่มที่เว็บไซต์แรก เป็นเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมคอร์สเรียนในการอัปสกิลมากมายหลากหลายด้าน ซึ่งนั่นก็คือเว็บไซต์ SkillLane โดยจุดเด่นของ SkillLane คือเป็นเว็บคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่มีคอร์สให้เลือกหลากหลายรูปแบบจากติวเตอร์หรือผู้สอนหลากหลายท่าน

รวมถึงยังมีหลายระดับให้เลือกเรียน ตั้งแต่คอร์สการเรียนเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันหรือระดับเริ่มต้น ไปจนถึงคอร์สการเรียนเพื่อการสอบต่างๆ เช่น TOEIC หรือแม้กระทั่งการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับพรีเซนต์งานต่างๆ บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งเว็บดีๆ ที่เหมาะกับคนที่ต้องการตัวเลือกหลากหลายสุดๆ 

ค่าใช้จ่าย : มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย โดยขึ้นอยู่กับแต่ละคอร์ส
คอร์สออนไลน์ภาษา (skilllane.com)

  2  

Coursera

เว็บไซต์ต่อมาคือเว็บไซต์อัปสกิลชื่อดังอีกเว็บไซต์นึงไม่แพ้ SkillLane นั่นก็คือ Coursera ซึ่งจุดเด่นคือมีคอร์สที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ระยะสั้น คอร์สเรียนวิชาชีพ ไปจนถึง คอร์สเรียนในระดับปริญญาตรีและโท มีคอร์สที่มาจากผู้สอนที่เป็นอาจารย์ หรือคอร์สสถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัย และยังมีจุดเด่นอีกหนึ่งอย่าง คือ เว็บนี้จะมีองค์กรหรือหน่วยงานชั้นนำระดับโลกเข้ามาร่วมจัดหลักสูตรคอร์สออนไลน์ด้วยนะ

สำหรับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่นี่จะสำหรับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ของที่นี่ จะมีหมวดหมู่ให้เลือกเรียนได้อย่างน่าสนใจและหลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็น คอร์สสอนการเขียนเป็นวิทยาศาสตร์ คอร์สการสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ มีทั้งคอร์สที่ให้เรียนฟรี หรือเสียตังให้เลือกได้อีกด้วย มีความหลากหลายแม้กระทั่งของช่วงเวลาที่จะเรียนว่าเรียนแบบกี่เดือน: 3-6 เดือน หรือแม้กระทั้งเลือกเป็นระดับ 1-4 ปี 

บอกเลยว่าใครที่ต้องการอัปสกิลแบบเป็นกิจลักษณะ มีใบประกาศนียบัตร หรือมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจง บอกเลยว่าต้องไม่พลาด Coursera

ค่าใช้จ่าย : มีทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
Top English Courses – Learn English Online (coursera.org)

  3  

edX

สำหรับเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ต่อมาคือเว็บไซต์ edX ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่อาจจะไม่ได้ต้องการ Certificates จากการเรียน เพราะหลายๆ คอร์สจะเป็นแบบฟรี และมีให้เลือกว่าเราจะเอา Certificates หรือไม่ ถ้าเราไม่ต้องการ เราก็จะสามารถเรียนบางคอร์สได้ฟรี แต่ถ้าเราอยากได้ Certificates จากคอร์สฟรีนั้นๆ ก็จะต้องเสียเงินเพิ่ม โดยจะคิดเป็นรายคอร์ส จุดเด่นของ edX ก็คือจะมีคอร์สจาก มหาวิทยาลัยที่อยู่ใน Ivy League เยอะมาก หา Course ที่ต้องการได้ง่าย และเว็บไซต์ก็สามารถใช้ได้ง่ายอีกด้วยนะ 

โดยคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ของที่นี่ จะมีความหลากหลายและครอบคลุมสุดๆ ตั้งแต่คอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบทั่วไป อย่างภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร, ภาษาอังกฤษสำหรับ TOEFLS ไปจนถึงภาษาอังกฤษสำหรับนักข่าว บอกเลยว่าคอร์สภาษาอังกฤษจากที่นี่ครบเครื่องสุดๆ

ค่าใช้จ่าย : มีทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
edX | Free Online Courses by Harvard, MIT, & more | edX

  4  

ESOL Courses

เว็บไซต์ต่อมาคือเว็บไซต์คือ ESOL Courses เป็นเว็บไซต์ที่มีให้เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี ลักษณะของเว็บไซต์จะไม่ใช่รูปแบบของการเรียนกับติวเตอร์ แต่จะมีบทเรียนให้เราสามารถกดเข้าไปดูหรือเข้าไปเรียนได้

โดยข้างในเว็บไซต์ที่ให้เรียนภาษาอังกฤษ จะมีการแบ่งระดับภาษาให้เราได้เลือกให้เหมาะสมกับเรา แถมยังมีการแบ่งสกิลที่เราอยากเรียนให้เลือกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการฟัง พูด อ่าน เขียน คำศัพท์ หรือแม้กระทั่งการใช้ในการทำงาน และนอกจากนี้ยังมีเกม Puzzles เล็กๆ น้อยให้เราได้เล่นกันเพลินๆ แถมได้ฝึกภาษาอังกฤษไปด้วยในตัวกันเลยทีเดียวววว~~

ค่าใช้จ่าย : ฟรี
English for Beginners and Young Learners – Online English Lessons, Exercises, Games and Quizzes (esolcourses.com)

  5  

GLOBISH

สำหรับเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์อันถัดมาก็คือ Globish เป็นเว็บไซต์ที่เน้นการใช้ภาษาอังกฤษในที่ทำงาน ชาววัยทำงานคนไหน กำลังมองหาเว็บไซต์ที่มีคอร์สเรียนแบบเฉพาะเจาะจงที่เน้นการใช้ในที่ทำงาน บอกเลยว่าไม่ควรพลาดสุดๆ โดยหลักสูตรของ Globish มีการรับรองจาก สถาบันวิเคราะห์ทางด้านการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการโดยรัฐบาลประเทศฟินแลนด์ และสามารถวัดผลได้ตามมาตรฐาน CEFR ที่คิดค้นโดยสภายุโรปและเคมบริดจ์เลยนะ ซึ่งตัว CEFR นี้ ถือเป็นมาตรฐานหลักที่ใช้วัด ทักษะการสื่อสาร” ให้กับทุกภาษาทั่วโลกอีกด้วย

โดยรูปแบบการเรียนมีด้วยกัน 4 รูปแบบหลักๆ คือ
1. Private Class เรียนแบบตัวต่อตัวกับโค้ชชาวต่างชาติ
2. Discussion Class คลาสเรียนกลุ่มเล็กกับโค้ชและเพื่อนในระดับภาษาเดียวกัน
3. Group Class with Natives คลาสเรียนกลุ่มกับโค้ชและเพื่อนจากหลายเชื้อชาติ
4. AI Based E-learning เรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านบทเรียนตามสายอาชีพและทักษะ
ซึ่งบนตัวเว็บไซต์ จะมีรีวิวจากนักเรียนจริงให้เราอ่านและยังมีให้ทดสอบระดับภาษาฟรี!!

ค่าใช้จ่าย : วัดระดับภาษาฟรี, คอร์สเรียนเสียค่าใช้จ่าย
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ สำหรับวัยทำงาน (globish.co.th)

  6  

British Council

มาต่อกันที่เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ของสถาบันชื่อดัง ที่เปิดมาอย่างยาวนานในประเทศไทยอย่าง British Council โดยตัวเว็บไซต์มีคอร์สสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก และเราสามารถทดสอบระดับภาษาอังกฤษได้ฟรีอีกด้วย จุดเด่นเลยคือ British Council เขามีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้วย และยังมีคอร์สที่น่าจะเหมาะกับใครหลายๆ คนด้วยนะ 

ยกตัวอย่างเช่น คอร์สที่พัฒนาทักษะให้ดีขึ้นด้วยการพิจารณาหัวข้อให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นๆ โดยในแต่ละสัปดาห์ของหลักสูตร และจะได้ศึกษาหัวข้อในเชิงลึก รวมทั้งแชร์แนวความคิดหรือประสบการณ์อีกด้วย, คอร์สเรียนแบบ 1 ต่อ 1 และที่น่าสนใจสุดๆ เลยก็คือ มีคอร์สเรียนแบบ 30 นาทีในราคาเพียงแค่ 39 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีคอร์สที่เป็นลักษณะแบบให้เรียนด้วยตัวเองด้วยนะ เหมาะกับคนที่อยากเรียนด้วยตัวเองสุดๆ

ค่าใช้จ่าย : วัดระดับภาษาฟรี, คอร์สเรียนเสียค่าใช้จ่าย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ | British Council

  7  

Engfinity

เว็บไซต์ต่อมาคือ Engfinity จุดเด่นของเว็บไซต์คือเป็นเว็บที่มีให้เลือกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่เฉพาะเจาะจง เช่นคอร์สเรียนแบบ Private หรือภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับใครที่ไม่มีพื้นฐาน Engfinity ก็ยังมีคอร์สที่เหมาะสมอีกด้วย

ถ้าเกิดสนใจล่ะก็สามารถเข้าไปทดลองเรียนฟรีได้อีกด้วย และยังมีรีวิวจากนักเรียนที่เคยเรียนกับเว็บไซต์มาให้อ่าน เพื่อตัดสินใจกันได้อีกด้วยนะ บอกเลยว่าเป็น 1 ในตัวเลือกที่น่าสนใจสุดๆ 

นอกจากนี้เว็บไซต์ของ Engfinity กยังมีบทความภาษาอังกฤษซึ่งเป็นทริคเล็กๆ น้อยๆ ช่วยให้เก่งภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น และบทความนี้สามารถเข้าไปอ่านได้แบบฟรีๆ กันเลย

ค่าใช้จ่าย : ทดลองเรียนฟรี, ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับแต่ละคอร์ส
เรียนภาษาอังกฤษกับคอร์สที่ตอบโจทย์ | สถาบันสอนภาษาอังกฤษ Engfinity

  8  

The Best English

เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์อันถัดมาคือ The Best English เป็นเว็บไซต์ที่มีลักษณะการใช้งานเป็นภาษาไทย โดยจะมีหมวดให้เลือกด้วยกัน 3 หมวดหลักๆ คือ

1. English for work หรือ ภาษาอังกฤษสำหรับการทำงาน
2. English for life หรือ ภาษาอังกฤษสำหรับทุกสถานการณ์ในชีวิต
3. English for exam หรือ ภาษาอังกฤษสำหรับการเตรียมสอบ

โดยก่อนที่จะเลือกเรียนแต่ละคอร์ส เขาจะมีให้เรากดรับคำปรึกษาเพื่อหาคอร์สที่เหมาะกับเรานั่นเอง นอกจากนี้จุดเด่นของเว็บไซต์ คือ มีรีวิวจากนักเรียนให้เรากดอ่านได้ และยังมีพี่ฟิล์ม รัฐภูมิ มาเป็นพรีเซนเตอร์ซึ่งเป็นนักเรียนจริงๆ ของ The Best English อีกด้วย ใครที่เป็น FC ของพี่ฟิล์มก็ไม่ควรพลาดน้าาา

ค่าใช้จ่าย : เสียค่าใช้จ่าย
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ (ออนไลน์) | ตัวต่อตัว – The Best English

  9  

Engduo

สำหรับเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์อันต่อมา คือ EngDuo ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่มีลักษณะการใช้งานเป็นแบบภาษาไทยแบบตัวต่อตัว โดยจะมีคอร์สให้เลือกเรียนหลักๆ ด้วยกัน 5 คอร์สคือ

1. ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
2. ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน
3. ภาษาอังกฤษเพื่อการสัมภาษณ์
4. ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก
5. คอร์สเรียน IELTS ออนไลน์

Engduo จะเป็นการเรียนแบบออนไลน์ที่มีคุณครูหลากหลายแบบให้เราเลือกเรียนได้ตรงตามใจ ทั้งครูที่เป็นเจ้าของภาษานั้นเลย และครูที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 โดยเราสามารถออกแบบคลาสได้ตามความต้องการ จะเรียนทุกวัน วันละ 30 นาทีก็ได้ หรือถ้าอยากเรียนเพิ่มก็ทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ตัวเว็บไซต์ยังมีรีวิวจากนักเรียน และมีบทความเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษที่น่าสนใจให้อ่านฟรีๆ อีกด้วยนะ

ค่าใช้จ่าย : เสียค่าใช้จ่าย
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ ตัวต่อตัว กับครูชาวต่างชาติ | Engduo Thailand

  10  

EngOO

มาต่อกับเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ชื่อ EngOO ซึ่งเป็นการใช้งานเว็บไซต์เป็นภาษาไทย เป็นเว็บไซต์ที่เจาะจงไปที่ภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ ซึ่งจุดเด่นคือสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้ง่ายๆ แบบตัวต่อตัวเพียงแค่ 25 นาทีเท่านั้น มีครูสอนถึง 11,039 คนจาก 114 ประเทศเลยนะะะ มีเอกสารประกอบการเรียนให้ตั้งแต่ระดับเรียนรู้ขั้นพื้นฐานไปจนถึงการเรียนเพื่อพูดแบบเจ้าของภาษา โดยสนนราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 2,160 บาท/เดือน

โดยตัวคอร์สจะมีให้เราเลือกได้ทั้งหมด 3 ประเภทแบ่งเป็น
1. Standard → ราคาย่อมเยา เรียนจากครูที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2
2. Premium Lite → สามารถค้นหาครูที่ตรงใจได้และอัพเกรดบทเรียนครึ่งนึงเพื่อเรียนกับครูเจ้าของภาษา
3. Premium → เรียนรู้จากเจ้าของภาษาได้เลย 

ไม่เพียงแค่นี้ EngOO มีโปรไฟล์ครูสอนภาษาอังกฤษให้เราดูด้วยนะ และที่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่เข้ามาในเว็บไซต์สุดๆ ก็คือมี Blog หรือ บทความเกี่ยวกับเทคนิคหรือความรู้ภาษาอังกฤษให้เราอ่านแบบฟรีๆ อีกด้วย บอกเลยว่าน่าสนใจสุดๆ

ค่าใช้จ่าย : เสียค่าใช้จ่าย
engoo | แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ตัวต่อตัว

  11  

Udemy

สำหรับเว็บไซต์ Udemy เป็นเว็บไซต์การเรียนที่มีครอบคลุมหลากหลายเรื่องมากๆ ตั้งแต่เรื่องการเรียนทางวิชาการไปจนถึงเรื่องศิลปะ การออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งดนตรีกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นคือสามารถสมัครเข้ามาเป็นคนสอนใน Udemy ได้อีกด้วย โดยเว็บนี้มีฐานนักเรียนครอบคลุมไปทั่วโลก ตัวเว็บไซต์จึงสามารถเลือกใช้งานได้ถึง 17 ภาษา ซึ่งครอบคลุมภาษาไทยด้วย

สำหรับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบเช่นเดียวกับเว็บไซต์อื่นๆ เช่นหัวข้อ IELTS, การสื่อสารทางภาษาอังกฤษ จุดเด่นอีก 1 อย่างของ Udemy คือมี Interface ที่แบ่งว่าคอร์สไหนเป็นคอร์สที่มาใหม่ คอร์สยอดนิยม หรือคอร์สที่มือใหม่มักจะชอบ

ค่าใช้จ่าย : เสียค่าใช้จ่ายโดยขึ้นอยู่กับแต่ละคอร์ส
Online Courses – Learn Anything, On Your Schedule | Udemy

  12  

Busuu

สำหรับเว็บไซต์ต่อมาคือเว็บไซต์ Busuu เป็นเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่มีจุดเด่นคือสามารถเลือกเรียนได้มากกว่า 11 ภาษา ตั้งแต่ภาษาอังกฤษ เยอรมัน สเปน จีน ญี่ปุ่น อิตาลี ฯลฯ ไปจนถึงภาษาอย่างภาษาอารบิก หรือตุรกีซึ่ง Concept ที่น่าสนใจของเว็บไซต์นี้เลยก็คือการที่เราสามารถตั้งเป้าหมายที่เวลาที่จะใช้ในการเรียนรู้ได้ เช่น 10 นาที ไปจนถึง 25 นาทีต่อ 1 วัน

นอกจากนี้ยังสามารถที่จะวัดระดับภาษาอังกฤษของตัวเราเองได้อีกด้วย ตัวเว็บไซต์ Busuu ยังมี Features ที่น่าสนใจอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น การหา Community เพื่อพูดคุยกับ English Speakers หรือผู้คนที่พูดภาษาอังกฤษ เพื่อให้เราได้พัฒนาตัวเองได้ และยังมี Features ที่ให้เรา Review คำศัพท์ต่างๆ ว่าเราถนัดหรือไม่ถนัดคำศัพท์ไหนอย่างไรบ้าง

โดยตัวเว็บไซต์จะเป็นลักษณะการให้ใช้ฟรี แต่เราสามารถที่จะจ่ายเงินเพื่อปลดล็อค Features บางอย่างแบบ Unlimited ได้อีกด้วย และยังสามารถทดลองใช้ฟรีได้ด้วยนะ

ค่าใช้จ่าย : ฟรี, จ่ายเงินเพื่อปลดล็อค Features บางอย่าง
Learn English: Free Online Course for All Levels – Busuu

  13  

CHULA MOOC

สำหรับเว็บไซต์ต่อไปเป็นเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศนั่นก็คือ Chula Mooc ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จุดเด่นคือมีคอร์สเรียนให้เลือก 5 เรื่อง คือ ภาษา เทคโนโลยี การจัดการ ศิลปะและการพัฒนาตัวเอง และสุขภาพ 

โดยแต่ละคอร์สจะมีให้ลงทะเบียน และมีการกำหนดจำนวนรับเอาไว้ โดยจะมีการกำหนดช่วงในการรับลงทะเบียนหรือเริ่มเรียนเอาไว้ และจะมีบางคอร์สที่สามารถเรียนได้ทั้งปี ทั้งหมดในเว็บไซต์สามารถเรียนได้ฟรี แต่จุดด้อยก็คือการที่มีคอร์สเรียนให้เลือกน้อยกว่าเว็บไซต์อื่นๆ เล็กน้อย

ค่าใช้จ่าย : ฟรี
CHULA MOOC | คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  14  

MUx

เว็บไซต์ต่อมาคือเว็บไซต์ MUx ของมหาลัยชื่อดังอีก 1 แห่งของประเทศไทยนั่นก็คือมหาวิทยาลัยมหิดล จุดเด่นของ MUx จะมีความคล้ายๆ กับ Chula Mooc คือมีคอร์สให้เลือกหลายด้าน หลายวิชา โดยจะเปิดให้มีการลงทะเบียนเรียนฟรี แต่ว่าไม่ได้มีกำหนดจำนวนรับเอาไว้ 

โดย MUx จะเป็นคอร์สที่เปิดจากคณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัย และจะมีการสอนโดยอาจารย์ แต่ ​MUx มีจุดด้อยคือมีคอร์สเรียนให้เลือกน้อยกว่าเว็บไซต์อื่นๆ ตัวอย่างคอร์สภาษาอังกฤษที่น่าสนใจคือคอร์สการสื่อสารภาษาอังกฤษ

ค่าใช้จ่าย : ฟรี
หลักสูตร | MOOC (mahidol.ac.th)

  15  

ภาษาอังกฤษออนไลน์

สำหรับเว็บไซต์ต่อมาเป็นเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี ที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นจะเรียนภาษาอังกฤษเป็นเว็บไซต์ที่มีชื่อไทยนั่นก็คือ www.ภาษาอังกฤษออนไลน์.com ซึ่งจะมีบทเรียนที่เหมาะกับกลุ่มคนด้วยกันหลักๆ 3 กลุ่มคือ เด็ก นักเรียน และครู นั่นเอง ใครที่ตอนนี้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษบอกเลยว่าเหมาะสุดๆ