- เพราะใช้เป็นเกณฑ์ในการรับเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาต่างๆ ในต่างประเทศ
- เป็นเกณฑ์ในการได้รับวีซ่าทำงานหรือท่องเที่ยวในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก
- ช่วยในการสมัครงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในภาษาหลัก
การเตรียมสอบ ielts
ต้องรู้จัก ทำความเข้าใจพื้นฐานไวยากรณ์
และรูปแบบแนวข้อสอบของ IELTS
ทำไมเราถึงต้องรู้จักและทำความเข้าใจพื้นฐานของไวยากรณ์ ก็เพราะการที่เราได้เข้าใจจะช่วยให้เรามีเป้าหมายในการสอบ และรู้ว่าตัวเองต้องปรับปรุงภาษาอังกฤษตรงไหน อาทิ
ช่วยให้เราเข้าใจรูปแบบการสอบ : การที่เราเข้าใจก่อนจะช่วยให้เราได้มีเวลาเตรียมตัวสอบ IELTS ได้มากขึ้น เพราะว่าการสอบส่วนใหญ่จะมี 4 พาร์ทหลักๆ ไม่ว่า อ่าน เขียน พูด และฟัง การที่เราได้เข้าใจโครงสร้างก่อนจะช่วยให้รู้ประโยคและศัพท์ต่างๆ ได้ดีขึ้นนั่นเอง
ช่วยให้เราปรับปรุงทักษะภาษา : การที่เราเข้าใจไวยากรณ์ จะช่วยให้เรารู้ว่าใช้ภาษาอังกฤษได้มากน้อยแค่ไหน เช่น การใช้คำกริยา, กริยาช่วย ใช้ยังไง โครงสร้างเป็นยังไง ทำไมรูปประโยคถึงเป็นแบบนี้ การที่รู้เบื้องต้นจะทำให้รู้รูปแบบการเรียนจึงจะทำให้การเรียนง่ายขึ้นนั่นเอง
ช่วยเพิ่มความมั่นใจ : การที่เรารู้ไวยากรณ์จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในภาษาอังกฤษ ในการเผชิญหน้ากับการเขียน Essay, discussion, presentations, การพูดคุยได้มากยิ่งขึ้น
วางแผนจัดตารางการเรียนภาษาให้เหมาะสม
อย่างที่ 2 ลองตั้งเป้าวางแผนตารางการเรียนของตัวเองให้ไม่กระทบชีวิตส่วนตัว เช่น วันที่ 1-3 จะจำคำศัพท์วันละ 10-30 ตัวให้มากที่สุด วันที่ 4-5 จะเน้นการเขียน วันที่ 6-7 จะเน้นการฟัง วันที่ 8-9 จะเน้นการพูด วันที่ 10 จะเน้นทำแบบทดสอบ และอาจจะวนลูปไปเรื่อยๆ เพื่อให้ตัวเองย้ำคิดย้ำทำ
และที่สำคัญเลยก่อนจะทำอย่าลืมจัดระเบียบตัวเองก่อน อาจจะใช้เวลาโฟกัสการเรียน 40 นาที พัก 10-15 นาที ระหว่างเรียนต้องเลี่ยงอุปกรณ์ที่ทำให้เสียสมาธิ และปิดแจ้งเตือนทั้งหมดเพื่อไม่ให้มีคนรบกวน
เรียนรู้คำศัพท์ที่มีประโยชน์อย่างน้อย 5 คำทุกวัน
ใครจะไปรู้ล่ะว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ อาจส่งผลช่วยให้เราจำไปได้ตลอดชีวิต เทคนิคนี้เป็นอีกวิธีที่ต่างชาตินิยมทำกันเยอะมาก เพราะการจำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย ในความหมายแปลกๆ จะส่งผลต่อสมองให้เราจดจำมากขึ้น คิดดูว่าใน 24 ชั่วโมง เรานั่งจำศัพท์เพียงแค่ 5 คำ จึงทำให้สมองของเรามีพื้นที่มากขึ้น ไม่แน่น แถมยัง ปลอดโปร่งไม่กดดันนั่นเอง เช่น
- architecture > สถาปัตยกรรม
- addictive > เสพติด
- anarchy > อนาธิปไตย
- agitate > ปั่นป่วน
- aggravate > ซ้ำเติม, ขยี้ให้แย่ลง
ศัพท์ที่เราเอามานั้นเป็นศัพท์ที่อาจเจอใน IELTS โดยใน 5 คำนี้เราอาจจะเน้นไปที่ตัว A เพื่อเรียงลำดับก่อนก็ได้ แน่นอนว่ามีหลายคำอาจจะดูและฟังยากไปบ้าง แต่บอกก่อนว่าแค่เพียง 5 คำนี้จะช่วยให้เราได้เรียนรู้ทั้ง การอ่าน เขียน พูด เน้นๆ อย่างตรงจุดเลย
ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษดังๆ อย่างน้อย 20-30 นาทีต่อวัน
การพูดระหว่างท่องจำไปด้วย เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกับการอ่านออกเสียง ซึ่งข้อดีของการพูดระหว่างท่องไปด้วย จะช่วยให้เราสามารถจำได้ระยะยาวมากกว่าการอ่านหรือท่องแบบเงียบๆ
นอกจากนี้ยังมีวิจัยเคยบอกอีกด้วยว่า ยิ่งอัดวิดีโอ หรืออัดเสียงของตัวเองไปด้วย จะช่วยเพิ่มอัตราการจำได้ดีกว่านั่งจำหรือฟังจากคนอื่น ซึ่งผลการศึกษาพบว่านักเรียนที่ฟังเสียงอัดของตัวเองจะยิ่งมีอัตราการจำได้ดีกว่าการฟังเสียงของคนอื่น
ดังนั้นการท่องศัพท์ภาษาอังกฤษดังๆ จึงช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ได้ดีมากขึ้น
อ่านหนังสือพิมพ์ บทความสั้นๆ หนังสือดังๆ เพื่อพัฒนาการอ่าน
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว เหมือนกับการอ่านที่อาจไม่ได้คล่องในหนึ่งวัน เพราะงั้นวิธีการอ่านที่ดีที่สุด ก็คือการอ่านที่มีความท้าทายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การอ่านหนังสือพิมพ์, นิตยสาร, บทความ, ข่าว BBC, CNN ต่างประเทศ
เป็นอีกวิธีที่จะช่วยพัฒนาการอ่านได้ดีมาก เพราะบทความจากหนังสือต่างๆ มักจะใช้คำศัพท์แปลกใหม่ รูปประโยคไวยากรณ์ที่ถูกต้อง ฉะนั้นเลยเป็นแบบอย่างในการอ่านได้มากขึ้น
ฝึกการเขียนด้วยเรียงความ หรือบทความเล็กๆ น้อยๆ
เกี่ยวกับหนังสือ หรือไปร้านอาหารและลองเขียนรีวิว
ต่อมาฝึกการเขียน ด้วยการเริ่มจากการลองเขียนบาความเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับหนังสือที่ชอบ หรือใครอยากประยุกต์ต่อยอดกับสิ่งที่ชอบก็สามารถทำได้เหมือนกัน เช่น ถ้าเราชอบกิน เราก็ลองไปกินร้านอาหารที่ชอบสักร้าน แล้วลองนำเรื่องราวจากการไปเจอ มาบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ
ไม่ว่าจะเป็น เรื่องรสชาติ บรรยากาศร้าน เมนูโปรด รวมถึงการเดินทางไปกิน ก็เป็นอีกหัวข้อที่ทำให้เรารู้สึกอยากเขียนออกมาด้วยตั้งใจจริง ส่วนอยากรู้ว่าถูกไม่ถูก ก็อาจหาเพื่อนเก่งภาษา หรืออาจารย์ คนรู้จัก หรือเพื่อนทางออนไลน์ ได้อ่านและคอมเม้นให้เราว่ารู้สึกยังไงบ้าง อ่านเข้าใจมั้ยก็พอ
ฟังพอดแคสต์, ฟังข่าว รายการทีวี , ดูหนัง พัฒนาการฟัง
ต่อด้วยการพัฒนาการฟัง ที่เราอาจเน้นการฟังด้วยวิธีต่างๆ แล้วแต่คนจะถนัด แต่ที่เราจะมาบอกต่อก็คือดารฝึกภาษา ด้วยการกับเพื่อน หาเพื่อนต่างชาติ หรือหาคนที่เก่งภาษาอังกฤษมาช่วยพูดกรอกหูบ่อยๆ ก็ช่วยได้มาก หรือสำหรับใครอยากฟังแบบจัดเต็ม เสียงพูดเพราะๆ ฟังเพลินๆ พอดแคสต์ก็เป็นอีกตัวช่วยที่ดีมาก เช่น ช่องคำนี้ดี จาก The standard ช่วยได้เยอะมาก
หรือจะเป็นรายการทีวี ที่มีรายการเรียลลิตี้ รายการบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น FOX, HBO, CBS, CNN ซึ่งในบางรายการก็มี Sub cc บรรยายภาษาอังกฤษให้ด้วย และอีกแบบที่นิยมมากๆ คือ การดูหนัง ภาพยนตร์ ฉบับ soundtrack อาจจะเลือกหนังโปรดที่เราชื่นชอบ และดูเป็นประจำหลายครั้ง แล้วคราวนี้อาจจะลองมาฝึกสมาธิและจดจ่อกับการฟังให้มากขึ้นกว่าเดิม
ค้นหาศัพท์ให้เป็นนิสัย หากไม่เข้าใจคำหรือประโยค
เชื่อสิบนโลกของเราถึงแม้ว่าจะเก่งภาษามากน้อยขนาดไหน ก็ต้องมีคำที่บางคนไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะงั้นอย่าคิดว่าการไม่รู้เป็นเรื่องที่น่าอาย หรือเรื่องที่ผิด สิ่งเดียวที่เราต้องใส่ใจเลยคือเราต้องติดนิสัยความสงสัย
และความกล้าในการถามความหมายเอาไว้เสมอ เพื่อค้นหาศัพท์แปลกๆ ที่ไม่เข้าใจจนกว่าจะเข้าใจให้มากที่สุด แล้วสมองของเราจะจำได้เอง แม้ว่าจะต้องค้นคำเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผ่อนคลายสมอง ย้ำภาษาอังกฤษด้วยไลฟ์สไตล์ที่ชอบ
สำหรับข้อนี้ฟรีสไตล์เลย เพราะว่าคนเรามักน่าจะจะมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน คราวนี้เราจะเอาสิ่งที่เราชอบ มาประยุกต์ให้ฝึกภาษาไปในตัวด้วย อย่างเช่น เราชอบเล่นวิดีโอเกม เหมเหล่านี้จะมีสตอรี่ของมันอยู่ และเรื่องราวส่วนมากก็มักเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งศัพท์ในเกมจะมีแปลกๆ เยอะ คำไหนสงสัยก็ต้องค้นหาเพื่อเป็นนิสัย
หรือจะเล่นเกมออนไลน์คุยกับเพื่อนต่างชาติ ไม่ต้องกลัวว่าจะพูดไม่ได้ เพราะการที่เราเล่นเกมเดียวกับ อยู่วงการเดียวกัน เราจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร อาจใช้การคาดเดา แล้วเราจะรู้จุดได้เอง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เราจะอัปภาษาได้มากขึ้น!!
Test จำลองสอบ IELTS ให้ได้มากที่สุด
และสิ่งสำคัญของการสอบ IELTS ที่เราต้องให้ความสนใจมากๆ นั่นก็คือ Test ข้อสอบจำลองของ IELTS นั่นเอง เดี๋ยวนี้แนวทางข้อสอบมีออกมาเยอะแยะมาก ถึงแม้โจทย์หรือข้อสอบจะแตกต่างกันไป
แต่ถ้าเรารู้จักโครงสร้างของแนวทางข้อสอบของ Ielts จริงๆ จะทำให้เรารู้รูปแบบของข้อสอบ คำถาม คำตอบ ข้อดีของการเข้าใจรูปแบบจะทำให้เรารู้ว่าวิธีการตอบแบบไหน ถึงจะมีได้คะแนนสูงขึ้นนั่นเอง